ข่าว

คิกออฟ มหกรรมร่วมใจแก้หนี้ "คลัง" สั่งแบงก์รัฐ ตรึงดอกเบี้ยถึงสิ้นปี

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"อาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง" เปิด "มหกรรมร่วมใจแก้หนี้"  สั่ง "สถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ" ตรึงดอกเบี้ยเพื่อช่วยประชาชนให้ช่วงปลายปีนี้ 

วันที่ 4 ต.ค. 65 ที่ฮอลล์5 อิมแพคเมืองทองธานี นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง เปิดเผยภายหลังเปิดงาน “มหกรรมร่วมใจแก้หนี้ : มีหนี้ต้องแก้ไข เริ่มต้นใหม่อย่างยั่งยืน” ครั้งที่ 1 ว่า ได้สั่งการให้สถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ ตรึงอัตราดอกเบี้ยเพื่อช่วยเหลือประชาชนให้นานที่สุด

 

“มหกรรมร่วมใจแก้หนี้ : มีหนี้ต้องแก้ไข เริ่มต้นใหม่อย่างยั่งยืน” ครั้งที่ 1 

 

โดยเบื้องต้นคาดว่าจะถึงช่วงปลายปีนี้ ซึ่งทุกแห่งต่างพร้อมให้ความร่วมมืออย่างดี ขณะที่อัตราดอกเบี้ยเงินฝากก็อาจจะมีการขยับเพิ่มขึ้นบ้างเพื่อให้สอดคล้องกับทิศทางอัตราดอกเบี้ยในปัจจุบัน

"สถาบันการเงินของรัฐมีบทบาทสำคัญ 2 ส่วน คือ 1. เป็นแหล่งระดมเงินฝาก และ 2. เป็นกลไกของรัฐ ซึ่งการขึ้นดอกเบี้ยนั้นก็ได้เคยขอความร่วมมือไปว่าให้ตรึงให้นานที่สุด ซึ่งทุกแบงก์ก็รับปาก โดยจะตรึงจนถึงปลายปี ส่วนหลังปีใหม่คงต้องมาดูสถานการณ์กันอีกที" นายอาคม กล่าว

 

นาย อาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง

 

รมว.คลัง กล่าวว่า แม้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะมีการปรับขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่ในส่วนของไทยคงมองตามเฟดตลอดไม่ได้ เพราะยังมีปัจจัยอีกหลายด้านที่ต้องพิจารณา โดยเฉพาะแนวโน้มเศรษฐกิจที่กำลังฟื้นตัว ภาคธุรกิจกำลังเริ่มขยับไปได้

 

หากเจออัตราดอกเบี้ยขาขึ้นก็อาจเป็นการซ้ำเติม ซึ่งเรื่องนี้ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) มีการพิจารณาหลาย ๆ อย่างประกอบ โดยดูทั้งทิศทางของภาคธุรกิจโดยเฉพาะขนาดเล็ก และประชาชนว่าสามารถรับได้มากน้อยแค่ไหน

 

 

สำหรับมาตรการกระตุ้นการบริโภค เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ให้คนไทยนั้น ขณะนี้กระทรวงการคลังยังอยู่ระหว่างการพิจารณา ยอมรับว่ามีหลายมาตรการที่กำลังดูอยู่

“มหกรรมร่วมใจแก้หนี้ : มีหนี้ต้องแก้ไข เริ่มต้นใหม่อย่างยั่งยืน” ครั้งที่ 1 

นอกจากนี้ นายอาคม กล่าวตอนหนึ่งในระหว่างพิธีเปิดมหกรรม "ร่วมใจแก้หนี้ : มีหนี้ต้องแก้ไข เริ่มต้นใหม่อย่างยั่งยืน" สัญจร ครั้งที่ 1 ที่ฮอลล์ 5 อิมแพคเมืองทองธานี ว่า งานนี้เป็นความร่วมมือระหว่างกระทรวงการคลัง ธปท. และสมาคมสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ ผนึกกำลังเพื่อร่วมแก้ไขหนี้ให้กับลูกค้าและประชาชน พบว่ามีผู้ลงทะเบียนเพื่อร่วมงานแล้วกว่า 1.25 หมื่นราย และคาดว่ายอดลงทะเบียนจะเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ

 

"รัฐบาลได้ตั้งเป้าหมายให้ปีนี้เป็นปีแห่งการแก้หนี้ภาคประชาชน ซึ่งพบว่าประชานส่วนใหญ่เดือดร้อนจากภาระหนี้สิน หลังจากสถานการณ์โควิด-19 ในงานนี้จะมีมาตรการที่จะให้ความช่วยเหลือได้อย่างเต็มที่ จึงอยากให้ประชาชนที่เดือดร้อนมาใช้สิทธิประโยชน์ที่สถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐจัดเตรียมไว้ให้" รมว.คลัง กล่าว

 

สำหรับการจัดงานมหกรรมร่วมใจแก้หนี้ ในครั้งต่อไปอีก 4 ภูมิภาคทั่วประเทศ ประกอบด้วย ครั้งที่ 2 จังหวัดขอนแก่น วันที่ 18-20 พ.ย. 2565 ณ ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติขอนแก่น, ครั้งที่ 3 จังหวัดเชียงใหม่ วันที่ 16-18 ธ.ค. 2565 ณ ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติเชียงใหม่, ครั้งที่ 4 จังหวัดชลบุรี วันที่ 20-22 ม.ค. 2566 ณ ศาลาประชาคมเทศบาลเมืองบ้านสวน และครั้งที่ 5 จังหวัดสงขลา วันที่ 27-29 ม.ค. 2566 ณ หอประชุมมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ