"ลูกท้อ"ประโยชน์ต่อสุขภาพเสริมภูมิคุ้มกัน ป้องกันหวัด ทางยาแก้บวมน้ำ

"ลูกท้อ"  เป็นไม้พุ่มผลัดใบ    ปลูกมากทางภาคเหนือ  ผลของลูกท้อจะออกเป็นผลเดี่ยว มีขนขึ้นปกคลุม โดยเมื่อผลสุกจะมีสีเหลืองหรือแดง ส่วนเนื้อภายในจะเป็นสีเหลือง, แดง หรือขาว และมีเมล็ดเพียงเมล็ดเดียวเท่านั้น

ความต่างที่น่าสนใจของ"ลูกท้อ" กับแหล่งปลูกก็คือ  ลูกท้อที่มีแหล่งปลูกทางภาคเหนือ ปลูกได้เฉพาะบริเวณภูเขาสูง หรือที่ราบสูงที่มีอากาศค่อนข้างเย็น แตกต่างจากลูกท้อที่มีแหล่งปลูกในประเทศจีน ซึ่งมีภูมิประเทศและภูมิอากาศที่เหมาะสมมากกว่าไทย ทำให้ลูกท้อจากจีนมีคุณภาพ  อุดมไปด้วยสารสำคัญที่นำมาใช้เป็นยามากกว่า

 

 

 

ประโยชน์ จากการรับประทาน "ลูกท้อ"  ต่อต้านอนุมูลอิสระ เสริมภูมิคุ้มกัน ป้องกันหวัด ช่วยบำรุงและรักษาสายตา ป้องกันโรคเลือดออกตามไรฟัน
เสริมสร้าง บำรุงกระดูกและฟันให้แข็งแรง 

 

ภายใน ลูกท้อ มีสารอาหารที่ ประกอบด้วย คาร์โบไฮเดรต  ,น้ำตาล  ,เส้นใย ,ไขมัน , โปรตีน ,วิตามินเอ ,เบตาแคโรทีน , วิตามินบี , วิตามินบี 2 ,  วิตามินบี 3 ,วิตามินบี 5 , วิตามินบี 6 , วิตามินบี 9  ,โคลีน 6.1  ,วิตามินซี  ,  วิตามินอี ,วิตามินเค ,ธาตุแคลเซียม , ธาตุเหล็ก ,  ธาตุแมกนีเซียม ,ธาตุแมงกานีส ,ธาตุฟอสฟอรัส ,ธาตุโพแทสเซียม ,ธาตุโซเดียม และ ธาตุสังกะสี  

 

 

การนำส่วนต่างๆ ของ"ต้นท้อ" มาใช้เพื่อเป็นสรรพคุณทางยา  สามารถทำได้ทั้งจาก  เมล็ด ใบ ดอก หรือผล (ลูกท้อ)    ทั้งนี้   เมล็ดของลูกท้อมีรสขม หวานเล็กน้อย เป็นยารสสุขุมเย็น ออกฤทธิ์ต่อหัวใจ ตับ ม้าม และลำไส้ใหญ่ ใช้เป็นตำรับยาฟอกเลือด ขับเลือด แก้ประจำเดือนไม่ปกติ

 

แก้ซีสต์ในมดลูก แก้เลือดคั่งอุดตัน แก้ฟกช้ำ แก้อาเจียนเป็นเลือด แก้เลือดกำเดาไหล แก้ริดสีดวง ช่วยทำให้ลำไส้หล่อลื่น ช่วยทำความสะอาดลำไส้เล็กและลำไส้ใหญ่ โดยใช้ เมล็ด 5-10 กรัม ต้มน้ำรับประทาน หรือผสมกับตัวยาอื่นๆในตำรับยาโบราณ
 

 

 

 

 

ใบ รสขม ใช้แก้ปวดหัว ตัวร้อน แก้มึนศีรษะ แก้เหน็บชา แก้ไข้จับสั่น แก้ไข้มาลาเรีย    โดยใช้ใบต้มน้ำรับประทาน นอกจากนี้ยังสามารถนำมาโขลกให้แหลกแล้วพอกที่ผิวหนัง แก้กลากเกลื้อน แก้ผดผื่น แก้ฝีหนอง

 

เนื้อลูกท้อ  ประมาณครึ่งลูก นำไปปั่นให้ละเอียดจนเป็นเนื้อครีม แล้วนำมาพอกใบหน้าหรือผิวกาย ทิ้งไว้ประมาณ 30 นาทีแล้วล้างออก ช่วยบำรุงผิวพรรณ   
ดอกท้อ รสขม ใช้ขับปัสสาวะ แก้ปวดท้อง ท้องเสีย แก้บวมน้ำ ใช้ดอกแห้งบดเป็นผง รับประทานขณะท้องว่าง หรือใช้ดอกแห้ง 4-8 กรัมต้มน้ำรับประทาน

กิ่งและราก แก้ดีซ่าน แก้ตัวเหลือง ตาเหลือง ใช้กิ่งและรากหั่นฝอย 50 กรัม ต้มกับน้ำ 500 มิลลิลิตร ต้มจนเหลือน้ำ 200 มิลลิลิตร รับประทานติดต่อกัน 3-5 วัน 
ดอกและเมล็ด แก้ประจำเดือนมาไม่ปกติ โดยนำส่วนดอกและเมล็ด เข้าตำรับกับดอกคำฝอย โกฐเชียง หญ้าพันงู ใช้ในอัตราส่วนเท่ากันนำมาบดเป็นผง รับประทานครั้งละ 10 กรัม ติดต่อกันจนกว่าประจำเดือนจะกลับมาเป็นปกติ แต่รับประทานติดต่อกันไม่เกิน 30 วัน

 

ลูกท้อสุก     ประโยชน์และสรรพคุณของลูกท้อ   ช่วยลดเหงื่อที่ออกมามากผิดปกติ  ,  ช่วยแก้อาการหอบหืด , รักษาและป้องกันอาการไส้เลื่อน  ,   ช่วยลดความดันโลหิตสูง  ,บรรเทาอาการไอและขับเสมหะ  ,  ช่วยแก้อาการท้องผูก ดีต่อระบบขับถ่าย  ,   ช่วยให้ระบบการไหลเวียนของโลหิตในร่างกายดีขึ้น ,  บรรเทาอาการเลือดคั่งหรือเกิดการฟกช้ำในร่างกาย,  แก้อาการรอบเดือนมาไม่ปกติ , ป้องกันและรักษาอาการปวดทางเดินปัสสาวะ ,  บรรเทาอาการผดผื่นหรือคันตามผิวหนัง

 

การรับประทานลูกท้อ   สามารถรับประทานได้ทั้งแบบสดหรือแบบแปรรูปก็ได้ ให้รสชาติหวานอมเปรี้ยว ซึ่งลูกท้อที่นำมาแปรรูป สามารถแปรรูปได้หลากหลายรูปแบบ ทั้งลูกท้อแห้ง ลูกท้อดอง หรือลูกท้อแช่อิ่ม การรับประทานลูกท้อดองไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพโดยตรง

 

 

 

 

 แต่ลูกท้อดองจะมีโซเดียมมากกว่าลูกท้อสด เนื่องจากใช้เกลือเป็นวัตถุดิบสำคัญในการหมักดอง อาจมีผลทำให้ลำไส้เกิดอาการเกร็ง     ดังนั้นการรับประทานลูกท้อแบบสดจะเป็นโยชน์มากกว่าในรูปแบบแปรรูปต่างๆ โดยเฉพาะแบบดอง

 

ข้อห้ามในการรับประทานลูกท้อ  ผู้หญิงที่กำลังตั้งครรภ์อยู่ไม่รับประทานควรทาน ในลูกท้อมีสารไฮโดรเจนไซยาไนด์ อาจเกิดเป็นพิษในร่างกายขึ้นได้

 

ขอขอบคุณเนื้อหาจาก

https://medthai.com/

https://hd.co.th/

ภาพประกอบจาก 

https://pixabay.com/th/