กรมส่งเสริมการเกษตร จัดงานเริ่มต้นฤดูกาลผลิตใหม่ หรือ Field Day ที่ ศพก. อำเภอปะเหลียน จังหวัดตรัง เพิ่มพูนความรู้แบบเห็นของจริงให้เกษตรกรชาวสวนยาง หวังลดต้นทุน
2 พฤษภาคม 2562 นายสำราญ สาราบรรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร เป็นประธานเปิดงานวันถ่ายทอดเทคโนโลยีเพื่อเริ่มต้นฤดูกาลผลิตใหม่ (Field Day) ประจำปี 2562 ณ ศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร (ศพก.) อำเภอปะเหลียน จังหวัดตรัง
โดยมีนางณิทฐา แสวงทอง รองผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง นายมานพ แก้วอัมพร เกษตรจังหวัดตรัง หัวหน้าส่วนราชการและเจ้าหน้าที่ ผู้นำท้องถิ่น คณะกรรมการ ศพก. และเกษตรกรอำเภอปะเหลียน เข้าร่วมงานจำนวนมาก
อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวว่า การจัดงานวันถ่ายทอดเทคโนโลยีเพื่อเริ่มต้นฤดูการผลิตใหม่ เป็นกิจกรรมหนึ่งที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์กำหนดให้ศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตรทั่วประเทศ ซึ่งมีศูนย์หลักทั้งหมด จำนวน 882 ศูนย์ ดำเนินการจัดขึ้นเพื่อกระตุ้นให้เกษตรกรเริ่มต้นการผลิตในปีการเพาะปลูกใหม่
โดยใช้เทคโนโลยีและภูมิปัญญาที่มีความเหมาะสมกับพื้นที่ เป็นการ “ถ่ายทอดความรู้แบบเห็นของจริง” ซึ่งหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้จัดให้บริการด้านการเกษตรตามภารกิจของแต่ละหน่วยงาน เพื่อสนับสนุนเกษตรกร และทำให้เกษตรกรได้รู้จักและใช้ประโยชน์จากศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร และศูนย์เครือข่ายที่มีอยู่ในพื้นที่ของตนเอง
อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวเน้นย้ำว่า การให้บริการความรู้ที่หน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้นำมาถ่ายทอดให้เกษตรกรในงานวันถ่ายทอดเทคโนโลยีเพื่อเริ่มต้นฤดูกาลผลิตใหม่ จะเกิดประโยชน์สูงสุดได้ เกษตรกรต้องนำความรู้ไปใช้จริงในพื้นที่ของตนเองอย่างจริงจัง ซึ่งท้ายที่สุดก็จะเกิดผลดีกับเกษตรกรเอง
นายมานพ แก้วอัมพร เกษตรจังหวัดตรัง กล่าวว่า อำเภอปะเหลียนมีพื้นที่ทำการเกษตร 240,154 ไร่ เกษตรกร 9,056 ครัวเรือน ประกอบอาชีพสวนยางพาราเป็นหลัก จำนวน 7394 ครัวเรือน คิดเป็นร้อยละ 82 ของจำนวนครัวเรือนเกษตรกร และมีพื้นที่ปลูกยางพาราถึง 223,592 ไร่ คิดเป็นร้อยละ 93 ของพื้นที่ทำการเกษตร สำนักงานเกษตรจังหวัดตรังจึงได้จัดงาน Field day ขึ้นที่ ณ ศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตรอำเภอปะเหลียน ซึ่งมี นายมนตรี จั่นจตุรพันธ์ เป็นเกษตรกรต้นแบบด้านการทำสวนยางพารา
สำหรับสถานีเรียนรู้ซึ่งเป็นกิจกรรมหลักของงาน ประกอบด้วย 5 สถานี ได้แก่ การดูแลรักษายางพาราที่ถูกต้องและเหมาะสม การจัดการปุ๋ยยางพาราที่ถูกต้องและเหมาะสม การควบคุมและกำจัดโรคที่สำคัญของยางพารา การรวมกลุ่มเพื่อพัฒนาการตลาดยางพารา และอาชีพเสริมรายได้ (การเลี้ยงแพะ และการเลี้ยงผึ้งโพรงไทย) โดยมีเป้าหมายเพื่อให้เกษตรกรสามารถนำความรู้ที่ได้ไปปรับใช้กับพื้นที่ของตนเอง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง