ข่าว

จากใจลูกหม้อ "มรภ.นศ." มา24ปี ไม่อยากให้ มหาวิทยาลัย บอบช้ำไปมากกว่านี้

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"สุรศักดิ์ แก้วอ่อน" ยืนยันแถลงการณ์เป็นมติของประชาคม แจงพักงาน "อธิการฯ" ตามข้อเท็จจริง เผยเรื่องร้องเรียนอื้อ คกก.สอบสวนละเอียด เตรียมสรุปชงสภาฯ เดือนตุลาคมนี้ ยันให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย ย้ำ "มรภ.นศ." ยืนหยัด พัฒนาท้องถิ่น สู่ปีที่65 ไม่อยากให้บอบช้ำไปมากกว่านี้

ตามที่ได้มีการเผยแพร่ข่าวสารปรากฎในสื่อออนไลน์ กรณีการพักการปฏิบัติหน้าที่ของ ผศ.ฆนัท ธาตุทอง อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราช (มรภ.นศ.)เนื่องจากมีการร้องเรียนในการปฏิบัติหน้าที่อธิการบดี ตามที่สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) มีหนังสือ(ลับมาก) ลงวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2562 จำนวน 13 ประเด็น

 

 

และให้สภามหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราช ตรวจสอบข้อเท็จจริงและรายงานผลให้ สกอ.ทราบต่อไป โดยสภามหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราชได้แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงดังกล่าวและได้รายงานผลต่อสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษารับทราบแล้ว

 

จากใจลูกหม้อ "มรภ.นศ." มา24ปี ไม่อยากให้ มหาวิทยาลัย บอบช้ำไปมากกว่านี้

 

ต่อมาได้มีหนังสือสำนักปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ลงวันที่ 29 พฤษภาคม 2563 ให้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการร้องเรียนผศ.ฆนัท  ธาตทอง อีกจำนวน 19 ประเด็น 26 เรื่อง จนนำมาสู่คำสั่งพักการปฏิบัติหน้าที่อธิการบดี และได้แต่งตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง ให้กระจ่าง โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการสรุปรายงานผลการสอบสวนฯเพื่อรายงานต่อสภามหาวิทยาลัย

จากนั้นได้ปรากฏเป็นข่าวว่า ผศ.ฆนัท  ธาติทอง ได้ร้องทุกข์ต่อประธานคณะกรรมการพิจารณาวินิจฉัยอุทธรณ์และร้องทุกข์ และนายกรัฐมนตรี ตามลำดับ พร้อมจัดทำ วิดีโอคลิปเพื่อเผยแพร่ต่อสาธารณะผ่านระบบสื่อสารสังคมออนไลน์ โปรแกรมเฟสบุ๊ก ในนาม “ฆนัท ธาตุทอง” ตั้งแต่วันที่ 18 กันยายน 2564 เรื่อยมา ในลักษณะว่าสภามหาวิทยาลัยได้กลั่นแกล้ง และให้ข้อมูลสื่อความหมายทำนองว่าตนได้ตรวจสอบพบการทุจริตภายในมหาวิทยาลัยที่ถูกตรวจสอบเชื่อมโยงว่าคณะกรรมการสภามหาวิทยาลัยและผู้บริหารมหาวิทยาลัยมีส่วนเกี่ยวข้องโดยตรงนั้น

 

จากใจลูกหม้อ "มรภ.นศ." มา24ปี ไม่อยากให้ มหาวิทยาลัย บอบช้ำไปมากกว่านี้

 

เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 4 ตุลาคม 2564 ผศ.สุรศักดิ์ แก้วอ่อน รองอธิการบดี รักษาราชการแทนอธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราช "มรภ.นศ." เปิดเผย “คมชัดลึก ออนไลนฺ์” ถึงที่มาของการออกแถลงมหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราชว่า ทั้งหมดเป็นข้อเท็จจริงจากการประชุมหารือกันหลายรอบของฝ่ายบริหาร ก่อนที่จะร่างคำแถลงการณ์ดังกล่าว ซึ่งทีมผู้บริหาร “มรภ.นศ.” ต้องการ#Saveมรภ.นศ.ไม่ให้บอบช้ำไปมากกว่านี้ เพราะ “มรภ.นศ.” เป็นสถาบันอุดมศึกษาของรัฐที่ยืนหยัดพัฒนาท้องถิ่นก้าวสู่ปีที่65 ในวันที่ 9 มกราคม 2565 

 

 

"ผมในฐานะรักษาการอธิการบดี มรภ.นศ. เกิดเรื่องแบบนี้ ยอมรับว่าไม่สบายใจ เพราะที่นี่คือบ้านของผม  ผมรักที่นี่ อยู่มา24ปี นักศึกษาเปรียบเหมือนลูกหลาน ครูบาอาจารย์คือเพื่อนร่วมงาน ที่ต้องร่วมทุกข์ ร่วมสุขนำพาสถาบันแห่งนี้รับใช้สังคมเป็นที่พึ่งสังคมอย่างยั่งยืน ในทรรศนะของผม อะไรที่จะทำให้มรภ.นศ.หรือบ้านของเราเสียหายก็หยุดเสีย" รักษาการอธิการบดี มรภ.นศ. กล่าว

รักษาการอธิการบดี มรภ.นศ. กล่าวถึงแถลงการณ์มหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราช  ใจความตอนหนึ่งว่า มหาวิทยาลัยฯได้ติดตามตรวจสอบเหตุการณ์ดังกล่าวอย่างใกล้ชิด พบว่าข้อมูลดังกล่าวเป็นข้อมูลที่คลาดเคลื่อนจากความจริงเป็นอย่างมาก หากไม่แสดงข้อเท็จจริงให้ปรากฎจะทำให้เกิดความเข้าใจผิดต่อสังคมโดยทั่วไป จนนำมาซึ่งความเสียหายอย่างร้ายแรงต่อมหาวิทยาลัย ดังนั้นมหาวิทยาลัยฯขอชี้แจงข้อเท็จจริง ดังต่อไปนี้

 

 

1.กรณีการพักการปฏิบัติหน้าที่อธิการบดีของผศ.ฆนัท ธาตุทอง เนื่องจากสภามหาวิทยาลัยฯได้รับหนังสือแจ้ง(ลับ)จากสำนักปลัดกระทรวง อว.ว่ามีผู้ร้องเรียนเกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งอธิการบดีของ ผศ.ฆนัท จำนวน 19 ประเด็น 26 เรื่อง 

 

 

นอกจากนี้ยังมีบุคคลหลายคณะส่งเรื่องร้องเรียนยังสภามหาวิทยาลัยอีกหลายประเด็น รวมทั้งเกิดเหตุการณ์ที่นักศึกษารวมตัวกันประท้วงขับไล่อธิการบดี เพื่อรักษาสถาณการณ์มิให้บานปลายและเพื่อประโยชน์ในการตรวจสอบข้อเท็จจริงให้กระจ่างโดยอิสระปราศจากอำนาจแทรกแซงใดๆ ทางสภามหาวิทยาลัย มีมติสั่งพักการปฏิบัติหน้าที่อธิการบดีของผศ.ฆนัท ธาตุทอง มีผลตั้งแต่วันที่ 20 กรกฎาคม 2563 จนกว่าสภามหาวิทยาลัยจะมีมติเป็นอย่างอื่น 

 

 

จากนั้นสภามหาวิทยาลัยได้แต่งตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง ซึ่งเรื่องดังกล่าวอยู่ระหว่างกระบวนการยังไม่แล้วเสร็จ โดยที่สภามหาวิทยาลัยได้กำกับติดตามเรื่องดังกล่าวอย่างใกล้ชิด เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงที่ถูกต้องครบถ้วนสมบูรณ์และเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมแก่ผู้ถูกร้องเรียนด้วยเช่นกัน

 

 

2. กรณีการเผยแพร่วิดีโอคลิปที่พาดพิงการปฏิบัติหน้าที่ของสภามหาวิทยาลัย การบริหารงานของ มหาวิทยาลัย และบุคลากรของมหาวิทยาลัยนั้น ด้านการปฏิบัติหน้าที่ของสภามหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยฯขอยืนยันว่า สภามหาวิทยาลัยได้ยึดมั่นปฏิบัติหน้าที่ ตามพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยราชภัฏ พ.ศ2547และตามคำปฏิญาณการปฏิบัติหน้าที่ของสภามหาวิทยาลัย เพื่อให้เกิดประโยชน์แก่สาธารณะ และประโยชน์ของทางราชการอย่างสูงสุดประกอบกัน

 

 

ด้านการบริหารงานของมหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยฯได้รับการตรวจสอบการปฏิบัติราชการและการดำเนินงานของมหาวิทยาลัยในฐานะหน่วยงานของรัฐ จากองค์กรตรวจสอบทั้งภายใน และภายนอก อันเป็นระบบการกำกับติดตามตรวจสอบการทำงานปกติของหน่วยราชการโดยทั่วไป 

 

 

จากใจลูกหม้อ "มรภ.นศ." มา24ปี ไม่อยากให้ มหาวิทยาลัย บอบช้ำไปมากกว่านี้

 

ขอให้มั่นใจว่ามหาวิทยาลัยฯมีความโปร่งใสและมีวินัย ในการทำงานจนเป็นที่ยอมรับขององค์กรที่เกี่ยวข้อง ซึ่งปรากฏหลักฐานเชิงประจักษ์ เช่น การเป็นองค์กรที่ได้รับรางวัลเกียรติคุณด้านการเบิกจ่ายระดับดี ซึ่งอยู่ในอับดับที่สองของมหาวิทยาลัยราชภัฏกลุ่มภาคใต้ และการประเมินคุณธรรมและความโปร่งใสในการดำเนินงานของหน่วยงานภาครัฐ (ITA) ประจำปีงบประมาณ 2564 ผลการประเมินอยู่ในระดับ A

 

 

ส่วนด้านบุคลากรของมหาวิทยาลัย กรณีที่ปรากฏตามวิดีโอคลิปว่ามีบุคลากรในมหาวิทยาลัยกระทำผิด หรือส่อทุจริต หากผศ.ฆนัท ธาตุทอง หรือ ผู้ใดพบการกระทำผิด หรือการทุจริต และมีหลักฐาน สามารถดำเนินการตรวจสอบบุคคลดังกล่าวผ่านกระบวนการและกลไกของมหาวิทยาลัยฯ เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงและดำเนินการทางวินัยต่อไป 

 

 

จากใจลูกหม้อ "มรภ.นศ." มา24ปี ไม่อยากให้ มหาวิทยาลัย บอบช้ำไปมากกว่านี้

 

หรือ ดำเนินการผ่านองค์กรที่มีอำนาจหน้าที่ในการตรวจสอบ อาทิ สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน คณะกรรมการป้องกันและปรามการการทุจริตแห่งชาติ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตภาครัฐ หรือองค์กรตามกฎหมายอื่นใดที่ท่านให้ความมั่นใจเพื่อจะได้รับทราบข้อมูลข้อเท็จจริงที่แท้จริง


 

สำหรับกรณีที่ผศ.ฆนัท ธาตุทอง ได้เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง สภามหาวิทยาลัย และมหาวิทยาลัยฯ เป็นจำเลย ยังศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 8 ซึ่งต่อมาศาลได้ดำเนินการไต่สวนและได้มีคำพิพากษาให้ยกฟ้อง และโจทก์ได้ยื่นอุทธรณ์คำพิพากษาไปยังศาลอุทธรณ์ภาค 8 ซึ่งศาลอุทธรณ์ภาค 8 ได้พิจารณาคำอุทธรณ์โจทก์และคำแก้อุทธรณ์ของจำเลย และได้พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น ให้ยกฟ้อง และคดีดังกล่าวได้ถึงที่สุดแล้ว

 

 

และเพื่อเป็นการรักษาและคุ้มครองสิทธิตามกฎหมายต่อสภามหาวิทยาลัย ผู้บริหาร และบุคลากร ที่ได้รับผลกระทบจากการบิดเบือนข้อเท็จจริง จากบุคคลใดก็ตามที่ได้กระทำประการหนึ่งประการใดให้เกิดความเสียหายต่อมหาวิทยาลัยฯ สภามหาวิทยาลัย ผู้บริหาร และบุคลากร มหาวิทยาลัยฯจำต้องสงวนสิทธิ์ในการดำเนินการทางกฎหมาย เพื่อเป็นการปกป้องเกียรติภูมิแห่งตน และปกป้องเกียรติภูมิแห่งมหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราช ที่ยืนหยัดพัฒนาท้องถิ่นมาอย่างยาวนานต่อเนื่อง 65 ปี

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ