"เราเที่ยวด้วยกันเฟส 5" ชงเข้า ครม. 27 ธ.ค.นี้ ลุ้นกันอีกรอบ

ลุ้นกันต่อ สำหรับโครงการเราเที่ยวด้วยกัน หลังการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย หรือ ททท. เสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่ออนุมัติโครงการ "เราเที่ยวด้วยกันเฟส 5" จำนวน 2 ล้านสิทธิ สำหรับเดือนมกราคม 2566 เป็น "ของขวัญปีใหม่ 2566" หลังจากเลื่อนเข้าที่ประชุม ครม. มาแล้ว 3 ครั้ง

 

ล่าสุด นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า ในการประชุม ครม. วันที่ 27 ธันวาคม 2565 กระทรวงการท่องเที่ยวฯ จะเสนอโครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน เฟส 5” ให้ที่ประชุมพิจารณาอย่างแน่นอน รวมถึงเสนอมาตรการกระตุ้นการเดินทางท่องเที่ยวด้วย หลังจากที่ผ่านมา ยังไม่เข้า ครม. เนื่องจากนายกรัฐมนตรี ได้สั่งให้ปรับวงเงินใหม่ เพราะวงเงินที่เสนอมาค่อนข้างสูง ขณะที่งบประมาณภาครัฐ โดยเฉพาะงบกลาง มีอยู่อย่างจำกัด

 

ด้าน นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า ได้รับมอบหมายจาก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวฯ ให้ไปหารือกับสำนักงบประมาณแล้ว เพื่อปรับกรอบวงเงิน และแผนการดำเนินการทั้งหมดใหม่ ทั้งโครงการเราเที่ยวด้วยกันเฟส 5 และมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยว ตามที่เสนอไป 8,700 ล้านบาท ให้เหลือไม่เกินวงเงิน 4,000 ล้านบาท 

 

เงื่อนไขโครงการ "เราเที่ยวด้วยกันเฟส 5" มาตรการรอบใหม่ 

 
 

• กำหนดจำนวนสิทธิ ประมาณ 400,000-500,000 ห้อง/คืน 
• ได้รับเงินสนับสนุนจากรัฐบาลสูงสุด 3,600 บาท สำหรับค่าห้องพักและวอยเชอร์ 
• คาดว่าจะใช้งบประมาณ 1,440 - 1,800 ล้านบาท 

 

มาตรการกระตุ้นการเดินทางท่องเที่ยว

• เป็นงบสำหรับการทำตลาด ทั้งในประเทศและต่างประเทศของ ททท.
• วงเงินประมาณ 2,200 - 2,560 ล้านบาท 

ทั้งนี้ หาก ครม.อนุมัติแล้ว จะเริ่มโครงการ "เราเที่ยวด้วยกันเฟส 5" ได้เมื่อไรนั้น ต้องหารือกับธนาคารกรุงไทย ซึ่งเป็นผู้วางระบบก่อน จากนั้น จึงระบุวันเริ่มต้นได้อีกครั้ง

 

สรุปโครงการเราเที่ยวด้วยกันที่ผ่านมา

 

เราเที่ยวด้วยกันเฟส 4 มีการเพิ่มสิทธิจำนวนห้องพัก 2 ล้านสิทธิ หรือห้อง ภายใต้กรอบวงเงิน 13,200 ล้านบาท โดยรัฐบาลสนับสนุนค่าโรงแรม 40% ของราคาที่พักต่อห้องต่อคืน สูงสุดไม่เกิน 3,000 บาท ต่อห้องต่อคืน จำกัดสิทธิไม่เกิน 10 ห้องหรือคืน ต่อผู้ได้รับสิทธิ 1 คน 

เราเที่ยวด้วยกันเฟส 3 มียอดรวมของประชาชนที่ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการทั้งสิ้น 1,081,952 คน ส่วนผู้ประกอบการที่ร่วมโครงการ รวมทั้งสิ้น 8,921 คน รวมมูลค่าการใช้จ่ายตลอดทั้งโครงการ อยู่ที่ประมาณ 9,025 ล้านบาท มีประชาชนที่เข้าร่วมโครงการ ใช้สิทธิในการจองห้องพัก จำนวน 634,999 คน ทำการจองโรงแรมทั้งหมด 4,323 แห่งทั่วไทย และคิดเป็นจำนวนห้องทั้งหมด 1,992,127 ห้อง

 

 

 

 

ขอบคุณข้อมูลจาก : ฐานเศรษฐกิจ