“กุ้งมังกร 7 สี” ภูเก็ต วัตถุดิบสุดพรีเมียม รังสรรค์เมนูเสิร์ฟ ผู้นำ เอเปค

เริ่มต้นขึ้นแล้วอย่างเป็นทางการ สำหรับการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค  APEC 2022 ครั้งที่ 29   ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์  ซึ่งในการประชุม ครั้งนี้ มีผู้นำเขตเศรษฐกิจ และแขกพิเศษที่เข้าร่วมการประชุม จำนวนมาก ประเทศไทยในฐานะเจ้าภาพในการประชุมครั้งนี้ ได้มีการจัดเตรียมการต้อนรับไว้เป็นอย่างดี 

 

โดยในช่วงค่ำวันนี้ (17 พ.ย.2565) จะมีงานเลี้ยงอาหารค่ำ หรือ กาลาดินเนอร์ ที่ หอประชุมกองทัพเรือ โดยเมนูอาหารที่จัดมาเสิร์ฟให้กับผู้นำแต่ละประเทศได้รับประทานกัน รังสรรค์มาเป็นอย่างดี  ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Sustainable Thai Gastronomy” แปลตรงตัวว่า คนปลูกยั่งยืน คนทำยั่งยืน คนกินยั่งยืน ประเทศยั่งยืน และโลกยั่งยืน โดยเลือกใช้วัตถุดิบของไทยทั้งหมด รวมถึงเครื่องดื่ม สอดคล้องกับแนวคิดหลักของการเป็นเจ้าภาพคือ Open Connect Balance โดยมีเชฟชุมพล แจ้งไพร เชฟมิชลิน เป็นผู้ดูแลเรื่องอาหารในครั้งนี้ ซึ่งเชฟชุมพล ได้ให้สัมภาษณ์ถึงการคัดเลือกวัตถุดิบที่นำมาปรุงอาหารซึ่งล้วนคัดเลือกมาจากแหล่งผลิตท้องถิ่นทั่วประเทศไทย 

 

 

 

 

 

โดย 1 ในเมนูอาหารที่ค่ำคืนนี้ คือ Salad (สลัด) ยำใหญ่ผักออร์แกนิก 9 อย่างจากวิสาหกิจชุมชนทั่วทุกภาคของเมืองไทย กับไก่ออร์แกนิกและกุ้งมังกร 7 สีภูเก็ต พร้อมไข่เป็ดไล่ทุ่งสุพรรณบุรีดองดอกเกลือเพชรบุรี

 

ซึ่งกุ้งมังกร 7 สี ที่นำมาปรุงนั้นเป็น กุ้งมังกร จากจังหวัดภูเก็ต โดยที่ “กระชังโกปานป่าหล่าย” ต.ฉลอง อ.เมืองภูเก็ต เป็น 1 ใน 15 ผู้ประกอบการเลี้ยงกุ้งมังกร 7 สี และเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำในกระชังระดับ Signature ของชุมชน และยิ่งได้รับความสนใจมากขึ้น หลังจากได้รับเลือกเป็นหนึ่งในวัตถุดิบเมนูสุดพิเศษ โดยเชฟระดับมิชชิลินสตาร์ในงานเลี้ยงอาหารค่ำ หรือ กาลาดินเนอร์   ผู้นำประเทศเขตเศรษฐกิจเอเปค ที่เข้าร่วมประชุมในครั้งนี้ 

 

 

 

 

นายปวริศน์ ราชรักษ์หรือโกปาน เจ้าของแพโกปานป่าหล่าย เปิดเผยว่า กุ้งมังกร 7 สี ที่เลี้ยงกันในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตถือเป็น Signature ทำให้มีราคาค่อนข้างราคาสูง การได้รับเลือกให้เป็นวัตถุดิบเมนูสำหรับผู้นำกลุ่มประเทศเอเปค ถือเป็นความภาคภูมิใจของชาวภูเก็ตเป็นอย่างมาก เพราะจะส่งผลดีกับการท่องเที่ยว และธุรกิจอาหารในพื้นที่อย่างแน่นอน

 

 

 

 

 

 

สำหรับกุ้งมังกร 7 สี ภูเก็ต หรือ PHUKET LOBSTER หรือที่เชฟระดับโลกเรียกว่า ฟัวกราส์แห่งท้องทะเล วัตถุดิบชั้นเลิศในน่านน้ำภูเก็ต ถือเป็นหนึ่งในสัตว์น้ำเศรษฐกิจของจังหวัดภูเก็ต ส่วนใหญ่จะเป็นที่นิยมในกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติ ด้วยราคาที่ค่อนข้างสูง มีลักษณะเด่นชัดแตกต่างจากกุ้งมังกรสายพันธุ์อื่น คือ สีสันตลอดลำตัว ส่วนหัวสีเหลือง ลำตัว สีออกเขียวใส โคนหนวดมีสีชมพู แถบสีขาวและดำ พาดขวางลำตัว ขอบท้ายของปล้องท้องมีลายสีครีม หนวดของกุ้งมังกร 7 สี ภูเก็ต เรียวยาวและไม่มีก้ามปล้อง ท้องเรียบไม่มีร่องขวางกลาง หางมีลักษณะแผ่เป็นหางพัด

 

 

 

 

กุ้งมังกร 7 สีภูเก็ต มีความแตกต่างจากกุ้งมังกรทั่วไป คือ กระดองบาง ทำให้มีเนื้อเยอะ และเนื้อแน่น รสชาติหวานเวลาเคี้ยวเนื้อจะนุ่ม เมนูจึงหลากหลาย เช่น ซาซิมิ หรือ ย่าง อบ นอกจากรสชาติที่ลุ่มลึกถูกปากแล้ว ศาสตร์การแพทย์แผนจีนยังยกให้กุ้งมังกร 7 สีภูเก็ต เป็นสุดยอดอาหารประเภทหยาง โดยเฉพาะเลือด ซึ่งช่วยปรับสมดุลบำรุงไตและหัวใจ จนได้รับความนิยม ซึ่งขนาดน้ำหนักที่นิยมประมาณ 700 - 800 กรัม

 

 

 

 

 

นายเริงฤทธิ์ ศิลป์สมศรี เชฟร้านอาหารบ้านกุ้งมังกร ในพื้นที่ป่าหล่าย ต.ฉลอง อ.เมืองภูเก็ต กล่าวว่า จุดเด่นของกุ้งมังกร คือ มีขนาดใหญ่ เนื้อค่อนข้างมาก รวมถึงคุณภาพอันดับหนึ่ง ถือเป็นอาหารชั้นเลิศในการนำขึ้นโต๊ะอาหาร ปัจจุบันความนิยมมีเพิ่มมากขึ้น จนทำให้ราคาเพิ่มตามไปด้วย โดยเมนูเด่น ๆ ที่นิยม คือ ซาเซมิ หรืออบชีส หรือหากต้องการรสจัดจ้านก็จะเป็นเมนูอบพริกเกลือ

 

 

 

 

ซึ่งการได้รับเลือกเป็นวัตถุดิบของเมนูขึ้นโต๊ะเสิร์ฟให้กับผู้นำเอเปค รู้สึกภูมิใจ และเชื่อว่าจะเป็นส่วนหนึ่งในการยกระดับการท่องเที่ยวของภูเก็ตด้วย ปัจจุบัน การเลี้ยงกุ้งมังกรในจังหวัดภูเก็ต อยู่ในพื้นที่ 2 อำเภอ คือ อำเภอเมืองภูเก็ต และอำเภอถลาง มีผู้ประกอบการประมาณ 15 ราย ปัจจุบันเป็นที่ต้องการของตลาด ใช้เวลาเลี้ยง 7- 8 เดือน จะได้กุ้งมังกร 7 สีภูเก็ต ขนาด 800-1,000 กรัม