"เศก ดุสิต-ตรี อภิรุม"สองนักเขียนวัย90ขึ้นแท่นศิลปินแห่งชาติ

ชานชาลานักเขียน/วรรณฤกษ์ /22 ก.พ. 63

          00 คารวะยินดี...ศิลปินแห่งชาติ พุทธศักราช 2562 ที่เพิ่ง ประกาศยกย่องเชิดชูเกียรติ ไปเมื่อ 18 กุมภาพันธ์ 2563 เลื่อนไหลมาเกือบชน วันศิลปินแห่งชาติ 24 กุมภาพันธ์ รอบใหม่พอดี! ครั้งนี้มีจำนวน 12 คน ประกอบด้วย สาขาทัศนศิลป์ 4 คน โดยแบ่งเป็น ประเภทวิจิตรศิลป์ ได้แก่ อนันต์ ปาณินท์ (จิตรกรรม), สิงห์คม บริสุทธิ์ (ถ่ายภาพ) และ ประเภทประยุกต์ศิลป์ ได้แก่ ชาตรี ลดาลลิตสกุ (สถาปัตยกรรม), ธีระพันธ์ วรรณรัตน์ (การออกแบบแฟชั่น) สาขาวรรณศิลป์ 2 คน ได้แก่ เริงชัย ประภาษานนท์ (เศก ดุสิต) กับ เทพ ชุมสาย ณ อยุธยา (ตรี อภิรุม)

          00 ขณะที่ สาขาศิลปะการแสดง มีถึง 6 คน แต่แบ่งย่อยหลากประเภท-หลายแขนง ดังนี้ ประเภทดนตรีไทย นาฏศิลป์ไทย และศิลปะการแสดงพื้นบ้าน ได้แก่ ศรีนวล ขำอาจ (เพลงพื้นบ้าน-ลำตัด), ทรงศักดิ์ ประทุมสินธุ์ (ดนตรีพื้นบ้านอีสาน) ประเภทดนตรีสากล และนาฏศิลป์สากล ได้แก่ สติ สติฐิต (ผู้ประพันธ์เพลงไทยสากล), วินัย พันธุรักษ์ (ดนตรีไทยสากล-ขับร้อง) ประเภทภาพยนตร์และละคร ได้แก่ ชนประคัลภ์ จันทร์เรือง (ภาพยนตร์และละคร) และ อารีย์ นักดนตรี (ภาพยนตร์และละคร)...

          00 กล่าวสำหรับ สาขาวรรณศิลป์ เริ่มจาก ‘เศก ดุสิต’ เกิดปี 2472 ที่ อำเภอดุสิต จังหวัดพระนคร ปัจจุบันอายุย่าง 91 ปี เข้าวงการเป็นช่างเรียงพิมพ์ เรื่องสั้นเรื่องแรก ตีพิมพ์ในนิตยสาร “รัตนโกสินทร์” นามปากกา ‘สุริยา’ ต่อมาเขียนนวนิยายบู๊ใช้นามปากกา ‘เศก ดุสิต’ เรื่อง “สี่คิงส์” และ “ครุฑดำ” จัดพิมพ์โดย สำนักพิมพ์อักษรสมิต ตามด้วยนวนิยายชุด “อินทรีแดง” จัดพิมพ์โดย บรรลือสาส์น ได้รับนิยมจนต้องนำตัวละครจาก 2 เรื่อง คือ ‘คมน์ พยัคฆราช’ และ ‘โรม ฤทธิไกร’ มามีบทบาทร่วมกันใน “จ้าวนักเลง” จากนั้น “พยัคฆ์ร้ายไทยถีบ” ตีพิมพ์ใน อาทิตย์รายสัปดาห์ ของ อักษรโสภณ นอกจากนี้ยังมีนามปากกา เกศ โกญจนาศ, ศิรษา, ดุสิตา, ลุงเฉื่อย ในสมัยสื่อสิ่งพิมพ์เฟื่องฟูเขาต้องเขียนนวนิยาย ส่งนิตยสารสัปดาห์หนึ่งถึง 5 เล่ม! เศก ดุสิต มีผลงาน กว่า 50 เล่ม ส่วนใหญ่ได้สร้างเป็นภาพยนตร์และละครโทรทัศน์...

          00 โดยเฉพาะเรื่อง “อินทรีแดง” ในคำประกาศระบุว่า..เป็นหมุดหมายของ ‘อาชญนิยายไทย’ ทั้งนี้ เศก ดุสิต สามารถสร้างตัวละคร “อินทรีแดง” ให้เป็น บุคคลในอุดมคติเชิงสัญลักษณ์ เพื่อเยียวยาจิตใจของผู้คนในสังคมให้มีพลังและแกร่งกล้า เพื่อต่อสู้กับอำนาจความชั่วร้าย อินทรีแดงเป็นวีรบุรุษในหัวใจนักอ่าน เป็นคนดี คนเก่งที่ช่วยแก้ปัญหา ไม่เพียงแต่ในสังคมเล็กๆ หรือชุมชน หากหมายรวมถึง ปัญหาของบ้านเมือง ด้วย เป็นตัวแทนของคนไทย ปราบปรามความชั่วร้ายในสังคม ผลงานของ เริงชัย ประภาษานนท์ หรือ เศก ดุสิต จึงนับว่า มีพลังทางวรรณศิลป์ ผ่านโครงสร้างนวนิยายอันซับซ้อนด้วยภาษาอันทรงประสิทธิภาพ จึงได้รับความนิยมและยืนยงข้ามกาลเวลา อยู่ในความทรงจำของนักอ่าน...

          00 ด้าน ‘ตรี อภิรุม’ เกิด 5 มกราคม 2473 ที่อำเภอบ้านสร้าง ปราจีนบุรี อายุ 90 ปี เริ่มเขียน ‘เรื่องสั้น’ ครั้งแรกตอนอายุ 24 ปี ลงหนังสือพิมพ์ หลักเมืองรายวัน เรื่อง “หาดจอมเทียน” ใช้นามปากกา ‘เทพเทวีวิจิตรง’ ต่อมาเปลี่ยนเป็น ‘เทพเทวี’ ใช้สำหรับเขียนนวนิยายพาฝัน และปี 2502 เขียนนวนิยายสยองขวัญเรื่องแรกคือ “กายทิพย์” ตีพิมพ์ในนิตยสาร บางกอก ด้วยนามปากกา ‘ตรี อภิรุม’ จากนั้นเขียน นวนิยายแนวพาฝัน และ แนวสยองขวัญ ลงนิตยสารต่างๆ อาทิ ชีวิตจริง, อัลบั้มชีวิตดารา, คู่รักคู่ชีวิต, ดาราภาพยนตร์ ตั้งแต่ปี 2525-2557 มีผลงาน นวนิยายนับร้อยเรื่อง พิมพ์เป็นเล่ม 58 เรื่อง ผลงานโดดเด่น เช่น แก้วขนเหล็ก, ทายาทอสูร, นาคี ฯลฯ ได้นำไปทำเป็น ละครวิทยุ ละครโทรทัศน์ และ ภาพยนตร์ รวม 19 เรื่อง...

          00 ในคำประกาศระบุว่า นวนิยายลึกลับสยองขวัญของ ตรี อภิรุม นับเป็นหมุดหมาย เรื่องลึกลับสยองขวัญของไทย มีความสามารถทางวรรณศิลป์ สร้างสัญลักษณ์เชิงอำนาจที่ก่อให้เกิดความสยองขวัญ เพราะเขียนนวนิยายนับร้อยเรื่องจนได้สมญาว่า “ราชานวนิยายลึกลับสยองขวัญแห่งประเทศไทย” ยืนหยัดในความเป็น ‘นักเขียนอาชีพ’ ที่มีผลงานมาต่อเนื่อง ตั้งแต่อายุ 24 ปี จนถึง 90 ปีในปัจจุบัน ยังคงทำงานอย่างสม่ำเสมอ กล่าวได้ว่า เทพ ชุมสาย ณ อยุธยา หรือ ตรี อภิรุม เป็นนักเขียนผู้สร้างสรรค์วรรณศิลป์ ข้ามผ่านกาลเวลาอีกคนหนึ่ง...

          00 ผู้ได้รับยกย่องเป็น ศิลปินแห่งชาติทั้ง 12 คน จะได้เข้าเฝ้าฯ รับพระราชทานเข็ม-โล่เชิดชูเกียรติ และรับ ค่าตอบแทนรายเดือนตลอดชีวิต (ปัจจุบันได้เดือนละ 25,000 บาท) รวมถึงเงินสวัสดิการ ค่ารักษาพยาบาล และเงินช่วยเหลือบำเพ็ญกุศล ค่าจัดทำหนังสือเผยแพร่ผลงานเมื่อเสียชีวิต ฯลฯ ส่วน เกณฑ์การคัดเลือก หลักๆ คือ ผู้มีสัญชาติไทย มีความรู้ความสามารถ ความเชี่ยวชาญ มีผลงานดีเด่นเป็นที่ยอมรับของวงการศิลปะในสาขานั้นๆ สร้างสรรค์และพัฒนาศิลปะ เป็นผู้ผดุง ถ่ายทอด เผยแพร่ หรือ เป็นต้นแบบศิลปะในสาขาที่ได้รับการประกาศยกย่อง รวมทั้งเป็นผู้มีคุณธรรม ทุ่มเท และเสียสละเพื่องานศิลปะ ตลอดจนมีผลงานที่เป็นประโยชน์ต่อสังคมและมนุษยชาติ...

          00 มาแล้ว! รายชื่อกวีนิพนธ์ ‘ก่อนรอบสุดท้ายรางวัลซีไรต์’ หรือรอบ Long lis ประจำปี 2562 ที่ตกค้างข้ามปี (เช่นกัน) คณะกรรมการรอบคัดเลือก (ยังไม่เปิดเผยชื่อ) คัดได้ 18 เล่ม 17 ราย จากจำนวนหนังสือ ส่งประกวด 65 เล่ม ผลออกมาดังนี้ “การสำเร็จความโง่ด้วยตนเอง” ของ ธัชชัย ธัญญาวัลย “กุมภาพันธ์ บางทีก็มีฝน” ของ วิสุทธิ์ ขวเนียม “ขณะเดินทางใน” ของ วัฒนา ธรรมกูร “คืนเหง้าเหล่ากอ” ของ วัฒนา ธรรมกูร “จุดตัดบนฟากฟ้า” ของ มูหัมหมัดฮาริส กาเหย็ม (เพิ่งเสียชีวิต) “ด้วยก้าวของเราเอง” ของ ธมกร “ตามฝูงปลาออกไป” ของ ปราชญ์ อันดามัน...

          00 “ทุกขณะกระจ่างชัด สัมผัสใจ” ของ รินศรัทธา กาญจนวตี “นกในกรงของเพื่อนบ้าน” ของ ปรเมศวร์ กาแก้ว “นิราศนรกานต์ และเรื่องอื่นๆ” ของ จามรี ตันไพฑูรย์ดิถี “ฝันของฝูงกระต่าย” ของ ศิริวร แก้วกาญจน์ “แม่งูไม่เคยห่างหายจากหมู่บ้าน” ของ อานนท์ นานมาแล้ว “ระหว่างทางกลับบ้าน” ของ อังคาร จันทาทิพย์ “โรงเรียนที่ไม่มีประตูและลืมล้อมรั้ว” ของ ภิรเดช แก้วมงคล “ศตวรรษแห่งความพ่ายแพ้” ของ ชญรัตน์ ชญารัตน์ “สายฝนบอกการมีอยู่ของฤดูหนาว” ของ อนาคาริก “ฮาบพนาสูง” ของ คำเมือง ราวะรินทร์ และ “ไฮโซ…เชียล Hi! So-Cial” ของ ขวัญข้าว ขวัญเรียมเอย...

          00 ดูรายชื่อรอบ Long lis แล้วพบว่า มีแชมป์เก่าอยู่รายหนึ่ง คือ อังคาร จันทาทิพย์ กวีซีไรต์ปี 2556 จากรวมกวี “หัวใจห้องที่ห้า” มีกวี-นักเขียนเคยเข้ารอบสุดท้ายซีไรต์อีกหลายคน เฉพาะอย่างยิ่ง ศิริวร แก้วกาญจน์ เข้าชิงมากที่สุด ถึง 7 สมัย 8 เล่ม! และในจำนวนนี้มีผลงานที่คว้า รางวัลชนะเลิศ ‘เซเว่นบุ๊คอวอร์ด’ มาสองเล่ม “ระหว่างทางกลับบ้าน” ของ อังคาร จันทาทิพย์ (ปี 2560) “ทุกขณะกระจ่างชัด สัมผัสใจ” ของ รินศรัทธา กาญจนวตี (ปี 2562) อีกทั้งรองชนะเลิศอันดับ 1 “ขณะเดินทางใน” ของ วัฒนา ธรรมกูร (ปี 2562 เช่นกัน) แล้วรอลุ้นผลงาน เข้ารอบสุดท้ายซีไรต์ (ไม่เกิน 10 เล่ม) เดือนหน้าครับ...

          พบกันใหม่สัปดาห์หน้า สวัสดี