ข่าว

3 วิธีหลัก ป้องกัน "ลองโควิด" พบปัญหาด้านความจำเกือบครึ่งหนึ่ง เสี่ยงตกงาน

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"หมอธีระ" เปิดข้อมูล ปัญหา "ลองโควิด" เกือบครึ่งหนึ่ง มีปัญหาด้านความคิดความจำ เสี่ยงตกงาน แนะ 3 วิธีหลักๆ ป้องกัน Long COVID

"หมอธีระ" รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์เฟซบุ๊ก Thira Woratanarat เปิดเผยข้อมูล สถานการณ์การติดเชื้อ โควิด19 เมื่อวานทั่วโลกติดเพิ่ม 266,736 คน ตายเพิ่ม 627 คน รวมแล้วติดไป 642,435,193 คน เสียชีวิตรวม 6,623,352 คน

 

 

5 อันดับแรกที่ติดเชื้อสูงสุดคือ ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ฝรั่งเศส ไต้หวัน และออสเตรเลีย ซึ่งหลังหายจากการติดเชื้อ โควิด19 สิ่งที่ผู้ป่วยมักจะเจอคือ "ลองโควิด" Long COVID ซึ่ง การป้องกันในปัจจุบันมีเพียง 3 วิธีหลักๆ เท่านั้น

 

การระบาดในอเมริกา

 

ข้อมูลล่าสุดจาก US CDC ชี้ให้เห็นว่า สายพันธุ์ย่อยที่ครองการระบาดมากที่สุดคือ BQ.1.x ซึ่งเพิ่มขึ้นสูงถึง 49.7% ในขณะที่ BA.5 นั้นเหลือเพียง 24% นอกจากนั้นยังมีอีกหลายสายพันธุ์ที่ตรวจพบในสัดส่วนรองๆ ลงมา เช่น BF.7, BN.1, BA.4.6

 

อัพเดตผลของ Long COVID กับการทำงาน

 

Trujillo KL และคณะ จากประเทศสหรัฐอเมริกา ได้ทำการวิเคราะห์ผลการสำรวจประชากรกว่า 15,000 คน อายุ 18-69 ปี ตั้งแต่กุมภาพันธ์ 2564 ถึงกรกฎาคม 2565 เผยแพร่ใน medRxiv วันที่ 18 พฤศจิกายน 2565

 

สาระสำคัญพบว่า กลุ่มประชากรที่ติดเชื้อโรค "โควิด19" และเกิดอาการผิดปกติ Long COVID นั่น เกือบครึ่งหนึ่ง (45.9%) มีปัญหาด้านความคิดความจำ (brain fog, impaired memory)

 

ทั้งนี้ วิเคราะห์พบว่า การเกิดปัญหา Long COVID นั้นเพิ่มความเสี่ยงต่อการตกงาน/ไม่มีงานทำ 44%, และเพิ่มความเสี่ยงต่อการไม่สามารถทำงานเต็มเวลา (full-time work) 27%

 

นอกจากนี้ การที่มีปัญหาด้านความคิดความจำ จะเพิ่มความเสี่ยงต่อการไม่สามารถทำงานเต็มเวลา 29% ผลการวิจัยนี้ตอกย้ำให้เห็นถึงความสัมพันธ์ระหว่างปัญหา Long COVID กับการทำมาหากิน การทำงาน และช่วยให้เราเห็นถึงความสำคัญของการป้องกัน เพราะการติดเชื้อไม่ได้จบแค่ชิลๆ หาย ป่วย หรือตาย แต่ยังทำให้เกิดความเสี่ยงต่ออาการผิดปกติระยะยาวตามมา ซึ่งส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิต สมรรถนะในการดำเนินชีวิตประจำวัน และการทำงาน รวมถึงค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่เกิดขึ้นตามมา

 

การป้องกัน Long COVID ปัจจุบันมีเพียง 3 วิธีหลัก ได้แก่

 

หนึ่ง การฉีด วัคซีนเข็มกระตุ้น ให้ครบตามกำหนด จะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิด Long COVID ได้ราว 15-40%

สอง การได้รับยาต้านไวรัส Paxlovid ตั้งแต่ช่วงแรกที่ตรวจพบว่ามีการติดเชื้อ จะช่วยลดความเสี่ยง Long COVID ได้ราว 26%

สาม วิธีที่ดีที่สุดคือ การป้องกันตัวไม่ให้ติดเชื้อ หรือไม่ให้ติดเชื้อซ้ำ เพราะการติดเชื้อแต่ละครั้งย่อมเกิดความเสี่ยงเป็นเงาตามตัว

 

การหมั่นอัพเดตสถานการณ์ และความรู้ที่ถูกต้องอย่างสม่ำเสมอ ใช้ชีวิตด้วยความไม่ประมาท ลดละเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยง สถานที่แออัด ระบายอากาศไม่ดี ที่สำคัญที่สุดคือ การใส่หน้ากากอย่างถูกต้อง ระหว่างดำรงชีวิตประจำวัน ทำงาน เรียน หรือท่องเที่ยว จะช่วยลดความเสี่ยงลงไปได้มาก

 

สายพันธุ์ที่ระบาด

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ