ข่าว

พิษแอปฯหาคู่ ตร.ช่วยสาวลำพูนเหยื่อ "หนุ่มโหด" แชทลวง ก่อนทำร้าย ทารุณ กักขัง

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ตร.บุกช่วย สาวลำพูน โดน "หนุ่มโหด" หนีคดีฆ่าสาวกบดานพัทลุง ที่รู้จักผ่าน แอปฯ หาคู่ ก่อนลวงมากักขัง ทำร้ายร่างกาย บาดเจ็บสาหัส

13 ต.ค.2565  ตำรวจกองบังคับการปราบปราม  นำกำลังเข้าจับกุม นายธนเดช หรือ รุจ (สงวนนามสกุล) อายุ 27 ปี  ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลตลิ่งชัน  ข้อหา กระทำความผิดฐาน "ทำร้ายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ผู้นั้นถึงแก่ความตายโดยทรมานหรือกระทำทารุณโหดร้าย" โดยจับกุมได้ ที่ห้องพักในแมนชั่นแห่งหนึ่ง ใน อ.เมือง จ.พัทลุง 


ทั้งนี้  สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 21 ก.ค. 2565 ที่ผ่านมา  เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บางยี่ขัน รับแจ้งพบศพนางสาวกมลเนตร  อายุ 26 ปี เสียชีวิตอยู่ในบ้านเช่า ย่านอรุณอัมรินทร์  กรุงเทพฯ โดยสภาพศพมีบาดแผลจากการถูกทำร้ายร่างกาย หลายแห่ง   จากการสืบสวนทราบว่า นายธนเดช ผู้ต้องหา ซึ่งเป็นแฟนของผู้เสียชีวิต เป็นผู้ลงมือก่อเหตุ โดยนายธนเดช รู้จักกับผู้เสียชีวิต ผ่านทางแอปฯหาคู่ จากนั้นได้พูดคุยกันต่อผ่านทางเฟซบุ๊ก โดยมีการพูดคุยกันไม่ถึง 1 เดือน  จากนั้นนายธนเดช ได้ชักชวนให้นางสาวกมลเนตร ผู้เสียชีวิต มาพักอาศัยอยู่ด้วยกันที่บ้านเช่าดังกล่าว 

 

โดยระหว่างที่ ผู้เสียชีวิต พักอยู่กับ นายธนเดช มักมีพฤติกรรมทำร้ายร่างกาย ผู้เสียชีวิต ด้วยการซ้อม ทุบตี และกระทืบ  และจะกักขังไว้ในบ้าน จนผู้เสียชีวิต ได้รับบาดเจ็บสาหัส และเสียชีวิต ในเวลาต่อมา นายธนเดช จึงได้หลบหนีออกนอกพื้นที่ 

 

 

 

ตร.บุกจับหนุ่มโหดฆ่าสาวหมกห้องย่านอรุณอัมรินทร์ หนีกบดานพัทลุง

 

 

ต่อมา เจ้าหน้าที่ตรวจ กก.6 บก.ป. สืบสวนทราบว่านายธนเดช ได้หลบหนีมาอยู่ในแมนชั่นแห่งหนึ่งใน จ.พัทลุง และขณะนั้นมีหญิงสาวที่ตกเป็นเหยื่อถูกล่อลวงและกักขังอยู่ในห้องพักของนายธนเดช อีกด้วย เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้วางแผนเข้าทำการช่วยเหลือเหยื่อและจับกุมผู้ต้องหา 

 

 

ตร.บุกจับหนุ่มโหด ฆ่าสาวหมกห้องย่านอรุณอัมรินทร์ หนีกบดานพัทลุง

 

 

โดยขณะเข้าทำการจับกุม พบนางสาวเนย (นามสมมติ) อายุ 31 ปี ชาวจังหวัดลำพูน อยู่ภายในห้องพักดังกล่าว โดยมีสภาพถูกทำร้ายได้รับบาดเจ็บ มีรอยบาดแผลฟกช้ำตามร่างกายเป็นจำนวนมาก ใบหน้าบวมช้ำจนผิดรูป เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เข้าช่วยเหลือนำตัวส่งโรงพยาบาลพัทลุง พร้อมกับจับกุมนายธนเดช ผู้ต้องหา ส่งพนักงานสอบสวน สน.บางยี่ขัน ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

 

นางสาวเนย  กล่าวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ระหว่างได้รับช่วยเหลือว่า “คิดว่าตนเองจะต้องตายในห้องนี้แล้ว ไม่คิดว่าจะมีชีวิตรอดออกมาได้”  และได้แจ้งกับเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ทราบทั้งน้ำตาว่า รู้จักกับนายธนเดช  เมื่อประมาณต้นเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ผ่านแอปฯ หาคู่ จากนั้นได้พูดคุยกันผ่านเฟซบุ๊ก โดยแชทคุยกันประมาณ 1 เดือน

 

ต่อมานายธนเดช ได้ลวงให้นางสาวเนยเดินทางมาหาที่ จ.พัทลุง โดยบอกว่ารักนางสาวเนย มาก อยากพบเจอ ซึ่งเมื่อประมาณต้นเดือนกันยายน นางสาวเนย จึงได้นั่งรถไฟ จาก จ.ลำพูน มาหานายธนเดช ที่ จ.พัทลุง ซึ่งหลังจากพบกันครั้งแรก

 

ตร.ช่วยสาวลำพูน ถูกลวงผ่านแอปฯหาคู่ มากักขัง ทำร้ายร่างกาย

 

 

จากนั้น นายธนเดช พานางสาวเนย ไปทานข้าวที่ตลาด  ระหว่างนั้นนายธนเดช เกิดอาการหึงหวง กล่าวหาว่านางสาวเนย ไปมองผู้ชายอื่น  และได้นำจานข้าวปาใส่ใบหน้า และเทน้ำซุปราดศีรษะนางสาวเนย พร้อมทั้งใช้กำลังตบตี และฉุดกระชากนางสาวเนยมาที่ห้องพักในแมนชั่นที่นายธนเดช เช่าอาศัยอยู่

 

จากนั้นได้กักขังนางสาวเนย  ไว้ในห้อง ไม่ให้ออกไปไหน ไม่ให้ติดต่อกับผู้ใด และใช้กำลังทำร้ายร่างกายเรื่อยมา ซึ่งหากนายธนเดช เสพยาบ้า และมีอาการเมายา นายธนเดช จะลงมือทำร้ายนางสาวเนย หนักขึ้น ซึ่งนางสาวเนย ต้องทนอยู่ภายในห้องเป็นระยะเวลากว่า 1 เดือน จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถเข้ามาช่วยเหลือและจับกุมนายธนเดช ได้ในที่สุด

 

 

ตร.ช่วยสาวลำพูน ถูกลวงผ่านแอปฯหาคู่ มากักขัง ทำร้ายร่างกาย

 

 

สอบถามคำให้การผู้ต้องหา เบื้องต้น ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยให้การว่าเป็นผู้ลงมือ     ทำร้ายทั้งนางสาวกมลเนตร จนถึงแก่ความตาย และ นางสาวเนย จนได้รับบาดเจ็บจริง สาเหตุที่ทำกับเหยื่อแต่ละคนนั้น นายธนเดช อ้างว่าไม่ได้เกิดจากความตั้งใจ ทำไปเนื่องมาจากความรัก ความหึงหวง และควบคุมอารมณ์ไม่ได้ จึงพลั้งมือทำร้าย

 

นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจยังพบว่าที่ผ่านมานายธนเดช  มักมีพฤติกรรมชอบแชทคุยกับหญิงสาว โดยจะบอกว่ารักและขอนัดเจอ เมื่อผู้หญิงหลงเชื่อ จะพามากักขังที่ห้องพัก ก่อนจะลงมือทำร้ายร่างกายเหยื่อ ซึ่งเจ้าหน้าที่เชื่อว่าอาจมีเหยื่อรายอื่นที่ถูกกระทำในลักษณะนี้อีกหลายราย ซึ่งจะได้ทำการสืบสวนสอบสวนเพิ่มเติมต่อไป

 


จากการตรวจสอบ นายธนเดช มีประวัติเคยก่อเหตุหลายคดี ทั้งคดียาเสพติด และคดีอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญ ได้แก่

- พ.ศ.2557 ถูกดำเนินคดีข้อหา ครอบครองยาเสพติดให้โทษประเภท 1 ที่ สน.พระราชวัง
- พ.ศ.2558 ถูกดำเนินคดีข้อหา เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 ที่ สน.บางยี่ขัน
- พ.ศ.2559 ถูกดำเนินคดีข้อหา ฆ่าผู้อื่น โดยใช้อาวุธปืนยิงผู้อื่นเสียชีวิต ในพื้นที่ สน.บางยี่เรือ โดย ถูกศาลพิพากษาจำคุก 10 ปี 16 เดือน ต่อมาได้รับการลดหย่อนโทษ ถูกจำคุกจริง 5 ปี 10 เดือน และพ้นโทษออกมาเมื่อเดือนมกราคม พ.ศ. 2564

 

 

 

ติดตามกระแสรายวัน คมชัดลึก ได้ที่
Website -  www.komchadluek.net
Twitter - https://twitter.com/Kom_chad_luek

 

 

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ