ข่าว

ผวาอหิวาต์หมูู พรึ่บ พันคนสแกนฟาร์ม

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ประภัตร ผวาโรคอหิวาต์หมู ป้องระบาดจากเพื่อนบ้านเข้าไทย เตรียมของบฉุกเฉิน สกัดโรคข้ามแดน ล่าสุดโผล่เมียนมา เพิ่มอัตรากำลังกว่า 1 พันคนตรวจสอบฟาร์มเลี้ยง


30 สิงหาคม 2562 ประภัตร สั่งเพิ่มอัตรากำลัง กว่า 1 พันคนตรวจสอบฟาร์มเลี้ยง และเคลื่อนย้ายสัตว์24ด่านตลอดแนวชายแดนทั่วประเทศ เร่งลงพื้นที่ท่าเรืออ.เชียงแสน เชียงราย ระดมอุดรอยรั่วจุดเสี่ยง 

 

 

นายประภัตร โพธสุธน รมช.เกษตรและสหกรณ์ ได้เรียกประชุมทุกภาคส่วนเพื่อยกระดับมาตรการป้องกันโรคระบาดอหิวาต์แอฟริกาในสุกร โดยกล่าวว่า โรคอหิวาต์สุกรได้เกิดระบาดมาทั่วโลกและลามเข้าทวีปเอเซีย จนขณะนี้เกิดโรคระบาดที่ประเทศเพื่อนบ้านรอบประเทศไทย และประเทศเมียนมา กำลังพบโรคระบาดล่าสุด ตนจึงเรียกทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ทั้งส่วนราชการ สมาคมปศุสัตว์ทั่วประเทศ ผู้เลี้ยงรายใหญ่ รายย่อย เพิ่มมาตรการป้องกันโรคนี้ไม่ให้เข้ามาระบาดในประเทศไทย

 

โดยสั่งเพิ่มอัตรากำลังคนกว่า 1 พันคน ไปช่วย 24 ปศุสัตว์ ร่วมทำงานตรวจสอบการเคลื่อนย้ายสัตว์ทุกด่านอย่างเข้มงวดมีความแข็งแรงมากขึ้นและร่วมกับเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ในพื้นที่ ดำเนินการมาตรการเฝ้าระวังโรคทั้งในประเทศและตลอดแนวชายแดนทุกด้าน พร้อมกันนี้จะเสนอนายกรัฐมนตรี เพื่อของบกลางฉุกเฉินสำหรับมาตรการเร่งด่วนรับมือและป้องกันโรคอหิวาต์สุกรเป็นวาระแห่งชาติ  

 

วันที่ 30 ส.ค.และ 1 ก.ย.จะลงพื้นที่จ.เชียงราย จัดประชุมทุกระดับ กำนัน ผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ป้องกันจุดเสี่ยงทั้งหมด สกัดโรคจากประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะที่ด่านท่าเรือ อ.เชียงแสน และแนวชายแดนไทย-เมียนมา  ซึ่งมีระยะทางยาวและกว้างมาก โดยงบปีที่แล้วเหลือ 100 ล้านบาท จะนำมาใช้ป้องกันและต้องขอเพิ่ม ยกระดับการเลี้ยงหมูรายย่อย ให้เป็นมาตรฐาน กรมปศุสัตว์เข้าแนะนำการเลี้ยงให้ถูกต้อง

 

ผวาอหิวาต์หมูู พรึ่บ พันคนสแกนฟาร์ม

 

ซึ่งการเลี้ยงหมูของไทยเป็นแหล่งสุดท้ายในอาเซียน เป็นแหล่งอาหารสำคัญ ต้องรักษาไว้ให้ได้ ถ้าเกิดแล้วต้องใช้เวลาเป็นปี ๆ กว่าจะทำให้โรคสงบ ขอประชาชนอย่าตระหนกกับโรคนี้ เพราะเป็นโรคที่ติดต่อระหว่างสุกรไปสู่สุกร ไม่ติดต่อสู่คน ยังบริโภคเนื้อสุกรได้ตามปกติ แต่หากเกิดโรคระบาดจะกระทบระบบเศรษฐกิจและเป็นภัยคุกคามความมั่นคงด้านอาหารของประเทศ ขณะนี้เหลือไทยประเทศเดียวที่ยังไม่เกิดโรคดังนั้นจะต้องรักษาไว้อย่างเต็มที่ให้ไทยเป็นแหล่งผลิตอาหารที่มีมาตรฐานเพื่อเป็นครัวโลก

 

นายสัตวแพทย์สรวิศ ธานีโต อธิบดีกรมปศุสัตว์ กล่าวว่า สถานการณ์โรคนี้เข้ามาทวีปเอเซียและเข้ามาระบาดในประเทศรอบบ้านเรา ล่าสุดเกิดโรคที่ประเทศเมียนมา นับเป็นความเสี่ยงของไทยขั้นสุด รมช.เกษตรฯจึงเชิญหารือทุกฝ่ายนำพาประเทศรอดพ้นจากภัยคุกคามนี้ ซึ่งเป็นความั่นคงทางอาหาร เพราะการเลี้ยงสุกรของไทยมีกว่า 20 กว่าล้านตัว มูลค่าเกือบสองแสนล้านบาท ซึ่งการป้องกันไม่ให้โรคเข้ามาในไทย จะได้ประโยชน์มหาศาล ทั้งเศรษฐกิจ และอุตสาหกรรมเกี่ยวข้อง ด้านอุตสาหกรรมอาหารสัตว์ การเกษตรที่ปลูกพืชที่ใช้ผลิตอาหารสัตว์ และภาคสังคม แม้โรคนี้ไม่ติดคน

 

รมช.เกษตรฯสั่งการให้ทำแผนมาใหม่ ยกระดับมาตรการเฝ้าระวังโรคระบาด อย่างเข้มข้นมากขึ้นในทุกจุดเสี่ยงตลอดแนวชายแดน พร้อมเสนองบเพิ่มเติม ทั้งเพิ่มอัตรากำลังคน เฝ้าระวังอุดรอยรั่วทุกอย่าง ด้านจังหวัดแนวชายแดนมีเกษตรกรผู้เลี้ยงสุกรรายย่อยกว่า 2 แสนราย จะมีงบให้รายละ 1 หมื่นบาท ปรับปรุงฟาร์มเลี้ยงเพื่อยกระดับการเลี้ยงเป็นจีเอฟเอ็ม สามารถป้องกันโรคได้ มีคอกมาตรฐาน ทำระบบตรวจสอบย้อนกลับ จะรู้ว่าสุกรมาจากไหน

 

ระบบดังกล่าวเสียค่าใช้จ่ายไม่มาก ภาครัฐจะช่วย โดยรมช.เกษตรฯเตรียมการไว้แล้วในเรื่องวางระบบออนไลน์ปศุสัตว์ ทั้งนี้ประชุมทางไกลให้เฝ้าระวังระดับสูงสุด ตั้งวอร์รูมทุกจังหวัด จัดหน่วยปฏิบัติการพิเศษ ลงตรวจโรคติดตามการเลี้ยงทุกฟาร์ม มีผู้ว่าราชการจังหวัด เป็นประธาน ปศุสัตว์จังหวัด เป็นเลขาฯแผนมาตรการป้องกันนี้เป็นวาระแห่งชาติ พร้อมมีไกด์ไลน์ เรื่องโรค เพื่อแนะนำทุกจังหวัดเข้าใจตรงตามแผน จัดทำอีสมาท์สพลัส ประเมินความเสี่ยงพื้นที่ตลอดเวลา จากสูงไปกลางจนถึงปกติ ใช้สีแดง ส้ม เหลือง เขียว ให้ปศุสัตว์อำเภอ ไปเฝ้าระวังหมู ถ้าพบมีลักษณะของการเกิดโรคประมาณ5% ของฝูงต้องทำลาย กลบฝั่ง สิ่งสำคัญเพิ่มการเฝ้าระวังอย่างเข้มแข็ง ร่วมกับภาคเอกชน ป้องกันโรคให้ได้เอาให้อยู่  

 

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ