"บิ๊กเด่น" สั่งล่า 6 ผู้ต้องหา แก๊ง "นายทุนจีนสีเทา" พร้อมเร่งสอบ เมียตู้ห่าว

จากกรณีเมื่อวานนี้ (24 ธันวาคม 2565) ตำรวจชุดสืบสวน นำกำลังเข้ารวบ ​พ.ต.อ.หญิง วัทนารีย์ กรณ์ชาญานันท์​ ผู้กำกับการกองการต่างประเทศ​ ภรรยาของตู้ห่าว" ในความผิดฐานฟอกเงิน หลังพบความเชื่อมโยงเกี่ยวข้องการเงิน ว่าได้มาจากการทำผิด รวมถึงจับกุมผู้ต้องหาอีก 7 ราย  ที่เอี่ยวทำผิด ในคดี "นายทุนจีนสีเทา" โดย ภรรยาของ "นายตู้ห่าว" จับกุมที่คอนโดแห่งหนึ่ง ซึ่งจับตามหมายของ ศาลอาญากรุงเทพใต้ ซึ่งผู้ต้องหาทุกคนให้การปฏิเสธ

ล่าสุดวันนี้  (25 ธันวาคม 2565) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตำรวจควบคุมตัว พ.ต.อ.หญิง วัทนารีย์ ภรรยาของ "นายตู้ห่าว"  ไปยังสำนักอัยการสูงสุด ถ.บรมราชชนนี เพื่อสอบปากคำเพิ่มเติม โดยมีทีมทนายความ พร้อมผู้ติดตาม เดินทางไปด้วย ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ มีการวางกำลัง บริเวณที่ต้องคุมตัวผู้ต้องหา ไปตามเส้นทางต่างๆ ขณะที่ผู้สื่อข่าว พยายามถาม คำถามต่างๆ แต่ภรรยาของ นายตู้ห่าว ก็ไม่ได้ตอบคำถามกับสื่อมวลชน

นอกจากนี้ยังมีรายงานอีกว่า การสอบปากคำผู้ต้องหา ที่ถูกควบคุมตัวไปยัง สำนักงานอัยการสูงสุดวันนี้ จะเป็นการสอบปากคำ แบบรายบุคคล ซึ่งจะแยกออกเป็น 2 กลุ่มใหญ่ ในฐานความผิดฟอกเงิน รวม 5 คน ประกอบด้วย พ.ต.อ.หญิงวัทนารีย์ , นายฉัตรชัย , นายณัฐวุฒิ ,  นายสิทธิกร และ นางสุรัสวดี

ด้าน พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มีคำสั่งเร่งติดตาม ซึ่งให้ข้อมูลกับสื่อมวลชนว่า จะสรุปสำนวนคดีส่งอัยการสูงสุด ตามกรอบระยะเวลาที่วางไว้  ส่วนที่เมื่อวานนี้ จับผู้ต้องหา 8 คน ขณะนี้ยังเร่ง จับอีก 6 คน ตามหมายจับ

ส่วนการสอบปากคำ ยังขอไม่เปิดเผยในรายละเอียด เนื่องจากกังวลในเรื่องความปลอดภัย ส่วนการที่ตำรวจออกหมายจับ และ ดำเนินคดีฐานฟอกเงิน กับ เครือข่ายนายตู้ห่าว เนื่องจากมีหลักเชื่อมโยงการ ซึ่งเป็นเรื่องต่อเนื่อง จากคดีที่ตำรวจเข้าตรวจผับจินหลิง และพบ ยาเสพติด และที่หลายคนมองว่า ทำงานทับซ้อน กับ DSI ตนเองมองว่า เมื่อมีพยานหลักฐาน ก็ดำเนินการไปในเวลาเดียวกัน ยืนยัน ทำตามพยานหลักฐานที่มีอยู่ ส่วน DSI จะทำต่อไปหรือไม่ ขึ้นอยู่กับอำนาจของอัยอายสูงสุด ที่เป็นหัวเป็นหัวหน้าชุด ในการสอบสวนคดีนอกราชอาณาจักร ตนเองจะดำเนินการ แม้จะเป็นตำรวจ

ขณะที่ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ตั้งข้อสงสัยในการทำงานของตำรวจ ตนเองไม่ขอตอบเรื่องนี้ ให้ผลงานเป็นเครื่องพิสูจน์ เพราะที่ผ่านมา พยายามรวบรวมหลักฐานให้รัดกุม และ ออกมา โดยไม่มีข้อโต้แย้ง