ข่าว

ร่องฝนลงใต้ 12จว. เสี่ยง

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"เฉลิมชัย" สั่งตั้งศูนย์ส่วนหน้ารับแนวร่องฝนภาคลงใต้ ชี้เป้าฝนลงใต้ทำ 12 จังหวัด เสี่ยงท่วม

 

 

          นายทวีศักดิ์ ธนเดโชพล รองอธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยภายหลังเป็นประธานในการประชุมคณะอนุกรรมการติดตามและวิเคราะห์แนวโน้มสถานการณ์น้ำ ครั้งที่ 20/2562 ว่าที่ประชุมได้หารือเพื่อวางแผนในการบริหารน้ำและบริหารสถานการณ์ ตามคำสั่งของกองอำนวยการน้ำแห่งชาติที่ได้สั่งการ เพื่อให้ได้มาตรการเชิงรุกสำหรับการรับมืออุทกภัยในฤดูฝนของภาคใต้ช่วงเดือน ตุลาคม ซึ่งกองอำนายการชี้เป้าไว้ ว่าในเดือน ตุลาคม 2562 มี 12 จังหวัดทั้งภาคใต้ และภาคตะวันออกที่ต้องเฝ้าระวังถึงเดือน พฤศจิกายน 2562 พร้อมกับนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรฯให้ตั้งศูนย์บัญชาการบริหารจัดการน้ำ (ส่วนหน้า) เพื่อรับมืออุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ ขึ้นในสัปดาห์หน้าเพื่อระดมความพร้อมทั้งเครื่องมือ เครื่องจักรกล ไว้ประจำจุดเสี่ยงน้ำท่วมทั้งหมด

 

          ทั้งนี้ ที่ประชุมได้มีมติ ให้หน่วยงานดำเนินการ ประกอบด้วย การทำเกณฑ์บริหารน้ำแบบไดนามิค ที่กรมชลประทานได้มีการทำขึ้นในสมัย พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ อดีต รมว.เกษตรและสหกรณ์ ได้ออกแบบกันไว้ คือ การบริหารน้ำในอ่างจะเป็นไปตามพลวัตร เช่น การระบายน้ำออกต้องสอดคล้องกับปริมาณน้ำที่ไหลเข้า การทำเกณฑ์บริหารน้ำในอ่างเก็บน้ำศรีนครินทร์ วชิราลงกรณ แก่งกระจาน และนฤบดินทร์จินดา เกณฑ์บริหารจัดการน้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดกลางที่มีปริมาณน้ำกักเก็บมากกว่า 50 ล้านลูกบาศก์เมตร(ลบ.ม.) ในภาคตะวันออก ภาคตะวันตกและภาคใต้ รวมถึงการทำผังแจ้งเตือนน้ำในแม่น้ำสายหลัก 18 สาย 12 จังหวัด อาทิ แม่น้ำเพชรบุรี แม่น้ำปราณบุรี แม่น้ำตาปี เป็นต้น ทั้งหมดให้รายงานในวันที่ 7 ตุลาคม นี้

 

          นอกจากนั้น ที่ประชุมได้มีมติร่วมกันในการทำเกณฑ์แจ้งเตือน เพื่อให้ไปในทางเดียวกันและกำหนดสีของการแจ้งเตือนภัยในชุดเดียวกัน ได้แก่ สีเขียวสถานะปกติ สีส้มสถานะเฝ้าระวัง และสีแดงสถานะอันตราย จากที่ก่อนหน้าหลายหน่วยงานใช้สีในการแจ้งเตือนภัยต่างกัน จึงเร่งประชาสัมพันธ์ให้หน่วยงานและประชาชนรับทราบโดยทั่วกัน เพื่อการเฝ้าระวังต่อไป

 

          “ทั้งนี้กรมชลฯ ได้สั่งการให้สำนักเครื่องจักรกล เตรียมความพร้อมอุปกรณ์ เครื่องมือ เครื่องจักร เครื่องผลักดันน้ำ เครื่องสูบน้ำ สะพานแบริ่ง และรถบรรทุก พร้อมในพื้นที่ดังกล่าว รวมทั้งประสานกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ดูแลอ่างเก็บน้ำในพื้นที่ ” รองอธิบดีกรมชลฯ กล่าว

 

          โดยพื้นที่ตอนล่างของประเทศไทย ซึ่งในเดือนตุลาคม 2562 มีจุดเสี่ยงภัยน้ำท่วม หรือน้ำล้นตลิ่ง 12 จังหวัด 51 อำเภอ 18 แม่น้ำ ประกอบด้วย จังหวัดชลบุรี จันทรบุรี ตราด เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช ชุมพร ระนอง พังงา กระบี่ และตรัง ส่วนในเดือนพฤศจิกายน 2562 มีจุดเสี่ยงภัยน้ำท่วมหรือน้ำล้นตลิ่ง 8 จังหวัด 44 อำเภอ 16 แม่น้ำ ประกอบด้วยจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช ชุมพร ระนอง นราธิวาส สงขลา และพัทลุง

 

          สำหรับสถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่และขนาดกลางทั่วประเทศ ปัจจุบัน (2 ต.ค. 62) มีปริมาณน้ำในอ่างฯรวมกัน 50,842 ล้านลูกบาศก์เมตร(ลบ.ม.) คิดเป็นร้อยละ 67 ของความจุเก็บกักรวมกัน โดยมีปริมาณน้ำใช้การได้ 25,913 ล้าน ลบ.ม. หรือร้อยละ 52 ของความจุอ่างฯรวมกัน สามารถรับน้ำได้อีกกว่า 25,000 ล้าน ลบ.ม. เฉพาะ 4 เขื่อนหลักลุ่มน้ำเจ้าพระยา (เขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน และเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์) มีปริมาณน้ำรวมกัน 12,217 ล้านลบ.ม. หรือร้อยละ 49 ของความจุอ่างฯรวมกัน มีปริมาณน้ำใช้การได้รวมกัน 5,521 ล้าน ลบ.ม. สามารถรองรับปริมาณน้ำตลอดในช่วงฤดูฝนนี้ได้รวมกันอีกกว่า 12,000 ล้าน ลบ.ม.

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
-ล้นทะลักแต่ไม่แตก กรมชลสยบข่าวเขื่อนพัง
-ยันอ่างเก็บน้ำ น้ำญวณต้องสร้างให้สำเร็จแก้ปัญหาแล้ง-ท่วม
-13 เขื่อนวิกฤติ ปริมาณน้ำใช้ติดลบ
-เมื่อเขื่อนเป็นจำเลย
 

 

 

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ