ข่าว

'ผช.รมว.แรงงาน' เชื่ออุ๊งอิ๊ง 'ขึ้นค่าแรง' โหนกระแสเลือกตั้ง ซ้ำรอยปี 55

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

'ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน' เชื่อนโยบาย 'ขึ้นค่าแรง' ของพรรคเพื่อไทย โหนกระแสเลือกตั้ง หวั่นเกิดซ้ำรอยปี 55 ธุรกิจปิดตัวลง ค่าครองชีพสูงขึ้น ว่างงานเพิ่มขึ้น

กรณีที่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม พรรคเพื่อไทย และหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย เปิด 10 นโยบายพลิกฟื้นประเทศ ปี 2570 หนึ่งในนั้นคือ "ขึ้นค่าแรง" ไม่ต่ำกว่า 600 บาทต่อวัน เงินเดือนของผู้จบการศึกษาระดับปริญญาตรี อยู่ที่ 25,000 บาทขึ้นไป 

 

วันที่ 6 ธันวาคม 2565 นายสุรชัย ชัยตระกูลทอง ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า ในฐานะที่ตนเป็นนักธุรกิจคนหนึ่ง อดีตเคยเป็นสมาชิกวุฒิสภามาก่อน และปัจจุบันมาเป็นผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงแรงงาน ดูแลในส่วนของการ "ขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำ"  ด้วยนั้น มองว่า การจะกำหนดอัตราค่าจ้างที่สูงเช่นนี้จะทำลายระบบเศรษฐกิจชุมชน วิถีชีวิตชุมชน เอสเอ็มอีไทย เนื่องจากจะส่งผลให้จ้างงานไม่ได้ สุดท้ายวิสาหกิจชุมชนต้อง หายออกไปจากระบบ เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ชุมชนต้องล่มสลายในที่สุด 

 

"การออกมากำหนดยุทธศาสตร์ของพรรคในลักษณะดังกล่าว ถือเป็นการโหนกระแสการเลือกตั้ง เพื่อหวังเพียงคะแนนเสียงอย่างเดียวเท่านั้น ไม่ได้เป็นการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศเพื่อให้เกิดความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน และให้ประชาชนเกิดความผาสุกแต่อย่างใด ไม่ได้ส่งเสริมให้ภาคเกษตร ภาคท่องเที่ยวภาคอุตสาหกรรม ภาคบริการต่างๆ อยู่ร่วมกันได้ "
 

นายสุรชัย กล่าวว่า ในอดีตมีพรรคการเมืองหนึ่งเคยออกยุทธศาสตร์นโยบายการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำวันละ 300 บาททั่วประเทศเมื่อช่วงปี 55 - 56 เป็นต้นมา ต้องยอมรับว่าผลกระทบจากนโยบายดังกล่าวในขณะนั้น ทำให้เกิดค่าครองชีพสูง ภาคอุตสาหกรรมนักลงทุนตามภูมิภาคของประเทศต้องย้ายฐานการผลิตกลับกรุงเทพและปริมณฑล ธุรกิจเอสเอ็มอีในภูมิภาคปิดกิจการลง คนจากชนบทต้องย้ายเข้ามาอยู่ในกรุงเทพ ปริมณฑล หรือหัวเมืองใหญ่ๆ วิถีชีวิตเกษตร วิสาหกิจชุมชน ธุรกิจบริการในภูมิภาค ไม่สามารถจ้างแรงงานได้ระบบเศรษฐกิจชุมชนถูกทำลาย เกิดการว่างงานสูง 


จากข้อมูลของสำนักงานประกันสังคม พบว่า ในปี 2555 มีผู้ประกันตน "ขึ้นทะเบียนว่างงาน" 5.03 แสนคน แต่ในปี 2557 ภายหลังจากนโยบายขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำวันละ 300 บาททั่วประเทศ ทำให้มีผู้ประกันตนขึ้นทะเบียนว่างงานเพิ่มขึ้นเป็น 5.75 แสนคน ยิ่งไปกว่านั้นจำนวนของผู้ว่างงานในเดือนมิถุนายน 2555 มีจำนวนทั้งสิ้น 2.67 แสนคน หรือคิดเป็นอัตราการว่างงาน 0.7% และเมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2554 มีจำนวนผู้ว่างงานเพิ่มขึ้น 1.04 แสนคน จาก 1.63 แสนคน เป็น 2.67 แสนคน 

นายสุรชัย ยืนยัน กระทรวงแรงงานอยากให้ผู้ใช้แรงงานทุกคนมีรายได้สูง มีคุณภาพชีวิตที่ดี แต่การที่จะกำหนดขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำแต่ละครั้ง ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของคณะกรรมการค่าจ้างที่เป็นองค์กรไตรภาคี ประกอบด้วยผู้แทน 3 ฝ่าย คือ ผู้แทนฝ่ายรัฐบาล ผู้แทนฝ่ายนายจ้าง และผู้แทนฝ่ายลูกจ้าง โดยต้องคำนึงถึงปัจจัยดัชนีค่าครองชีพ อัตราเงินเฟ้อ มาตรฐานการครองชีพ ต้นทุนการผลิต ราคาของสินค้าและบริการ ความสามารถของธุรกิจ ผลิตภาพแรงงาน ผลิตภัณฑ์มวลรวมของประเทศ และสภาพทางเศรษฐกิจและสังคม จะต้องอยู่บนพื้นฐานของความเสมอภาค เปิดการรับฟังความเห็นของผู้มีส่วนเกี่ยวข้องและเป็นที่ยอมรับร่วมกันของทุกฝ่าย เพื่อให้นายจ้างสามารถประกอบธุรกิจอยู่ได้และลูกจ้างสามารถดำรงชีวิตอยู่ได้ตามสมควร ดังนั้นการจะประกาศยุทธศาสตร์ด้านค่าจ้างแรงงาน ต้องตระหนักถึงผลได้ผลเสียต่อเศรษฐกิจและค่าจ้างแรงงานต่างด้าวด้วย ซึ่งอยู่ในกฏบัตรAECประชาคมอาเซียน ที่ต้องจ่ายค่าจ้างแรงงานต่างด้าวในอัตราเดีนวกับค่าจ้างแรงงานไทยด้วย

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ