ข่าว

รวบ 5 มิจฉาชีพ "แก๊งคอลเซ็นเตอร์" ขณะลักลอบ แอบกลับเข้าไทย ช่องทางธรรมชาติ

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

รวบ 5 มิจฉาชีพ "แก๊งคอลเซ็นเตอร์" ขณะลักลอบ แอบกลับเข้าประเทศไทย โดยช่องทางธรรมชาติ ที่ผิดกฎหมาย อ้างเป็นตำรวจ หลอกเงินผู้เสียหาย หลายล้านบาท

จากนโยบาย ของ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. สั่งเข้มให้ตำรวจที่เกี่ยวข้อง กวาดล้างอาชญากรรมทางไซเบอร์ ที่มีประชาชนได้รับความเดือดร้อน ตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพจำนวนมาก โดยรูปแบบของการหลอกลวงที่ ประชาชนตกเป็นเหยื่อมากที่สุด คือ “แก๊งคอลเซ็นเตอร์” ที่มักโทรมาหลอกลวง ผู้เสียหายในไทย โดยตั้งฐาน อยู่ที่ประเทศกัมพูชา ส่วนใหญ่มักมี กลุ่มคนจีน หรือคนไต้หวัน ร่วมกับคนไทย ที่แอบหลบหนี ออกนอกอาณาจักร ผ่านช่องทางธรรมชาติ เพื่อข้ามฝั่ง ไปทำงาน

 

 

ล่าสุดเมื่อวานนี้ (11 ธันวาคม 2565) เวลา 12.00 น.  พ.ต.ท.ศวัส โชติรณพัส รอง ผกก.ตม.จว.จันทบุรี นํากําลัง เจ้าหน้าที่ ชุดสืบสวน ตม.จว.จันทบุรี ร่วมกับ ทหาร ชค.ทพ.นย.4 , จนท.ตร.ชุด ปฏิบัติการ 5 ศปอส.ตร. , จนท.ตร.กก.สืบสวน2 บก.สส.ภ.2 , จนท.ตร.กก.สส.ภ.จว.จันทบุรี , จนท.ตร. บก.สอท.3 และ จนท.ตร.สภ.โป่งน้ําร้อน เข้าจับกุม 5 ผู้ต้องหา ตามหมายจับของศาล ที่บริเวณ ริมถนนสาธารณะ หมู่4 ตำบลคลองใหญ่ อำเภอโป่งน้ําร้อน จังหวัดจันทบุรี ขณะจะแอบ ลักลอบเดินทางกลับเข้ามาในประเทศไทย

ส่วนพฤติการณ์ของ ผู้ต้องหา “แก๊งคอลเซ็นเตอร์”  ทั้ง 5 ราย จากแนวทางการสืบสวน ของตำรวจ ทราบว่า กลุ่มคนร้าย ได้แอบลักลอบ เดินทางออกจากไทย ไปยังทำงานยังประเทศกัมพูชา โดยลักลอบออกทางช่องทางธรรมชาติ จากนั้นจะโทรศัพท์มาหลอกลวงผู้เสียหาย ที่อยู่ในประเทศไทย โดยอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ของ สถานีตำรวจภูธรเมืองสุราษฎร์ธานี  และ หลอกว่า มีคนนำข้อมูล หรือ เอกสาร ของผู้เสียหาย ไปเช่า รถยนต์ ซึ่งมีการพบยาเสพติด ภายในรถคันดังกล่าว และผู้เสียหาย มีส่วนเกี่ยวข้อง จากนั้น “แก๊งคอลเซ็นเตอร์”  จะส่งเอกสารปลอม ในผู้เสียหาย ในแอพไลน์​ และ พูดจาหว่านล้อมให้โอนเงิน หากผู้เสียหายไม่เชื่อ ก็จะให้ติดตั้งแอพ ของ "DSI" เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ จนผู้เสียหายหลงเชื่อและโอนเงินให้ เสียหายหลายล้านบาท 

 

 

จับ 5 ผู้ต้องหา "แก๊งคอลเซ็นเตอร์"

 

ทั้ง 5 ราย เป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ในความผิดฐาน “ร่วมกันมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ , ร่วมกันอั้งยี่ , ร่วมกันเป็นซ่องโจร , ร่วมกันฉ้อโกงโดย แสดงตนเป็นคนอื่น , โดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง ร่วมกันนําเข้าข้อมูลสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอม ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะ เกิดความเสียหายแก่ประชาชน และร่วมกันฟอกเงิน” 

 

สำหรับการจับกุม “แก๊งคอลเซ็นเตอร์” ครั้งนี้ อยู่ภายใต้ คำสั่งการของ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. , พล.ต.ท.ภาคภูมิภิภัทฒ์ สัจจพันธุ์ ผบช.สตม. , พล.ต.ต.มานัด ศรีวงษา ผบก.ตม.3 และ ได้ประสานการปฏิบัติงานกับศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ชุดปฏิบัติการที่ 5 (PCT5) นำโดย พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ หัวหน้าชุดฯ ทำการสืบสวนขยายผล กลุ่ม "แก๊งคอลเซ็นเตอร์" ในหลายรูปแบบ

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ