ข่าว

เครือข่ายต้านสารเคมีฯ ยังไม่วางใจคกก.วัตถุอันตราย

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

เครือข่ายต้านสารเคมีฯ ยังไม่วางใจคกก.วัตถุอันตราย กลัวผิดหวังครั้งที่ 3 เรียกร้องนายกฯ แบน 3 สารพิษภายในปีนี้ หากยื้อเวลาม็อบผู้บริโภคลุกฮือทั่วประเทศแน่

 

10 ตุลาคม 2562 นายวิฑูรย์ เลี่ยนจำรูญ ผอ.มูลนิธิชีววิถี (ไบโอไทย) กล่าวว่า ไม่ผิดหวังที่ไม่ได้พบรมว. เกษตรและสหกรณ์ เพราะท่านไม่สบายจริง ๆ เช่นเดียวกับน.ส.มนัญญา ไทยเศรษฐ์ รมช.เกษตรและสหกรณ์  

 

ที่ต้องพักฟื้นที่รพ.สมิตเวช หลังการประชุมแบน 3 สาร เพราะคงโดนกดดันมาตลอด ซึ่งอยากขอให้ข้อเสนอการแบน 3 สาร ของกระทรวงเกษตรฯ ที่จะนำเสนอคณะกรรมการวัตถุอันตราย ให้มีความหนักแน่นและสมบูรณ์ เพื่อจะได้ไม่ผิดหวังเหมือน 2 ครั้งที่ผ่านมา ที่คณะกรรมการวัตถุอันตราย ยืดระยะเวลาการแบนสารพิษออกไป

 

ขอเรียกร้องให้กระทรวงที่เกี่ยวข้องทั้งหมด เสนอให้คณะกรรมการวัตถุอันตราย มีการลงมติแบบเปิดเผย ไม่ใช่ลงมติลับเหมือนที่ผ่านมา เพราะตัวแทนหน่วยงานมีถึง 19 คน และมีกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ 10 คน ซึ่งผู้ทรงคุณวุฒิ 3 คน มีส่วนเกี่ยวข้องกับบริษัทค้าสารเคมีข้ามชาติ และบริษัทนำเข้าสารเคมี อย่าให้เกิดเหมือนครั้งที่ผ่านมา ที่ลงมติให้ใช้ต่อ โดยอ้างว่ายังไม่มีสารทางเลือก  

 

พวกเรากังวลอย่างเดียว รัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องจะแบน 3 สาร แต่ในท้ายที่สุดจะเกิดขึ้นจริงหรือไม่ จะต้องจับตาดูอย่างใกล้ชิด หากดูกรอบเวลาจะต้องมีการประชุมคณะกรรมการวัตถุอันตรายภายใน 2 สัปดาห์นี้ เพื่อให้การแบน 3 สาร มีผลบังคับใช้ทันวันที่ 1 ธ.ค.นี้ ตามที่ รมช.มนัญญา เสนอ และเรียกร้องนายกฯ จะต้องเห็นผลประโยชน์ของประชาชนส่วนใหญ่

 

ต้องมีมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรที่ลงทะเบียนจะใช้สารเคมีจำนวน 4 แสนราย ให้ปรับเปลี่ยนจากการใช้สารเคมีไปสู่เกษตรปลอดสาร ซึ่งรัฐต้องสนับสนุนเกษตรกรเหล่านี้ เพราะที่ผ่านมารัฐอำนวยความสะดวกให้เอกชน โดยไม่เก็บภาษีนำเข้าสารต่าง ๆ มากว่า 30 ปี อ้างว่าเกษตรกรจะได้มีต้นทุนราคาถูก และเชื่อว่าเมื่อเกษตรกรรู้พิษภัยของสารเคมี เกษตรกรจะไม่ยินยอมให้ผู้อื่นเอาสารพิษมาให้ใช้อีก อย่างไรก็ตาม จะติดตามท่าทีของพรรคประชาธิปัตย์ต่อไป

 

 

นายวิฑูรย์ กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ ภาคเอกชนยินดีที่จะมีการขับเคลื่อนร่วมกับพรรคประชาธิปัตย์ ในการเสนอร่าง พรบ.เกษตรกรรมยั่งยืน เนื่องจากมีการเรียกร้องจัดทำมายาวนาน เพราะเป็นเรื่องสำคัญมาก ในการรับประกันความปลอดภัยของผู้บริโภค และการจัดตั้งสถาบันเกษตรอินทรีย์ การขับเคลื่อนนี้มีความยากลำบาก จะต้องมีภาคประชาชนร่วมด้วยจึงจะสำเร็จ

 

โดยเฉพาะกฎหมายรับประกันสิทธิผู้บริโภค ได้รับอาหารปลอดภัย และพรบ.ควบคุมความปลอดภัยของอาหารอันเนื่องมาจากสารเคมีกำจัดศรัตรูพืช ที่จะต้องร่วมกันผลักดันให้เกิดขึ้นในประเทศไทย เพราะไม่ต้องการสารเคมีราคาถูกที่นำเข้ามาไม่เสียภาษี แต่ทำให้คนกินตาย และในสัปดาห์หน้าจะไปพบกับนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม เพื่อประสานคณะกรรมการวัตถุอันตราย สั่งแบน 3 สารภายในปีนี้ อย่ายืดเวลาไปถึงวันที่ 1 ม.ค.63 ตามที่มีกระแสข่าว ไม่อย่างนั้นประชาชนจะลุกขึ้นมาเรียกร้องสิทธิทั่วประเทศ เพราะไม่ต้องการอาหารราคาถูก แต่ฆ่าผู้บริโภค 


รายงานข่าวกระทรวงเกษตรฯ เปิดเผยว่าอดีตข้าราชการระดับสูงเกษตร ที่ผันตัวเองเป็นผู้นำเข้าสารเคมี 3 ชนิด ยังวิ่งเต้นเข้าหาผู้ใหญ่ในรัฐบาล เพื่อให้ยืดเวลาแบน 3 สาร ไปถึงเดือนม.ค.63 เพราะจะเคลียร์สต็อกมีมูลค่าเป็นพัน ๆ ล้านบาท เร่งส่งออกไปประเทศที่สามให้หมดโดยจะทำให้ขาดทุนน้อยลง หากประเทศไทยแบน 3 สาร จะทำให้ถูกกดราคาอย่างมากจากประเทศปลายทาง 

 

อย่างไรก็ตาม สารเคมีเหล่านี้นำเข้ามามีต้นทุนเพียงตันละ 7-800 บาท ที่ผ่านมาไม่ต้องเสียภาษีนำเข้า ส่งออกแต่อย่างใด โดยสร้างกำไรให้กับบริษัทค้าสาร  ได้ปีเป็นหมื่น ๆ ล้านบาท

 

นอกจากนี้อดีตราชการรายนี้ และหุ้นส่วน ยังถือครองที่ส.ป.ก.ไว้จำนวนมากหลายร้อยไร่ ที่ วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา แต่กำลังจะถูกสำนักงานส.ป.ก.ฟ้องร้องขับไล่ ยึดพื้นที่คืน โดยระหว่างนี้ยังเจรจาต่อรองขอถือครอง 50ไร่ และวิ่งหานักการเมืองช่วยเคลียร์เรื่องที่ส.ป.ก.ให้ด้วย

 

 

 

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ