ข่าว

ผู้บังคับการตรวจคนเข้าเมือง 1 ลงนามให้ออก 5 ตำรวจแก๊งอุ้มคนจีน

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ผู้การ ตม.1 สั่ง 5 ตำรวจตม.แก๊งอุ้มรีดไถ่ทรัพย์ชาวจีน กับล่าม ให้ออกจากราชการหลังถูกศาลอาญาคดีทุจริต ออกหมายจับ

ความคืบหน้าการดำเนินการ ตำรวจ ตม.อุ้มรีดทรัพย์ ชาวจีน และล่ามสาวชาวไทย ล่าสุด พล.ต.ต.ปิยะอนันต์ โตสกุลวงศ์ ผู้บังคับการตรวจคนเข้าเมือง 1 สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง มีหนังสือคำสั่ง กองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 1 ที่ 31 /2566 ให้ 

คำสั่งให้ออกจากราชการ 5 ตำรวจอุ้มชาวจีน

พ.ต.ต.สรวิศ อินทร์ลับ สารวัตร กองกำกับการสืบสวน กองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 1 สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง 

พ.ต.ต.จิรภัทร บุญนำ สารวัตร กองกำกับการสืบสวน กองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 1 สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง, 

ร.ต.ท.ประวิต พลจังหรีด รองสารวัตร กองกำกับกรสืบสวน กองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 1 สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง, 

ร.ต.ท.สุริยะ รุกขชาติ รองสารวัตร กองกำกับการสืบสวน กองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 1 สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง 

ด.ต.พีระศักดิ์ ยิ้มไพบูลย์ ผู้บังคับหมู่ กองกำกับการสืบสวนกองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 1 สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง 

คำสั่งให้ออกจากราชการ 5 ตำรวจอุ้มชาวจีน

ให้ออกจากราชการไว้ก่อน เพื่อรอฟังผลสอบสวนพิจารณาทางวินัย หลังมีคำสั่งที่ 30/2566 แต่งตั้งคณะกรรมการ สอบสวน ตำรวจทั้ง 5 นาย เนื่องจากข้าราชการตำรวจดังกล่าวถูกตั้งกรรมการสอบสวน หรือต้องหาว่า กระทำความผิดอาญา หรือถูกฟ้องคดีอาญาในเรื่องเกี่ยวกับการทุจริตต่อหน้าที่ราชการ หรือเกี่ยวกับความประพฤติหรือพฤติการณ์

อันไม่น่าไว้วางใจ หากให้ผู้ถูกกล่าวหาอยู่ในหน้าที่ราชการต่อไป อาจเกิดความเสียหายแก่ราชการโดยส่วนรวม อันเป็นเหตุให้ออกจากราชการไว้ก่อน เพื่อรอฟังผลการสอบสวนพิจารณาทางวินัย ตาม กฎ ก.ตร.

สำหรับตำรวจทั้ง 5 นาย ถูกกล่าวหาว่ากระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรง จนถูกต้องหาว่ากระทำความผิดอาญา โดยศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ได้อนุมัติออกหมายจับข้าราชการตำรวจดังกล่าวต้องหาว่า 

กระทำความผิดฐาน เป็นเจ้าพนักงาน ร่วมกันปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ ผู้ใดผู้หนึ่ง หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวหรือกักขัง หรือกระทำด้วยประการใดให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกายและร่วมกันข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด ไม่กระทำการใด หรือ จำยอมต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียงหรือทรัพย์สินของผู้ถูกข่มขืนใจนั้นเองหรือของผู้อื่นหรือโดยใช้กำลังประทุษร้ายจนผู้ถูกชมขืนใจต้องกระทำการนั้น ไม่กระทำการนั้นหรือจำยอมต่อสิ่งนั้น โดยร่วมกระทำความผิดด้วยกันตั้งแต่ห้าคนขึ้นไป ตามหมายจับ

ทั้งนี้ ผู้ถูกสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อนตามคำสั่ง มีสิทธิอุทธรณ์ต่อ ก.ตร. ได้ตาม พระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2565 มาตรา 141 ภายใน 30 วัน นับแต่วันรับทราบคำสั่งและหากประสงค์จะฟ้องโต้แย้งคำสั่งหรือคำวินิจฉัยอุทธรณ์นี้ให้ทำคำฟ้องเป็นหนังสือยื่นต่อศาลปกครองหรือส่งทางไปรษณีย์ลงทะเบียนไปยังศาลปกครองภายใน 90 วัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้งหรือรับทราบคำวินิจฉัยอุทธรณ์หรือภายใน 90 วัน นับแต่วันพ้นกำหนด 90 วัน นับแต่วันที่ผู้ฟ้องคดีได้มีหนังสือร้องขอทราบผลการวินิจฉัยอุทธรณ์
 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ