อัปเดตร่างกำลังพล "เรือหลวงสุโขทัย" พิสูจน์ยืนยันอัตลักษณ์เสร็จ 1 ราย ส่วนที่เหลือเร่งดำเนินพิสูจน์ 8 ราย ทร.ปรับแผนค้นหาเน้นแนวชายฝั่งมากขึ้น
คืบหน้าล่าสุด พลเรือโท พิชัย ล้อชูสกุล ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 1 กล่าวถึงความคืบหน้าในการค้นหากำลังพลที่ยังสูญหายของ "เรือหลวงสุโขทัย" อับปางเข้าสู่วันที่ 7 ว่า การปฏิบัติภารกิจยังคงมี เรือหลวงตากสิน ค้นหาพื้นที่ 2,4 เรือหลวงนเรศวร ค้นหาพื้นที่ 5,6 เรือหลวงนราธิวาส ค้นหาพื้นที่ 2 เรือหลวงกระบุรี ค้นหาพื้นที่ 3,4 ซึ่งครอบคลุมพื้นที่ อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ และ อ.ประทิว จ.ชุมพร
และพื้นที่ใกล้ฝั่งมี เรือ ต.114 ค้นหาทั้งพื้นที่ 9A,12 ครอบคลุมพื้นที่ จ.ชุมพร ส่วนเรือ ต.270 ค้นหาพื้นที่ 16,17 พื้นที่จ.ชุมพร และจ.สุราษฎร์ธานี พร้อมการสำรวจค้นหาจากอากาศยานจากทุกหน่วยงาน ตลอดจนการสำรวจแนวชายฝั่งและคนเดินเท้า ปูพรมค้นหากันอย่างต่อเนื่อง
พลเรือโท พิชัย กล่าวว่า วันนี้จะเข้มข้นการปูพรมค้นหาผู้สูญหายจากเหตุการณ์ "เรือหลวงสุโขทัย" อับปาง จะเน้นชายฝั่ง ตั้งแต่บางสะพาน จ.ประจวบ จ.ชุมพร และ จ.สุราษฎร์ธานี รวมถึงพื้นที่ จ.ประจวบ เกาะทะลุ จัดเรือ ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง เจ็ทสกี 6 ลำ และโดรนของบริษัทเอกชน เจ้าหน้าที่เดินเท้า สำรวจ และแนวชายฝั่งทั้งหมดได้จัดกำลังพลการเดินเท้า และเรือเล็ก ออกค้นหาจากท่าเรือบางสะพาน -บางสะพานน้อย มีคนเดินเท้าเพื่อเก็บรายละเอียดทั้งหมด ซึ่งการค้นหาที่เน้นเข้มข้นไปตามแนวชายฝั่ง เพราะเป็นไปตามแผนการคำนวนของกระแสคลื่นลมตามโปรแกรมของกรมอุทกศาสตร์กองทัพเรือ และจากการพบอุปกรณ์ของเรือและร่างผู้เสียชีวิต
ส่วนหมู่เรือช่วยเหลือ หมู่เรือที่ 2 คือการสำรวจใต้น้ำ วันนี้ สภาพคลื่นลมแรงมาก เรือหลวงบางระจันเชือกขาดได้ขอยางกันกระแทกมาเสริม เช่นเดียวกับเรือหลวงราวี ไม่สามารถลงไปทำงานได้ และอุปสรรคเพิ่มเติมนอกจากคลื่นลมแรงคือ เรือที่มาทั้งหมดค่อนข้างตรากตำ แต่ก็สู้ตลอด วันนี้เรือหลวงนราธิวาสก็มีปัญหาเรื่องเครื่องจักรจะกลับเข้ามาซ่อมบำรุงก่อนออกไปปฏิบัติภารกิจต่อ อย่างไรก็ตามคงใช้เรือหลวง 4 ลำหลักเช่นเดิม แต่ทั้งนี้ก็ได้เตรียมเรือหลวงปัตตานี ไว้ด้วยเช่นกัน หากมีการปรับแผนก็พร้อมที่จะออกสนับสนุนภารกิจเพราะอยู่ในขั้นเตรียมการ
นอกจากนี้ได้มีการค้นหาพบผู้สูญหายจาก "เรือหลวงสุโขทัย" เพิ่มเติมในช่วงกลางคืนของวันที่ 24 ธ.ค. อีก 2 ราย โดยช่วงบ่ายวันนี่จะส่งเพื่อพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคล ขณะเดียวกัน ผลการพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคลของร่างผู้เสียชีวิตที่ พบเมื่อวันที่ 23 ธ.ค.โดยเรือหลวงบางระจันพบขณะไปสำรวจใต้น้ำบริเวณเรือหลวงสุโขทัยจม และห่างจากเรือหลวงสุโขทัยประมาณ 300-400เมตร เป็นร่างของ พลทหารวรพงษ บุญละคร กำลังพลของหน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง(สอ.รฝ.) โดยตามขั้นตอนหลังจากนี้ จะนำร่างกลับไปที่ สัตหีบ จ.ชลบุรี เพื่อทำพิธีสดุดีเชิดชูเกียรติ ต่อไป
ทำให้ขณะนี้ เหลือร่างที่รอพิสูจน์ที่นิติเวช อีก 6 ราย และอีก 2 รายอยู่ระหว่างการรอนำขึ้นมาส่งพิสูจน์ตลักษณ์บุคคล ซึ่งหากนำขึ้นมาแล้ว ในวันนี้จะมีร่างผู้เสียชีวิตที่รอการพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคล 8 ราย โดย มี 7 รายที่มีหลักฐานบ่งชี้ว่าเป็นกำลังพลของกองทัพเรือ และอีก 1 รายไม่มีหลักฐานอะไรบ่งชี้ว่าเป็นกำลังพลของ กองทัพเรือ นั้นหมายความว่า หากอ้างอิงจาก หลักฐานบ่งชี้ที่เป็นกำลังพลของกองทัพเรือ จะทำให้การค้นหากำลังพลผู้สูญหาย เหลืออีก 15 นาย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง