ข้อควรรู้ ก่อน "เสริมหน้าอก" รู้ให้จริง เลือกให้เป็น สวย อย่างสบายใจ

ปัจจุบันการ "เสริมหน้าอก" หรือ ศัลยกรรมหน้าอก ถือเป็นเรื่องปกติที่หลายคนสนใจกันมากมาย เนื่องจากผู้หญิงหลายคนขาดความมั่นใจในรูปร่างและบางคนเริ่มรู้สึกแต่งตัวไม่สวยเพราะกังวลในเรื่องรูปร่างของตัวเองหลายคนจึงเลือกใช้วิธีการทำ ศัลยกรรมหน้าอก เพื่อเพิ่มขนาดให้มากขึ้น "การเสริมหน้าอก" ถือเป็นการผ่าตัดศัลยกรรมใหญ่ ถ้าศึกษาไม่ดีพลาดอาจทำให้หน้าอกเน่า หรือ ถึงขั้นเสียชีวิตเลยได้ การหาข้อมูลเบื้องต้นเป็นสิ่งจำที่เป็น เพื่อให้การ ทำนม เป็นไปอย่างราบรื่น ปลอดภัย ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด มาดูกันดีกว่าว่าสิ่งที่ต้องรู้ก่อนตัดสินใจ ทำหน้าอก มีเรื่องอะไรบ้าง

ชนิดของซิลิโคนที่ใช้ "เสริมหน้าอก"

การ "เสริมหน้าอก" ด้วยถุง ซิลิโคน ที่มีหลายขนาดให้เลือก และมีทั้งพื้นผิวเรียบและผิวทราย รูปทรงกลม และ ทรงหยดน้ำ
 

การวางตำแหน่งวางถุงซิลิโคน

สำหรับการใส่ถุง ซิลิโคน สามารถใส่ได้ 2 ตำแหน่ง คือ 
1.ใต้กล้ามเนื้อหน้าอก การใส่ ซิลิโคน ตำแหน่งนี้จะช่วยปกป้องเนื้อเยื่อและลดความเสี่ยงต่อการกระเพื่อมและการเกิดพังผืดรัดรอบถุงซิลิโคนเจลได้
2.บนกล้ามเนื้อหน้าอก บนกล้ามเนื้อหน้าอก ซึ่งเป็นตำแหน่งตามธรรมชาติที่สุด ช่วยให้รู้สึกสบายหลังการผ่าตัดมากกว่า และไม่เป็นอันตรายต่อกล้ามเนื้อหน้าอก

"เสริมหน้าอก" ต้องเตรียมตัวอย่างไร

1. งดรับประทานยาละลายลิ่มเลือด (กลุ่มยา Aspirin, Ibuprofen) วิตามินเอ อี ซี สมุนไพร โสม ใบแปะก๊วย น้ำมันปลา ก่อนรับบริการ 2 สัปดาห์
2. งดสูบบุหรี่ และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ก่อนผ่าตัดอย่างน้อย 2 สัปดาห์
3. ควรอาบน้ำสระผม ทำความสะอาดร่างกายให้สะอาดเรียบร้อยก่อนการผ่าตัด
4. เตรียมใส่เสื้อผ้าที่หลวมสบาย ใส่และถอดใส่ง่าย เช่นเสื้อที่มีกระดุมหน้า
5. งดอาหารและน้ำ ก่อนก่อนผ่าตัด เพื่อดมยาสลบ 6 ชั่วโมง

การดูแลหลัง "เสริมหน้าอก"

1. หลังการผ่าตัด "เสริมหน้าอก" ควรงดออกกำลังกายหรือกิจกรรมที่ต้องยกแขนสูง ประมาณ 3 – 4 สัปดาห์
2. ทานยาตามคำแนะนำของแพทย์
3. สวมชุดซัพพอร์ตหน้าอก หลังการเสริมหน้าอก 2 – 4 สัปดาห์
4. หลังการผ่าตัด เสริมหน้าอก ควร หลีกเลี่ยงไม่ให้แผลโดนน้ำประมาณ 5 วัน หลังผ่าตัด หากแผลเปียกน้ำควรใช้ผ้าสะอาดซับแผลให้แห้งทุกครั้ง
5. งดสูบบุหรี่ และ ทานของหมักดอง ในช่วง 1 – 2 สัปดาห์แรก

ปัญหาที่อาจเกิดขึ้นหลังการผ่าตัด "เสริมหน้าอก"

1. อาการเสียดเสียวบริเวณเต้านม ซึ่งเกิดจากการที่เส้นประสาทบริเวณนั้นเกิดการยึดและตึงเมื่อผ่านไป 2-3 สัปดาห์จะหายไปได้เอง 
2. อาการชา อาจเกิดขึ้นได้เนื่องจากการผ่าตัดเสริมหน้าอกและไปโดนเส้นประสาทภายในจึงทำให้เกิดอาการชาหลังจากการผ่าตัด ซึ่งอาการชานี้จะสามารถหายได้ด้วยตัวเองเช่นเดียวกัน
3. นมห่าง วิธีสังเกตง่าย ๆ คือ เต้านมทั้งสองข้างอยู่ห่างกันจนมากเกินไปจนเห็นได้ชัด และเห็นรอยซิลิโคนชัดเจน
4. นมแฝด เกิดจากการที่เต้านมทั้งสองข้างเกิดการชิดกันมากเกินไป เนื่องจากฐานเต้าทั้งสองข้างเชื่อมติดกันและไม่มีกล้ามเนื้อบริเวณกลางอกที่แบ่งเต้านม

อาการแบบไหนที่บอกว่าคุณควรเอาซิลิโคน "เสริมอกออก"

1.พังผืดรอบเต้านม พังผืดรอบเต้าเกิดจากระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายจับได้ว่าซิลิโคนที่ใส่เข้ามานั้นเป็นสิ่งแปลกปลอม จึงพยายามสร้างพังพืดเข้ามาล้อมซิลิโคนเพื่อปกป้องร่างกายไม่ให้สัมผัสกับสิ่งแปลกปลอม ปัจจุบันมีวิธีการป้องกันการเกิดพังพืดด้วยการนวดคลึงหลังจากใส่ซิลิโคน อาการเป็นดังนี้

• เต้านมอาจมีความแข็งขึ้นเล็กน้อย แต่ยังดูไม่ออกว่ามีความผิดปกติ
• อาจมีรอยเบี้ยว รูปร่างผิดปกติ และเมื่อสัมผัสจะรู้สึกว่าเต้านมเริ่มแข็ง
• เต้านมผิดรูป ขนาดทั้งสองข้างอาจไม่เท่ากัน หัวนมชี้ผิดทิศทาง และแข็งขึ้นชัดเจน

2.ซิลิโคน รั่ว
แบบน้ำเกลือ เมื่อรั่วจะคล้ายกับลูกโป่งที่โดนปล่อยลม สังเกตได้จากเต้านมข้างใดข้างหนึ่งหดเล็กลงอย่างเห็นได้ชัด
ซิลิโคนเจล มีความหนาและคงตัวมากกว่าแบบน้ำเกลือ ดังนั้นจึงมีโอกาสเสื่อมสภาพน้อยกว่า ถึงแม้จะเสื่อมสภาพ ก็ยังคงรูปทรงไว้ใกล้เคียงกับทรงดั้งเดิม จึงสังเกตได้ยากกว่า อาการที่พอจะสังเกตได้มีดังนี้

• ขนาดลดลง ไม่เท่ากัน หรือบวมขึ้น
• มีก้อนแข็งๆ ในหน้าอกหรือเต้านม
• รู้สึกปวดหรือไวต่อความรู้สึกมากเป็นพิเศษ
• รู้สึกชา หรือรู้สึกเจ็บ
• รู้สึกแสบร้อนบริเวณเต้านม

รวบรวมข้อมูลโดย คมชัดลึก

เพื่อไม่พลาด ข่าวสารต่างๆ คมชัดลึก ไปที่
Youtube - https://www.youtube.com/channel/UCnniqWGq9lOqYd5sGWxVi7w
LineToday - https://today.line.me/th/v2/publisher/100057

เช็กรายชื่อศิลปินเข้าชิง "คมชัดลึก ลูกทุ่ง Awards 2565" ใครคือ 6 Candidate กับ 8  สาขา Popular Vote  https://www.komchadluek.net/entertainment/524524