ข่าว

'พิธา' เชื่อแก้ม.112 'ก้าวไกล' ไม่โดดเดี่ยว หลัง 'ทสท.-สร.' ไม่แก้ไม่ยกเลิก

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

'พิธา' แว้นวินจยย. ประชุมสภาอุตสากรรม รับฟัง 6 ข้อเสนอกกร. เตรียมนำข้อมูลขึ้นค่าแรงถก ่เพื่อไทย' ส่วนนโยบายแก้ม.112 'พิธา' ไม่โดดเดี่ยว หลัง 'ทสท.-สร.' มีจุดยืนไม่แก้ไม่ยกเลิก

นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ไม่กังวลนโยบายแก้ไขมาตรา112 ของพรรค จะเป็นอุปสรรคต่อการจัดตั้งรัฐบาล หลังการทำ MOU 23 ข้อร่วมกับพรรคจัดตั้งรัฐบาล พบว่า ไม่มีประเด็นดังกล่าวอยู่ด้วย 

 

โดยในวงแถลงข่าวคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ และ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ประกาศ "ไม่เอาทั้งยกเลิกและแก้ไข" 

 

วันนี้นักข่าวถามย้ำนายพิธาอีกครั้ง จะมีผลกับการจัดตั้งรัฐบาลหรือไม่ นายพิธา ระบุว่า ไม่มีความกังวล เพราะได้พูดคุยกันตั้งแต่เวทีดีเบตแล้ว และก่อนเซ็น MOU พูดคุยกันอีกครั้งและเข้าใจว่าเป็นวาระเฉพาะของแต่ละพรรค 

 

"ไม่คิดว่าก้าวก่ายจะโดดเดี่ยวในการแก้ไขมาตรา112" เพื่อให้ความสัมพันธ์ของสถาบันกับประชาชนเป็นไปในทางที่ดีขึ้น

นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์

ส่วนเสียง สว.เลือกนายกรัฐมนตรี ขณะนี้ยังดูไม่น่ามีปัญหา เท่าที่ทราบยังมองว่าเป็นเรื่องระบบมากกว่าตัวบุคคล ซึ่งจะก็ต้องประคับประคองไม่อยากให้ประเทศถึงทางตัน 

 

ส่วนตัวก็มีการพูดคุยกับคณะกรรมการที่เจรจากับ สว. มาแล้วส่วนหนึ่งแต่ยังไม่ขอเปิดเผย รวมถึงส่วนที่ยังไม่ได้ตัดสินใจก็มีการติดต่อขอพบ ทั้งจากพรรคก้าวไกลเองติดต่อไปและจากพรรคร่วมที่ส่งคอนแท็กมาให้ติดต่อไป

นายพิธานั่งวินจยย.ประชุมร่วมกับสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย

ทั้งนี้นายพิธา เดินทางด้วยรถจักรยานยนต์รับจ้างไปยัง สภาอุตสาหกรรม เพื่อหารือนายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.)และผู้บริหาร เรียกความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจให้กลับคืนมา ซึ่งถือเป็นหน่วยงานแรกของภาคธุรกิจ 

 

นายพิธา กล่าวว่า เป็นสัปดาห์แรกของการทำงานของคณะกรรมการเปลี่ยนผ่าน จึงมีการพูดคุยกับสภาอุตสาหกรรม เพื่อรับฟังข้อเสนอแนะ 6 ข้อที่ คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ประกอบด้วย สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และสมาคมธนาคารไทยได้นำเสนอไว้ และถือเป็นการได้กลับบ้านเก่าด้วย เพราะตนเองเคยทำงานที่นี้ 

    

วันนี้ได้แลกเปลี่ยนกันในนโยบายอุตสาหกรรมของรัฐบาลก้าวไกล ที่จะเน้นบรรเทาทุกข์ เน้นความเท่าเทียม และ เน้นความทันสมัย คือ ต้องแฟร์ พื้นฐานของประเทศต้องเฟิร์ม มีการเจริญเติบโตที่ลดความเหลื่อมล้ำ ซึ่งหากพี่น้องนักธุรกิจและนักลงทุนฟังอยู่ จะเห็นภาพว่า เมื่อเศรษฐกิจของประเทศเติบโตจากล่างขึ้นบน ไม่ใช่แข็งแรงแค่หัว ก็จะทำให้เกิดเศรษฐกิจภายในประเทศขึ้นในช่วงที่เศรษฐกิจโลกซบเซา 

 

ส่วนนโนบายขึ้นค่าแรงจะเดินหน้าเหมือนเดิมหรือไม่ นายพิธา กล่าวว่า เรื่องเศรษฐกิจ บางเรื่องต้องรวดเร็วก็ต้องรวดเร็ว บางเรื่องที่จะต้องรอบคอบก็ต้องรอบคอบ และภายในสัปดาห์นี้ ก็จะไปหารือรับฟังกกร. สภาแรงงาน และสภา SME เพื่อให้เกิดการรับฟังอย่างรอบด้าน และนำไปเป็นข้อมูลพูดคุยกับพรรคเพื่อไทยเพราะเป็นพรรคใหญ่ ซึ่งพรรคเพื่อไทยเห็นด้วยกับการขึ้นค่าแรง แต่ก็จะต้องเข้าใจว่าพี่น้องแรงงานไม่ได้ขึ้นมานาน จึงต้องศึกษาแพ็กเก็จที่สามารถบรรเทาการขึ้นค่าแรงที่รัฐบาลยิ่งลักษณ์เคยทำสมัยปี 2556 เพื่อให้ช่วยในการดูแลทั้งแรงงาน เจ้าของsme เจ้าของธุรกิจ และดูเรื่องความเท่าเทียม รวมถึงขีดความสามารถในการแข่งขันด้วย ซึ่งทั้งหมดนี้ อยู่ระหว่างการศึกษารายละเอียด

 

ส่วนที่ภาคเอกชนอยากให้ตั้งรัฐบาลก่อน ส.ค. นี้เป็นไปได้หรือไม่ นายพิธา ตอบว่า มีกรอบของกฎหมายอยู่ว่า กกต.จะรับรอง สส.เมื่อไร ถ้ารับรองเร็ว แล้วกระบวนการจัดตั้งเป็นไปได้แบบนี้ก็น่าจะเร็วขึ้น

นายพิธานั่งวินจยย.ประชุมร่วมกับสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ