ข่าว

ผู้ว่ากกท.แย้งกลับ กสทช.ปัดคืน 600ล้าน -ค่าใช้จ่ายถ่ายทอดสด"ฟุตบอลโลก"

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ถ่ายทอดสด"ฟุตบอลโลก2022" น้ำผึ้งหยดเดียว ระหว่างหน่วยงานรัฐ กสทช. เรียกคืนเงิน 600ล้านบาท ที่มอบให้ กกท. เป็นทุนนำร่อง หลังเกิดประเด็นผู้ถือลิขสิทธิ์ทำผิดขั้นตอน ด้านผู้ว่ากกท .ชี้แจง "The Nation" ทำหนังสือแย้งกลับไป ไม่คืนให้ ยืนยันกระบวนการต่าง ๆ อยู่บนหลักการจัดสรร

ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการ การกีฬาแห่งประเทศไทย ให้สัมภาษณ์กับ The Nation ว่า  ตามที่  สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ  (กสทช. ) ที่สนับสนุนเงินงบประมาณผ่านกองทุนในกำกับของ"กสทช." รวม 600  ล้านบาท สนับสนุนการถ่ายทอดสด"ฟุตบอลโลก2022"  มีมติ เรียกเงินคืนเงิน 600 ล้านบาทจาก กกท. และให้คืนเงินภายใน 15 วัน    โดย กสทช. อ้างถึงการทำผิดหลักเกณฑ์

 

 

 

ในเรื่องดังกล่าว กกท. ชี้แจงกลับไปยังกสทช.  ยืนยันว่าการถ่ายทอดสด"ฟุตบอลโลก2022"  ไม่ได้ทำผิดกฎมัสต์แครี่  แต่อย่างใดและส่งสัญญาณถ่ายทอดสดฟุตบอลโลกให้รับชมแบบไม่เสียค่าใช้จ่าย ตามกฎมัสต์แฮฟ (Must Have) แล้ว  ในทางกกท.เห็นว่า ไม่ได้ปฏิบัติผิดเงื่อนไขอะไร ดำเดินตามกฎมัสต์แคร์รี่ ด้วยการส่งสัญญาณไปยังดิจิตัลทีวี ทั้งภาคพื้นดินและดาวเทียมต่าง  ๆ ซึ่งในกฎของมัสต์ แครี่ ได้ระบุเอาไว้ว่าทุกอย่างต้องอยู่ภายใต้ลิขสิทธิ์ด้วย

ต่อมาศาลได้วินิจฉัยกรณีข้อพิพาทระหว่าง AIS กับ True โดยคำสั่งศาลได้กล่าวถึงการกีฬาแห่งประเทศไทยและกสทช.ที่ดำเนินการถ่ายทอดฟุตบอลโลกให้ประชาชนได้ดูฟรีตามช่องทางต่างๆ ที่ไม่ใช่เฉพาะ IPTV เท่านั้น ถือว่าเป็นไปตามวัตถุประสงค์ของมัสต์ แคร์รี่แล้ว

 

 

"มีคำสั่งศาลเขียนไว้ชัดเจน เพราะฉะนั้นการดำเนินการของกกท.อยู่ภายใต้ลิขสิทธิ์ของคำสั่งศาล ไม่ได้ไปละเมิดอะไรนอกจากนี้ ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย เสริมว่าการที่ กสทช.เรียกเก็บเงินคืนแบบนี้ อยู่ที่มุมมอง และทางนั้นมองมุมที่ต่างกัน เป็นที่มาของการทำหนังสือตอบกลับไปทันทีว่า กกท.ไม่ได้ทำผิดอะไร ทุกอย่างให้ไปดูในคำสั่งศาลได้"  ดร.ก้องศักด ระบุ

 

 

 


อนึ่งก่อนหน้านี้ การกีฬาแห่งประเทศไทย ออกหนังสือชี้แจงวันที่ 4  ธันวาคม ระบุว่า

 

 

 

กกท. ยืนยันปฏิบัติตามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ การสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการซื้อลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลโลก 2022 (รอบสุดท้าย)

 

 

ผู้ว่ากกท.แย้งกลับ กสทช.ปัดคืน 600ล้าน -ค่าใช้จ่ายถ่ายทอดสด"ฟุตบอลโลก" กสทช. ออก หนังสือย้ำเตือนการจัดสรรถ่ายทอดสด ฟุตบอลโลก 2022 ไป ยัง การกีฬาแห่งประเทศไทย

 

 การปฏิบัติตามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ การสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการซื้อลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลโลก 2022 (รอบสุดท้าย)  ตามที่ สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (สำนักงาน กสทช.) มีหนังสือ ด่วนที่สุด ที่ สทช 2305/54243 ลงวันที่ 30 พฤศจิกายน 2565 , หนังสือ ด่วนที่สุด ที่ สทช 2305/53709 ลงวันที่ 28 พฤศจิกายน 2565 และหนังสือ ด่วนที่สุด ที่ สทช 2305/53355 ลงวันที่ 24 พฤศจิกายน 2565 แจ้งให้การกีฬาแห่งประเทศไทย ปฏิบัติตามหนังสือทั้ง 3 ฉบับ และปฏิบัติให้ถูกต้องตามเงื่อนไขและวัตถุประสงค์ของบันทึกข้อตกลงความร่วมมือเรื่องการสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการซื้อลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลโลก ปี 2022 (รอบสุดท้าย) ลงวันที่ 14 พฤศจิกายน 2565 ในข้อ 2.2 ข้อ 2.4 ข้อ 2.8 และข้อ 2.10 

 

 

 

การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ขอเรียนให้ทราบว่า กกท. มิได้เพิกเฉยในการปฏิบัติให้เป็นไปตามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือเรื่องการสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการซื้อลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลโลก ปี 2022 (รอบสุดท้าย) ลงวันที่ 14 พฤศจิกายน 2565 เนื่องจาก กกท. ได้รับสิทธิ์ในการแพร่ภาพ แพร่เสียง การถ่ายถอดสดการแข่งขันฟุตบอลโลก ปี 2022 (รอบสุดท้าย) (FIFA World Cup Final 2022) ระหว่างวันที่ 20 พฤศจิกายน ถึง 18 ธันวาคม 2565 ณ กรุงโดฮา รัฐการ์ตา จากสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (FIFA)

 

 

 

ตามสัญญาอนุญาตให้ใช้สิทธิ์ ฉบับลงวันที่ 20 พฤศจิกายน 2565 และต่อมา กกท. ได้ตกลงให้สิทธิ์ในการแพร่ภาพ แพร่เสียง การถ่ายทอดฟุตบอลโลกกับสำนักงาน กสทช. และผู้รับอนุญาตภายใต้กำกับของ กสทช. ซึ่งให้การสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการซื้อลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลโลกดังกล่าวตามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือเรื่องการสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการซื้อลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลโลก ปี 2022 (รอบสุดท้าย) ลงวันที่ 14 พฤศจิกายน 2565

 

 

 

โดย กกท. ได้ปฏิบัติตามเงื่อนไขที่ได้กำหนดไว้ในบันทึกข้อตกลงดังกล่าวในข้อ 2.2, 2.4, 2.8 และ 2.10 อย่างถูกต้องครบถ้วน รวมทั้งได้ปฏิบัติตามประกาศ สำนักงาน กสทช. เรื่องแนวปฏิบัติตามประกาศ กสทช เรื่อง หลักเกณฑ์การเผยแพร่กิจการโทรทัศน์ที่ให้บริการเป็นการทั่วไป ฉบับลงวันที่ 5 มิถุนายน 2563 ซึ่งกำหนดหลักเกณฑ์การเผยแพร่กิจการโทรทัศน์ที่ให้บริการเป็นการทั่วไป (หลัก Must Carry) ซึ่งมีวัตถุประสงค์ที่ต้องส่งเสริมให้ประชาชนได้รับบริการโทรทัศน์ อันเป็นบริการสาธารณะได้อย่างทั่วถึง โดยทั้งนี้จะต้องอยู่ภายใต้กฎหมายทรัพย์สินทางปัญญา รวมถึงกฎหมายลิขสิทธิ์ด้วย

 

 

 

ต่อมาข้อเท็จจริงปรากฏว่า ได้มีผู้ให้บริการทีวีอินเทอร์เน็ตรายหนึ่ง ได้ให้บริการแพร่ภาพ แพร่เสียง การถ่ายทอดฟุตบอลโลก ปี 2022 (รอบสุดท้าย) ผ่านระบบ ไอพีทีวี (IPTV) และระบบ โอทีที (OTT) โดยไม่ได้รับอนุญาตจากผู้ได้รับสิทธิ์ในการแพร่ภาพ แพร่เสียง การถ่ายทอดสด ฟุตบอลโลก ปี 2022 (รอบสุดท้าย) จาก กกท. ทั้งไม่มีการเสียค่าตอบแทนใดใดให้แก่ผู้ได้รับสิทธิ์ดังกล่าว เป็นเหตุให้ผู้ได้รับสิทธิ์จาก กกท. ได้ยื่นฟ้องผู้ให้บริการทีวีอินเทอร์เน็ตรายนั้นเป็นจำเลยต่อศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลาง ฐานละเมิดทรัพย์ทางปัญญาและลิขสิทธิ์ รวมทั้งให้ศาลมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว ห้ามจำเลยแพร่ภาพ แพร่เสียง การถ่ายทอดฟุตบอลโลก ปี 2022 (รอบสุดท้าย)

 

 

 

ซึ่งศาลได้มีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวตามที่ร้องขอ  ต่อมาจำเลยได้ยื่นคำร้องต่อศาล ฯ ขอให้ศาล ฯ เพิกถอนคำสั่งดังกล่าว   ศาล ฯ ได้มีคำสั่งยกคำร้องของจำเลย โดยให้เหตุผลว่า การมอบสิทธิ์ในการแพร่ภาพ แพร่เสียง การถ่ายทอดฟุตบอลโลก ปี 2022 (รอบสุดท้าย) ที่ กกท. ให้สิทธิ์แก่ผู้ได้รับสิทธิ์จาก กกท. แต่เพียงผู้เดียวเป็นไปตามประกาศของ กสทช. ซึ่งมีวัตถุประสงค์ให้ประชาชนสามารถเลือกชมโทรทัศน์ได้หลายช่องทาง ทั้งในระบบฟรีทีวี ระบบดาวเทียม ระบบเคเบิล และในระบบโทรทัศน์ภาคพื้นดิน มิใช่เพียงแค่ช่องทางระบบไอพีทีวี (IPTV) เท่านั้น

 

 

 

ถือได้ว่าเป็นการดำเนินการตามวัตถุประสงค์ของหลัก Must Carry แล้ว อีกทั้งจำเลยมีผู้รับบริการเพียง 900,000 ราย ซึ่งเป็นจำนวนไม่มากนัก เมื่อเทียบกับจำนวนประชาชนในประเทศไทย ที่รับชมการรับถ่ายทอดสดฟุตบอลโลกในครั้งนี้ ทั้งไม่ปรากฏหลักฐานชัดเจนว่า จำเลยได้รับความเสียหายแต่อย่างใด นอกจากข้ออ้างที่ว่า ตนต้องปฏิบัติตามหลัก Must Carry ตามประกาศของ กสทช. เท่านั้น ทั้งจำเลยก็มิได้เสียค่าตอบแทนใดๆ มีแต่ได้รับประโยชน์จากการเก็บค่าบริการจากผู้ใช้บริการเท่านั้น หากปล่อยให้จำเลยแพร่ภาพ แพร่เสียง การถ่ายทอดฟุตบอลโลก ปี 2022( รอบสุดท้าย) ในระบบไอพีทีวี (IPTV) และระบบ โอทีที (OTT) ต่อไป จะเกิดความเสียหายแก่ผู้ได้รับสิทธิ์มากกว่า

 

 


 จากข้อเท็จจริงดังกล่าวข้างต้น เป็นเรื่องที่มีการฟ้องร้องดำเนินคดีในการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาและลิขสิทธิ์ ต่อผู้ได้รับสิทธิ์ในการแพร่ภาพ แพร่เสียง การถ่ายทอดฟุตบอลโลก ปี 2022 (รอบสุดท้าย) จาก กกท. ซึ่ง กกท. ต้องเคารพในสิทธิ์และการใช้สิทธิ์ตามกฎหมายของผู้ได้รับสิทธิ์ดังกล่าว เป็นเรื่องที่ไม่เกี่ยวข้องและไม่มีผลกระทบต่อการปฏิบัติหน้าที่ตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือระหว่างสำนักงาน กสทช. กับ กกท. แต่อย่างใด กกท. ขอยืนยันว่าได้ปฏิบัติตามเงื่อนไข ตามข้อตกลงดังกล่าว โดยเฉพาะอย่างยิ่งตามข้อ 2.2, 2.4, 2.8 และ 2.10 อย่างเคร่งครัดแล้ว
 

 

 

 

ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย ในฐานะตัวแทนรัฐบาลไทย แถลงข่าวขอบคุณผู้สนับสนุนการถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลโลก กาตาร์ 2022 ทั้งในส่วนภาครัฐ โดยสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ และกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ   ร่วมด้วยภาคเอกชน

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ