จับแล้ว "หนุ่มโหดฆ่าทุบหัวสาวสอง" ทิ้งคลอง อ้างทะเลาะขัดแย้งส่วนตัว

จากกรณีพบผู้เสียชีวิต ลอยอยู่ในคลองส่งน้ำที่ 2 ต.คลองสอง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี สภาพศพ สวมเสื้อเกาะอกสีน้ำตาล กางเกงยีนส์ขายาว ไม่สวมรองเท้า มีบาดแผลถูกทำร้ายที่ศีรษะ  ข้อมือขวามีร่องรอยขีดข่วนฟกช้ำ ที่ข้อมือซ้ายสวมกำไลสีทอง-ดำ สวมแหวนเพชรที่นิ้วชี้ข้างซ้าย สะดือเจาะใส่จิวเพชร สักที่แผ่นหลังซ้ายเป็นรูปดอกไม้ ภายในกระเป๋ากางเกงพบพวงกุญแจรถยนต์  แต่ในตัวไม่พบเอกสารติดตัว

 

 

 

 

 

 

 

 

จากการชันสูตรเบื้องต้นพบผู้เสียชีวิตเป็นสาวประเภทสอง มีการเสริมหน้าอกและแปลงอวัยวะเพศมาแล้ว ทราบชื่อ นายปิยะดา  อายุ 29 ปี โดยบาดแผลที่ศีรษะ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตั้งประเด็นฆ่าชิงทรัพย์ และความขัดแย้งส่วนตัว

 

 

 

 

ส่วนทรัพย์สินของผู้เสียชีวิตที่หายไปมีโทรศัพท์มือถือไอโฟน 1 เครื่อง สร้อยคอชาแนลทอง ส่วนเพื่อนผู้ตายได้ให้ข้อมูลว่าผู้ตายได้หายตัวไปตั้งแต่เวลา 23.00 น.ของวันที่ 22 พ.ย.65 จากสวนลุมพินี กรุงเทพมหานคร และมาทราบข่าวว่าเพื่อนถูกฆ่าตายทิ้งคลองส่งน้ำในเขตของ จ.ปทุมธานี

 

 

 

 

 

 

 

ล่าสุด เจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 1 พร้อมด้วยฝ่ายสืบสวน สภ.คลองหลวง ติดตามกุมตัวคนร้ายที่ก่อเหตุได้แล้ว คือ นายยุทธพล  อายุ 36 ปี  เป็นพนักงานไรเดอร์ โดยเจ้าหน้าที่สามารถติดตามจับกุมได้ที่ จ.ชลบุรี จากนั้นได้คุมตัวนายยุทธพล ไปค้นอาวุธที่ใช้ก่อเหตุและนำตัวมาที่ สภ.คลองหลวง

 

 

 

 

พล.ต.ต.พีระพงศ์ วงษ์สมาน รอง ผบช.ภ.1. เปิดเผยว่า จากการสอบสวนเบื้องต้นผู้ต้องหาที่ก่อเหตุฆ่าชิงทรัพย์นายปิยะดา รับสารภาพว่า ก่อนเกิดเหตุ 2- 3 วันได้เดินทางไปที่สวนลุมพินี กทม.เพื่อที่จะชิงทรัพย์กับสาวประเภทสองที่ทำมาหากินอยู่บริเวณนั้น แต่ดูแล้วไม่ปลอดคนจึงไม่เลือกลงมือก่อเหตุ

 

จนกระทั่งวันเกิดเหตุคืนวันที่  22  พ.ย. 2565 ได้เดินทางไปที่สวนลุมพินีอีกครั้ง โดยเคยใช้บริการกับผู้ตายไปแล้ว 1ครั้ง ก่อนจะวนรถกลับไปใช้บริการอีกครั้งหนึ่ง โดยผู้เสียชีวิต ขึ้นรถยนต์เของผู้ก่อเหตุ ก่อนจะจับผู้ตายกดหัวใช้อาวุธมีดจี้และค้นตัว  แต่ไม่พบทรัพย์สินมีเพียงโทศัพท์ 1เครื่อง จึงให้ผู้ตายโอนเงินให้แต่ผู้ตายไม่โอนจึงใช้ค้อนทุบที่ท้ายทอย 1ครั้ง กระทั่งผู้ตายยอมโอนเงินให้ 1,400บาท ก่อนที่ผู้ตายจะเงยหน้าขึ้นมาจึงใช้ค้อนตีอีกครั้งหนึ่งซึ่งเป็นด้านที่ใช้งัดตะปูตีเข้าที่ขมับอีกครั้งหนึ่ง ทำให้จุดดังกล่าวมีบาดแผลเป็น 2 รู ซึ่งตอนแรกเจ้าหน้าที่คิดว่าเป็นบาดแผลของคมกระสุนปืน แต่เมื่อพิสูจน์แล้วปรากฏว่าไม่ใช่ 

 

 

 

 

จากนั้นผู้ก่อเหตุก็ขับรถพาร่างผู้เสียชีวิต มาที่ถนนเลียบคลองสองบริเวณปากซอยบงกช 40 ซึ่งห่างจากจุดที่พบศพไปด้านทิศเหนือประมาณ 500 เมตร ก่อนจะใช้โซ่กับดัมเบลรัดที่คอคนตาย แล้วโยนศพทิ้งคลองส่งน้ำ ก่อนที่ผู้ต้องหาจะขับรถยนต์เก๋งกลับบ้านไปโดยใช้ผ้าเช็ดคราบเลือด แล้วใช้รถจยย.ขับออกจากบ้านพักที่เขตสายไหม กทม.แล้วขับจยย.ไปต่อที่ จ.ชลบุรี กระทั่งถูกจับกุมตัว

 

ทั้งนี้ นายยุทธพล ให้การอีกว่า  ตนมีความประสงค์แค่ชิงทรัพย์ ไม่มีเจตนาที่จะฆ่าต้องขอโทษญาติผู้เสียชีวิตด้วยตนเองขอไปชดใช้กรรมในคุก แต่กลัวถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัว จึงต้องทำร้ายผู้ตายโดยใช้ฆ้อนตีไปหลายครั้งตั้งแต่สวนลุมพินีกทม. ก่อนนำศพมาทิ้งแล้วหลบหนีไป

 

 

 

 

ซึ่งทางพนักงานสอบสวน สภ.คลองหลวง ได้แจ้งข้อหา ฆ่าผู้อื่นโดยกระทำทารุณโหดร้ายชิงทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยมีอาวุธเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ซ่อนเร้นย้าย หรือทำลายศพหรือส่วนของศพเพื่อปิดบังการเกิด การตาย หรือเหตุแห่งการตาย
 

 

อย่างไรก็ตาม ขณะที่ เจ้าหน้าที่ตำรวจ คุมตัวนายนายยุทธพล ลงจากรถยนต์ของเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนเพื่อนำตัวขึ้นไปยังห้องประชุมชั้น 3 ของสภ.คลองหลวง กลุ่มญาติและเพื่อนของผู้ตายซึ่งอยู่ในอารมณ์โกรธแค้นได้ปรี่เข้ารุมประชาทัณฑ์จนเกิดเหตุการณ์ชุลมุนเกิดขึ้น จนเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบต้องเข้ากันตัวออก

 

ทั้งนี้ ญาติจะนำร่างของผู้เสียชีวิตไปประกอบพิธีกรรมทางศาสนาคริสต์ ที่ โบสถ์วัดซางตาครู้ส 3วัน ก่อนที่จะนำร่างไปฝังที่ จ.นครปฐม