เปิดรายชื่อ แก๊งตู้ห่าว "นายทุนจีนสีเทา" ล่าสุด มีรายงาน เตรียมจับเพิ่มอีก

จากกรณีที่ตำรวจนครบาล บุกเข้าทลายปาตี้ยาเค ของนักท่องเที่ยวชาวจีน ในผับจินหลิง ย่านยานนาวาน ก่อนจะขยายผล จนกระทั่งพบว่า เป็นขบวนการ "นายทุนจีนสีเทา" อยู่เบื้องลึกเบื้องหลัง โดยมีผู้มีอิทธิพล ให้การช่วยเหลือ อำนวยความสะดวก กระทั่งตำรวจชุดจับกุมของ พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ หักพาล. รอง ผบ.ตร. รวบรวมพยานหลักฐาน ขอหมายจับ "นายตู้ห่าว" ในข้อหาความผิด สมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิด เกี่ยวกับยาเสพติด ผู้นั้นสมคบกันกระทำความผิด เกี่ยวกับยาเสพติด , ร่วมกันค้ายาเสพติด และ ร่วมกันมีวัตถุออกฤทธิ์ ต่อจิตและประสาท ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่าย

ล่าสุดวันนี้ (25 ธันวาคม 2565) มีรายงานว่า ตำรวจชุดสืบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน จับกุมผู้ต้องหาที่เอี่ยวในคดี "นายทุนจีนสีเทา" อีกหลายคน แต่คนหลักๆ ที่ตำรวจต้องการดำเนินคดี คือ นางพัชรินทร์ ซึ่งเจ้าหน้าที่ระบุว่า เป็นผู้ถือหุ้นบริษัทของ "ตู้ห่าว" ที่มีชื่อรองลงมา จากนายตู้ห่าว และ พ.ต.อ.หญิง ภรรยาของตู้ห่าว ส่วนอีก 7 ราย ที่เกี่ยวพัน ในเรื่อง “ฟอกเงิน” คือ

1.นางวัทนารีย์ 

2.นายสิทธิพงษ์ 

3.นายสิทธิไพบูลย์ 

4.นายฉัตรชัย 

5.นายณัฐวุฒิ 

6.นายสิทธิกร

7.นางสุรัสวดี 

สำหรับ นางพัชรินทร์ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ได้ออกมาแฉ ว่าเป็นลูกหลานของผู้มีอิทธิพล ซึ่งอยู่เบื้องหลัง ที่คอยอำนวยความสะดวกให้กับ "นายทุนจีนสีเทา" หรือ ธุรกิจสีเทา ในประเทศไทยหลายธุรกิจ จนกระทั่งเมื่อวานนี้ (25 ธันวาคม 2565) นางพัชรินทร์ ถูกจับหลายข้อหา ดังนี้

1.สมคบ โดยการตกลงกัน ตั้งแต่สองคนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดร้ายแรง เกี่ยวกับยาเสพติด และได้มีการกระทำความผิดร้ายแรง เกี่ยวกับยาเสพติด เพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกัน โดยมีลักษณะเป็นการกระทำ ขององค์กรอาชญากรรม

2.สนับสนุน หรือช่วยเหลือ ผู้กระทำความผิดร้ายแรง เกี่ยวกับยาเสพติด ก่อนหรือขณะกระทำความผิด

3.จัดหา หรือให้เงิน หรือทรัพย์สิน ยานพาหนะ สถานที่ หรือ วัตถุใดๆ เพื่อประโยชน์ หรือให้ความสะดวก แก่การกระทำความผิด หรือ เพื่อมิให้ผู้กระทำความผิด ถูกลงโทษ

4.ร่วมกันมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามขาติ โดยสมคบกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดร้ายแรง อันเกี่ยวกับอาชญากรรมข้ามชาติ และมีส่วนร่วมกระทำการใด ๆ ไม่ว่าโดยทางตรง หรือทางอ้อม ในกิจกรรม หรือการดำเนินการขององค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ โดยรู้ถึงวัตถุประสงค์ และการดำเนินกิจกรรมหรือ โดยรู้ถึงเจตนา ที่จะกระทำความผิดร้ายแรงขององค์กรอาชญากรรมข้ามชาติดังกล่าว

5.ฟอกเงินและสมคบ โดยการตกลงกัน ตั้งแต่สองคนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิด ฐานฟอกเงิน และได้มีการกระทำ ความผิดฐานฟอกเงิน เพราะเหตุที่ให้มีการสมคบกันนั้น