ญาติเผาศพ "สาวไฮโซลาว" ถูกฆาตกรรมทิ้งศพลอยน้ำโขง ลูกสาว 4 ขวบยังไร้ร่องรอย

19 พ.ย.2565  ที่ศาลาพระธรรมราชานุวัตร วัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร อ.ธาตุพนม จ.นครพนม พระมหาเสรี พุฒิวังโส ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดพระธาตุพนม เป็นประธานสงฆ์ พร้อมด้วย พ.ต.อ.ถวิล คำเกษ ผกก.สภ.ธาตุพนม เป็นประธานฝ่ายฆราวาส นำญาติพี่น้องผู้เสียชีวิตจากคดีฆาตกรรมฆ่าถ่วงน้ำโขง คือ นางวิพาพอน กอนสิน อายุ 36 ปี  ประธานบริษัทเอกชนยักษ์ใหญ่ ที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่ง ทำธุรกิจเกี่ยวกับโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ การค้าการลงทุน ที่นครหลวงเวียงจันทร์ สปป.ลาว  อีกทั้งยังเป็นบุคคลที่มีฐานะ และเป็นคนสนิทของผู้มีบารมีใน สปป.ลาว มาประกอบพิธีฌาปนกิจศพ ตามประเพณีความเชื่อชาวลาวเชื้อสายจีน 

โดย นางวิพาพอน ถูกฆาตกรรมโหดฆ่ายัดกระเป๋าเดินทางโยนถ่วงน้ำโขงลอยมาติดฝั่งไทย เมื่อวันที่ 28 ก.ย. 2565 ริมฝั่งแม่น้ำโขงเขตเทศบาลตำบลธาตุพนม หลังจากทางญาติมีการยืนยันหายตัวปริศนา ไปเมื่อวันที่ 10 ก.ย. 2565 จากนครหลวงเวียงจันทน์ สปป.ลาว ส่วนลูกสาวอายุ 4 ขวบ ยังหายตัวปริศนา 

 

 

 

 

โดยหลังเกิดเหตุทางการลาว ได้พบหลักฐานรถเบนซ์หรู ถูกทิ้งริมน้ำโขง ห่างจากตัวเมืองนครหลวงเวียงจันทน์ ประมาณ 5 - 6 กิโลเมตร จนกระทั่งภายหลังมาพบศพลอยอืดติดฝั่งไทย อ.ธาตุพนม จ.นครพนม แต่ยังไม่สามารถจับตัวคนร้ายได้ ส่วนตำรวจไทย มีหน้าที่เพียงสอบสวนสืบสวน ชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิต ก่อนที่จะมอบให้ ตำรวจแผนกสืบสวนคดีอาญา สปป.ลาว ดำเนินคดีตามกฎหมายทางการลาวต่อไป 
    

สำหรับการจัดงานฌาปนกิจศพครั้งนี้ มีพิธีแบบเรียบง่ายแต่สมฐานะ มีการประดับตกแต่งทั้งงานศพ รวมถึงบริเวณรอบเมรุด้วยดอกไม้สด สีขาว สลับสีชมพู มูลค่าการจัดงานนับแสนบาท โดย มี ครอบครัว และญาติของผู้เสียชีวิต มาร่วมไว้อาลัย นำโดยพี่ชาย และพี่สาว จากพี่น้องทั้งหมด 6 คน ซึ่งนางวิพาพอน ผู้เสียชีวิต เป็นน้องคนสุดท้อง นอกจากนี้ยังมี ลูกอีก 3 คน ที่เดินทางมาประกอบพิธีฌาปนกิจด้วย ซึ่งหลังประกอบพิธีเสร็จสิ้นแล้ว ทางญาติจะนำอัฐิ กลับไปบรรจุที่สุสานบ้านเกิด อยู่เมืองไซ แขวงอุดมไซ สปป.ลาว 

 

 

 

 

 

ด้าน นางมนีวัน พี่สาวผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า พื้นฐานครอบครัวเป็นชาวลาวเชื้อสายจีน ทำอาชีพค้าขาย ส่วนผู้น้องสาว ที่เสียชีวิต มาอาศัยเรียนหนังสือ ที่นครหลวงเวียงจันทน์ ตั้งแต่อายุประมาณ 20 ปี จนทำงานมีครอบครัว มีบุตรกับสามีคนแรก รวม 3 คน ส่วนลูกสาวคนที่ 4 เป็นบุตรกับสามีใหม่ ทางญาติและครอบครัวไม่รู้ว่า คนเป็นสามีทำงานอะไร น้องสาวไม่เปิดเผย และไม่ได้ไปมาหาสู่กับครอบครัวหลายปีแล้ว เพราะระยะทางไกลกันมาก ส่วนใหญ่จะติดต่อกันทางโทรศัพท์พูดคุยกันธรรมดา เพียงรู้ว่าทำงาน ทำธุรกิจ เกี่ยวกับการค้าการลงทุนในลาว

 

ส่วนรายละเอียดการทำงาน หรือความขัดแย้งไม่เคยมีข้อมูล มารู้วันเกิดเหตุจากญาติ รวมถึงหลาน ที่อาศัยกับผู้ตายที่บ้าน ในเวียงจันทน์ ว่าผู้ตายหายตัวปริศนา ไปตั้งแต่เช้า วันที่ 10 ก.ย. 2565 ติดต่อไม่ได้ และยังมีลูกสาวกับสามีใหม่ เป็นหญิง อายุ 4 ขวบ ที่หายตัวไปด้วย ปัจจุบันยังไม่รู้ว่ามีชีวิตอยู่ หรือเสียชีวิตแล้ว

 

 

 

 

ยอมรับว่าเสียใจมากที่มารู้ว่าน้องสาว ถูกฆาตกรรมถ่วงน้ำโขง และศพลอยมาติดที่ฝั่งไทย อ.ธาตุพนม และยังพบรถยนต์ส่วนตัวถูกทิ้งที่ริมน้ำโขง นครหลวงเวียงจันทน์ เชื่อว่าเป็นการฆาตกรรมแน่นอน แต่ไม่รู้ว่าเป็นคนร้ายกลุ่มไหน เพราะไม่เคยมีข้อมูลส่วนตัวน้องสาวว่า มีปัญหาขัดแย้งกับใคร โดยได้แจ้งความให้ทางตำรวจ สปป.ลาว ดำเนินคดีติดตามหาคนร้าย รวมถึงหลานสาว อายุ 4 ขวบที่หายไป

 

วันนี้หลังผลชันสูตรยืนยัน จึงมาทำบุญประกอบพิธีฌาปนกิจศพตามประเพณี เพื่อนำอัฐิกลับไปบรรจุสุสานที่บ้านเกิด เพราะหากนำศพกลับไปขั้นตอนยุ่งยากในการเดินทาง ส่วนเรื่องการติดตามคนร้ายขอให้เจ้าหน้าที่ทางการลาวดูแล ต่อไป

 

 

 

 

ด้าน  พ.ต.อ.ถวิล คำเกษ ผกก.สภ.ธาตุพนม ระบุว่า สำหรับการเสียชีวิต ของ นางวิพาพอน  ทางตำรวจ สภ.ธาตุพนม ได้ระดมทีมสอบสวนสืบสวน รวมถึงเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน เข้าตรวจสอบชันสูตรศพ หลังพบศพตั้งแต่วันที่ 28 ก.ย.  2565  ริมฝั่งน้ำโขงในเขตเทศบาลตำบลธาตุพนม พบสภาพศพถูกฆาตกรรม ยิงด้วยกระสุนปืน คาดว่าเป็นปืนยาว กระสุนฝังศีรษะ 1 นัด สภาพศพถูกยัดกระเป๋าในท่านั่งคุดคู้ ไม่มีการมัดมือมัดเท้า เป็นกระเป๋าเดินทางสีดำขนาดใหญ่ ส่วนเสื้อจากการชันสูตรเบื้องต้น พบเป็นเสื้อผ้าแบรนด์เนมที่มีราคาพอสมควร เป็นที่มาของเบาะแส ให้ญาติผู้เสียชีวิต ออกมายืนยันตัวตนผู้เสียชีวิต หลังติดตามข่าวผ่านสื่อ นอกจากนี้ยังได้ส่งศพไปชันสูตรที่ สถาบันนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ กทม. เพื่อเทียบเคียงดีเอ็นเอระหว่างบุตรผู้เสียชีวิต ยืนยันตรงกัน ทางตำรวจจึงได้ส่งมอบคืนญาติ เพื่อบำเพ็ญกุศลตามประเพณี 

 

ส่วนอำนาจหน้าที่ในการสอบสวนทางตำรวจไทย มีหน้าที่เพียงชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิต ยืนยันเป็นการฆาตกรรม และในการสืบสวนปมที่มาการเสียชีวิตรวมถึง การติดตามคนร้ายจะได้มอบหมายให้ตำรวจแผนกสืบสวนคดีอาญา สปป.ลาว และทางการลาว ดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป เพราะจากการตรวจสอบพยานหลักฐานพบว่าเหตุเกิดที่ สปป.ลาว ทางตำรวจไทยจึงไม่มีอำนาจในการสอบสวนสืบสวนหาคนร้าย ถือว่าสิ้นสุดอำนาจหน้าที่ตามกระบวนการกฎหมาย 

 

 

 

พงศ์สุคนธ์ คุณธรรมมงคล  จ.นครพนม