ข่าว

ถอดบทเรียน "เด็ก ม.3" ทำปืนลั่นใส่เพื่อนดับคาห้องเรียน

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ถอดบทเรียน โศกนาฎกรรม "เด็ก ม.3" ทำปืนลั่นใส่เพื่อนดับคาห้องเรียน เพื่อหามาตรการและแนวทางป้องกันไม่ให้เกิดเรื่องสะเทือนใจแบบเดิม

เหตุการณ์สะเทือนใจที่ยังอยู่ในความรู้สึกของใครหลายคนช่วงนี้ คงหนีไม่พ้น เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับ  "น้องโชค" เด็กนักเรียนชายชั้น ม.3 โรงเรียนลาดปลาดุก ย่านบางบัวทอง จ.นนทบุรี หลังถูกเพื่อนทำปืนลั่นใส่เสียชีวิต ขณะเรียนอยู่ในห้องคอมพิวเตอร์  เมื่อวันที่ 15 กันยายน ที่ผ่านมา ได้สร้างความสะเทือนใจ  พร้อมทั้งการตั้งคำถามของคนในสังคมไปพร้อมกัน  ว่าเด็ก ม.3 ทำไมพกปืนเข้าโรงเรียนได้ และเรื่องนี้ถือเป็นเรื่องที่ร้ายแรง เพราะมันคือ "การฆาตกรรมในโรงเรียน" ที่ผู้ก่อเหตุคือเยาวชน และเกิดขึ้นในบริเวณโรงเรียน สถานที่ที่ต้องมีความปลอดภัยมากที่สุดเช่นกัน 

 

ที่ผ่านมาคงมีหลายคนสงสัย ถึงมาตรการเกี่ยวกับการพกพาอาวุธปืน และเรื่องความปลอดภัย ภายในโรงเรียน ว่ามีมาตรการในการเข้มงวดกรวดขัน ในเรื่องนี้มากน้อยเพียงใด เพราะเหตุที่เกิดขึ้นถือเป็นเรื่องใกล้ตัวที่ผู้ปกครองและโรงเรียนไม่ควรมองข้าม
 

และนี่ก็ไม่ใช่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งแรกภายในโรงเรียน วันนี้ "คมชัดลึกออนไล์" จะพาไปย้อนเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องหับการพกอาวุธเข้ามาในเขตโรงเรียน 

 

เหตุการณ์แรก เกิดขึ้นเมื่อ วันที่ 25 ตุลาคม 2562 ที่วิทยาลัยเทคนิคแห่งหนึ่งใน จ.สตูล ครั้งนี้เป็นฝ่ายครูที่ลงมือยิงนักเรียนเสียเอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้ก่อเหตุคือ ครูผู้ชาย ชักปืนยิงนักเรียนในห้อง  เหตุการณ์ในครั้งนี้ไม่มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต 

 

เหตุการณ์ที่2 เกิดขึ้นเมื่อประมาณช่วงเดือนธันวาคม  2562 ที่โรงเรียนแห่งหนึ่งในพื้นที่ จ.นนทบุรี โดยผู้ก่อเหตุเป็นเด็กนักเรียนชั้น ม.1 ยิงเพื่อนร่วมชั้นเสียชีวิต จนทำให้โรงเรียนต่างๆ ออกมาตรวจกระเป๋านักเรียนในช่วงเช้า เพื่อตรวจหาอาวุธ หลังเกิดเหตุสะเทือนใจภายในโรงเรียนแห่งนี้ 

 

ต่อมา เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในเดือนมกราคม 2563 โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงเช้าผูก่อเหตุเป็นเด็กนักเรียนชั้น ป.4 โรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.นครราชสีมา ยิงเพื่อร่วมชั้น จนอาการสาหัส โดยปืนนั้นของพ่อซึ่งอยู่ต่างจังหวัดแต่ซ่อนปืนไว้ในบ้าน โดยแม่ไม่ทราบว่าลูกนำปืนมาจากบ้านได้อย่างไร และนำมาเล่นกับเพื่อน ก่อนลั่นใส่เพื่อนสาหัส ทั้งนี้เด็กบอกว่าเรียนใน YouTube  จนเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น

 

และล่าสุดก็เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 2565 ผู้บาดเจ็บเป็นเด็กนักเรียนชายชั้น ม.1 ถูกยิงบริเวณสะโพก ขณะร่วมกิจกรรมแข่งขันกีฬาสีภายในโรงเรียนแห่งหนึ่ง ต.หนองกระทุ่ม อ.เมือง จ.นครราชสีมา 

ขณะนี้คดีก็ยังไม่มีความคืบหน้า เพราะตำรวจยังไม่พบปืนที่ก่อเหตุ และยังไม่ทราบว่าใครเป็นคนยิง 

เหตุการณ์ทั้งหมดเป็นเพียงบางส่วนของความรุนแรงที่เกิดขึ้นจากการพกพาอาวุธปืนเข้ามาภายในโรงเรียน ถึงแม้ว่าที่ผ่านมา จะมีบทเรียนจากเรื่องนี้มาแล้วหลายครั้ง แต่บทเรียนดังกล่าว ก็ไม่ได้นำกลับไปใช้ เพราะปัญหาหรือโศกนาฎกรรมจากอาวุธปืนภายในโรงเรียน ก็ยังมีให้เห็นตามพื้นที่สื่อทุกแพลตฟอร์มเป็นประจำทุกปี 

 

สิ่งที่เกิดขึ้น คุณครูและโรงเรียน จึงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะตกเป็นจำเลยสังคม และถูกตั้งคำถามในเรื่องมาตรการคุมเข้ม "การพกอาวุธ" ที่ดูแล้วหละหลวม จนกลายเป็นสิ่งที่ผู้ปกครองต้องวิตกกังวล ไปถึงมาตรการด้านความปลอดภัยในโรงเรียนนั้นดีพอ ที่จะดูเเละป้องกันเหตุที่เกิดจากอาวุธต่างๆ ที่เด็กนำมาในพื้นที่โรงเรียนหรือไม่

 

และหากจะมองปัญหานี้ให้กลายเป็นเรื่องที่ใหญ่ขึ้นระดับประเทศ และเรื่องระเบียบ กฎเกณฑ์ ในการพกพาอาวุธ เข้าไปในสถานศึกษา ก็ต้องย้อนกลับไปถาม เจ้ากระทรวงศึกษาธิการ 

 

โดยล่าสุด น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ก็ได้ให้ความเห็นในเรื่องนี้ ว่า  นโยบายเรื่องสถานศึกษาปลอดภัยเป็นสิ่งที่ตนให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่มีใครคาดคิด ดังนั้นจะมีการถอดบทเรียนในเรื่องนี้ เพื่อเฝ้าระวังนักเรียนอย่างเข้มข้นให้เกิดความปลอดภัยในทุกมิติ เเละโรงเรียนแต่ละแห่งมีมาตรการเฝ้าระวังอย่างเข้มข้นในเรื่องพกพาอาวุธเข้าไปในโรงเรียนอยู่แล้ว  ซึ่งโรงเรียนไหนที่เป็นกลุ่มเสี่ยง เช่น โรงเรียนที่อยู่ในเมืองใหญ่ หรือโรงเรียนที่มีสภาพสังคมซับซ้อนตามบริบทของแต่ละพื้นที่อาจจะต้องเพิ่มมาตรการเฝ้าระวังให้มากขึ้นด้วย 

 

ขณะที่ เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กล่าวว่า มาตรการป้องกันการลักลอบนำเอาอาวุธเข้าไปในสถานศึกษา ขอให้โรงเรียนทั่วประเทศ สร้างความเข้าใจให้กับผู้ปกครองและเด็กนักเรียน เพื่อให้สถานศึกษา เป็นพื้นที่ปลอดภัย

 

โดยอาจให้แต่ละโรงเรียนไปจัดทำข้อมูลและเฝ้าระวังกลุ่มเด็กนักเรียนที่มีแนวโน้มใช้ความรุนแรง เป็นพิเศษ แต่คงไม่ถึงขั้นต้องมีการตรวจค้นอาวุธก่อนเข้าสถานศึกษา เพราะอาจจะส่งผลกระทบ หรือทำให้ผู้ปกครองรู้สึกว่าเป็นการละเมิดสิทธิส่วนบุคคลมากเกินไป เพราะประเด็นนี้ สามารถมองได้หลายมุม เช่นกัน

 

"ฆาตกรรมในโรงเรียน" คำนี้คงดูไม่รุนแรงไปกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่อาจกระทบจิตใจผู้ปกครอง ที่มองว่า โรงเรียนจะต้องเป็นสถานที่ที่ปลอดภัยที่สุดสำหรับบุตรหลาน พอๆกับบ้านที่พักอาศัย  รวมไปถึงมาตรการ พกพาอาวุธปืน เข้าไปในโรงเรียน ที่ดูแล้วมันหละหลวม และทางกระทรวงศึกษาธิการ ก็บอกว่า เรื่องนี้ ทางโรงเรียนจะต้องเป็นผู้กำหนดกฎเกณฑ์ ตรวจสอบ และดูพฤติกรรมเด็กที่เป็นกลุ่มเสี่ยง เพราะระเบียบของกระทรวงก็มีบอกไว้ชัดเจนอยู่แล้ว ว่าห้าม นักเรียน นักศึกษา พกพาอาวุธเข้าไปในพื้นที่ของโรงเรียน

 

แต่การออกมาบอกแบบนี้ ผู้ปกครองของเด็กส่วนใหญ่ก็ยังคงคาใจ ว่าท้ายที่สุดเเล้ว ความปลอดภัยในโรงเรียนมันต้องเริ่มจากตรงไหน เพราะหากจะมองในทางปฏิบัติ ถูกต้องที่โรงเรียนจะต้องรับผิดชอบ แต่หากมองภาพรวมเพื่อวางมาตรการป้องกันในเรื่องนี้ให้ไปในทิศทางเดียวกันทั้งประเทศ กระทรวงศึกษาคงต้องเป็นผู้กำหนด ข้อบังคับต่างๆให้ครอบคลุมและรัดกุม ในเรื่องการพกพาอาวุธ เพื่อไม่ให้เหตุการณ์เกิดขึ้นซ้ำซาก จนท้ายที่สุดก็จะกลายเป็น "วัวหายแล้วล้อมคอก" และที่สำคัญตัวผู้ปกครองเองนั่นแหละ ก็ต้องคอยดูพฤติกรรมบุตรหลาน ว่าสุ่มเสี่ยงกับพฤติกรรมที่เกิดขึ้นหรือไม่ เพราะมีความใกล้ชิดกับเด็กมากที่สุด จะได้ร่วมกันแก้ปัญหาทั้งระบบตั้งแต่ครอบครัวยันกระทรวงศึกษาธิการ

 

 

 

ติดตาม คมชัดลึก ที่นี่
เพิ่มเพื่อน Line: https://lin.ee/qw9UHd2
Facebook : https://www.facebook.com/komchadluek/


เช็กรายชื่อศิลปินเข้าชิง "คมชัดลึก ลูกทุ่ง Awards 2565" ใครคือ 6 Candidate กับ 8  สาขา Popular Vote ได้ที่นี่   

 (https://awards.komchadluek.net/#)

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ