Lifestyle

"ใส่สายอาหารทางหน้าท้อง”อีกหนึ่งวิธีช่วยผู้ป่วยกินอาหารทางปากไม่ได้

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

การกินอาหารทางปากไม่ได้เป็นเรื่องทรมาน แต่การกินอาหารผ่านการใส่สายให้อาหารทางจมูก ในผู้ป่วยบางคนเกิดแผลกดทับรูจมูก และไซนัสอักเสบ ล่าสุดมีทางออกด้วยวิธี "ใส่สายอาหารทางหน้าท้อง”

การเจ็บป่วยจนทำให้ไม่สามารถกินอาหารทางปากได้ จะทำให้ร่างกายเสี่ยงต่อภาวะขาดสารอาหาร ซึ่งอาจนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนตามมา การใส่สายอาหารเพื่อให้สารอาหารลงสู่กระเพาะอาหารโดยตรง จะช่วยให้ผู้ป่วยได้รับสารอาหารที่เพียงพอ

 

ซึ่งวิธีที่เราเห็นกันบ่อย ๆ คือ การสอดสายอาหารทางจมูก แต่ยังมีอีกวิธีหนึ่งที่ได้สะดวกและยังเหมาะกับผู้ป่วยที่ต้องใส่สายอาหารเป็นเวลานาน นั่นคือ "ใส่สายอาหารทางหน้าท้อง"

 

นพ.ปารินทร์ ศิริวัฒน์ แพทย์เฉพาะทางด้านอายุรศาสตร์โรคระบบทางเดินอาหาร ศูนย์ระบบทางเดินอาหาร โรงพยาบาลนวเวช ได้ให้คำแนะนำที่เป็นประโยชน์เกี่ยวกับการ"ใส่สายอาหารทางหน้าท้อง" รวมถึงการเปลี่ยนสายอาหารทางหน้าท้อง จึงขอยกบทความของคุณหมอมาเผยแพร่ให้กับผู้ที่สนใจ

ผู้ป่วยที่จำเป็นต้องใส่สายให้อาหารทางจมูก (สายNG, nasogastric tube)เช่น ผู้ป่วยที่กินอาหารทางปากเองไม่ได้ หรือได้น้อยกว่าที่ร่างกายควรได้รับ ผู้ป่วยโรคสมอง ผู้ป่วยกลืนลำบาก ผู้ป่วยเสี่ยงการสำลัก ผู้ป่วยที่ต้องเว้นการกินทางปากบ่อย ๆ จนขาดสารอาหาร เช่น เหนื่อยบ่อยจากโรคปอดหรือหัวใจ ผู้ป่วยโรคมะเร็งปาก คอหอย และหลอดอาหารที่รอการฉายรังสีหรือผ่าตัด เป็นต้น 

 

หากผู้ป่วยจำเป็นต้องใส่สายให้อาหารทางจมูกNGนานกว่า4-6สัปดาห์ และมีภาวะแทรกซ้อนจาการใส่สายให้อาหารทางจมูกNGเช่น แผลกดทับของสายกับเนื้อบริเวณจมูก รูจมูก และไซนัสอักเสบ หรือผู้ป่วยชอบดึงสายจมูกออก อาจเลือกวิธีใส่สายให้อาหารทางหน้าท้อง (Percutaneous Endoscopic Gastrostomy : PEG)เพื่อให้อาหารผ่านทางหน้าท้องแทน

ความสะดวกของการทำสายPEGให้อาหารทางหน้าท้อง คือ ทำได้โดยการส่องกล้อง ไม่จำเป็นต้องเข้าห้องผ่าตัด และไม่มีแผลขนาดใหญ่ โดยนอนโรงพยาบาลเพียง1คืน เพื่อสังเกตอาการณ์เมื่อสามารถFeedอาหารได้ผู้ป่วยก็สามารถกลับบ้านได้

 

PEG แต่ละชิ้นมีอายุวัสดุประมาณ 6 เดือน – 1 ปี ขึ้นกับการดูแลสาย และสิ่งที่feedของแต่ละคน โดยจะเริ่มเปลี่ยนได้หลังจากใส่ครั้งแรกเกิน3เดือนเป็นต้นไป

 

เพราะทางเชื่อมสมบูรณ์แล้วเพียงใช้อุปกรณ์เปลี่ยนสาย หรือดูดน้ำในบอลลูนออก เอาสายเก่าออก แล้วเปลี่ยนสายใหม่ การเปลี่ยนสายจะใช้เวลาประมาณ10นาที สามารถเปลี่ยนได้โดยไม่ต้องนอนโรงพยาบาล

 

ข้อควรปฏิบัติอื่น ๆ ได้แก่

-ควรเปลี่ยนสายทุก6เดือน หรือเมื่อสายบวม ตัน แตก หมดสภาพ

-หากไม่ได้ใช้สาย ควรไล่น้ำเปล่า30-50 ccอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง

-ทำความสะอาด ปาก ลิ้น และฟัน ของผู้ป่วยทุกวันถึงแม้จะไม่ได้ให้อาหารทางปาก เพื่ออนามัยที่ดี

-แม้จะใส่PEGแต่หากผู้ป่วยสามารถกินอาหารทางปากได้ก็สามารถกลับมาให้กินทางปากตามปกติ

ขอบคุณที่มาข้อมูล : โรงพยาบาลนวเวช

logoline