เปิดนโยบายกรมการค้าภายในปี66 ยึดหลัก”วินวินโมเดล”ขับเคลื่อนงาน

นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์กล่าวใน รายการ”เกษตรก้าวหน้า”ทางคลื่นเอฟเอ็ม(FM) 93.5 เมกกะเฮิร์ซ สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย(สวท.) ถึงมาตรการดูแลพี่น้องประชาชนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2566 ว่าเป็นไปตามนโยบายของนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ที่ต้องการดูแลช่วยเหลือเพื่อลดภาระค่าครองชีพให้กับพี่น้องประชาชนผู้บริโภคเป็นของขวัญปีใหม่ผ่านโครงการต่าง ๆ

ไม่ว่าจะเป็นโครงการพาณิชย์ลดราคาช่วยประชาชนล็อตที่ 22 หรือ New Year Grand Sale 2023 ที่เปิดตัวโครงการไปเมื่อวันที่ 21 ธันวาคม 2565 ที่ผ่านมา จนถึง 31 มกราคม 2566 เป็นการระดมสินค้าจากผู้ผลิต ผู้จำหน่าย ร้านค้าต่าง ๆ ทั้งสินค้าอุปโภค บริโภคและสินค้าบริการผ่านทางออนไลน์มากระหน่ำลดราคาสูงสุดถึง 85%  

“หลัก ๆ ก็มีสินค้าที่นำมาลด 3 กลุ่มด้วยกัน กลุ่มแรกพวกสินค้าอาหารสด อาหารแปรรูป อุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ รวมทั้งยาเวชภัณฑ์ ลดสูงสุด 80% มีสินค้าร่วมรายการมากกว่า 3 หมื่นรายการ กลุ่มที่สอง เป็นกลุ่มสินค้าบริการ เช่นที่พัก ร้านอาหาร บริการทางการแพทย์ งานซ่อมบำรุงรถยนต์ ลดสูงสุด 85% มีสินค้าเข้าร่วมรายการกว่า 600 รายการและกลุ่มสุดท้าย เป็นกลุ่มสินค้าบริการผ่านทางออนไลน์ เช่นลาซาด้า ช้อปปี้ ไลน์แมน ลดสูงสุดถึง 85% มีสินค้าในกลุ่มนี้มากกว่า 13 ล้านรายการ พี่น้องประชาชนสามารถไปเลือกซื้อหาสินค้าและใช้บริการได้ตามสะดวก” 

                อธิบดีกรมการค้าภายในเผยต่อว่านอกจากนี้นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ยังเป็นห่วงเป็นใยพี่น้องประชาชนและให้ความสำคัญเรื่องการถูกเอาเปรียบจากผู้ประกอบการ เจ้าของห้างร้านค้าต่าง ๆ โดยมอบหมายให้กรมการค้าภายในและสำนักงานพาณิชย์จังหวัดทุกจังหวัดทั่วประเทศลงพื้นที่ตรวจสอบเครื่องชั่งตวงวัดและการปิดป้ายแสดงราคาสินค้าและบริการ เพื่อป้องกันการเอารัดเอาเปรียบประชาชนผู้บริโภคในช่วงเทศกาลปีใหม่ ไม่ว่าจะเป็นการตรวจสอบตาชั่งในตลาดกลาง ตลาดสด ร้านค้าต่าง ๆ จะต้องเป็นไปตามมาตรฐานชั่งตวงวัด การตรวจสอบกระเช้าของขวัญปีใหม่ ต้องปิดป้ายแสดงราคา พร้อมระบุรายละเอียดตัวสินค้าอย่างชัดเจนหรือการตรวจสอบน้ำมันเต็มลิตรในสถานีบริการน้ำมันตามโครงการน้ำมันเต็มลิตร ซึ่งมาตรการต่าง ๆ เหล่านี้กรมได้ดำเนินการมาตั้งแต่ช่วงก่อนปีใหม่เดือนพฤศจิกายน 2565 และยังมีการตรวจสอบอย่างเข้มงวดต่อไป ซึ่งหากพบความผิดจะดำเนินคดีตามกฎหมายทันที ทั้งนี้เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนผู้บริโภค

            “ถ้าเติมน้ำมันที่สถานีบริการน้ำมัน ณ จุดใดพบเห็นสติกเกอร์น้ำมันเต็มลิตรก็สามารถมั่นใจได้ว่าน้ำมันที่เติมนั้นเต็มลิตรแน่นอน คุ้มค่าเงินที่ท่านจ่ายไป ต้องขอบคุณสถานีบริการน้ำมันที่ให้ความร่วมมือกับกรมการค้าภายในและสถานีบริการเองก็มีการตรวจสอบของตัวเองด้วยเช่นกัน”

            นายวัฒนศักย์ยอมรับว่าปีนี้เรื่องการร้องเรียนความผิดมีจำนวนลดลง ส่งผลให้การดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดมีน้อยตามไปด้วยเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ทั้งนี้เนื่องจากผู้ประกอบการระมัดระวังมากขึ้น จึงขอวิงวอนผู้ประกอบการ เจ้าของร้านค้าต่าง ๆ ตลอดจนพ่อค้าแม่ขายทั้งหลายปิดป้ายแสดงราคาสินค้าให้ชัดเจนและอย่าฉวยโอกาสขึ้นราคาอย่างไม่เป็นธรรม เพราะจะเป็นการเอาเปรียบประชาชนผู้บริโภค 

         “อย่าไปโก่งราคาหรือฉวยโอกาสขึ้นราคาเลย ทำอย่างนี้ไม่น่ารัก คาถาในการทำธุรกิจ ซื่อกินไม่หมด คดกินไม่นาน เพราะว่าประชาชนทุกคนเขาก็มีทางเลือกถ้าเราไปโกงไปฉวยโอกาสครั้งเดียว แล้วถ้าเกิดไปพบก็มีความผิดตามกฎหมายด้วย ต้องฝากเอาไว้ ”อธิบดีกรมการค้าภายในกล่าว 

            นายวัฒนศักย์ระบุอีกว่าสำหรับการตรวจสอบการกระทำผิดนั้น นอกจากทีมสายตรวจชั่งตวงวัด ของกรมการค้าภายในแล้วยังมีเครือข่ายอาสาอีกกว่า 5,000 คนที่กระจายอยู่ตามจังหวัดต่าง ๆ ทั่วประเทศเข้ามาช่วยดูแลคอยเฝ้าระวัง ทั้งในตลาดสด ตลาดกลาง และห้างร้านต่าง ๆ ในทุกช่วงเทศกาลอีกด้วย

             “ตอนนี้เรามีทีมสายตรวจพิเศษชั่งตวงวัดทั่วประเทศ 775 คนและเครือข่ายอาสาสมัครอีก 5,000 กว่าคน รวมถึงอาสาธงฟ้าที่คอยช่วยดูแลแจ้งเบาะแส ติดตามสถานการณ์ต่าง ๆ ปีนี้เราจะรวมทั้งสองกลุ่มนี้มาเป็นสายตรวจอาสา DIT มีภารกิจที่เข้มข้นมากขึ้น เพื่อเป็นเครื่องไม้เครื่องมือให้กับกรมในการติดตามตรวจสอบให้ชัดลึกมากขึ้น”อธิบดีกรมการค้าภายในย้ำชัด  

            อย่างไรก็ตามนายวัฒนศักย์ยังกล่าวถึงทิศทางการทำงานของกรมการค้าภายในในปี 2566 ว่า โดยหลักการต้องดำเนินการให้สินค้ามีอย่างเพียงพอความต้องการและราคาต้องสมเหตุสมผล โดยยึดหลักวิน วิน โมเดล กล่าวคือผู้ประกอบการ ผู้ผลิตก็ต้องอยู่ได้ พี่น้องประชาชนก็ต้องไม่ได้รับความเดือดร้อนมาก ซึ่งยังเป็นหลักการที่กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมการค้าภาย ดำเนินการมาโดยตลอด นอกจากนี้โครงการลดภาระค่าครองชีพพี่น้องประชาชนก็จะยังคงเดินหน้าต่อไปเพื่อเป็นทางเลือกให้กับพี่น้องประชาชนเข้าถึงสินค้าราคาประหยัด