เด่นโซเชียล

29 กันยายน ชวนคนไทยฟิตหัวใจใน "วันหัวใจโลก" ลดโรค-ลดเสียชีวิต

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

29 กันยายน "วันหัวใจโลก" โรคหัวใจที่ทำคนไทยตายเพิ่ม ชวนดูแลหัวใจให้แข็งแรงด้วย 7 วิธีลดเสี่ยงลดเสียชีวิตจากภาวะหัวใจผิดปกติ

วันที่ 29 กันยายนของทุกปี ถูกกำหนดให้เป็น "วันหัวใจโลก"  ซึ่งเป็นการกำหนดขึ้นมาเพื่อให้ทุกคนได้ตระหนักถึงความสำคัญของโรคหัวใจ โดยวันหัวใจโลกจัดขึ้นครั้งแรกเมื่อปี 2543 โดยสมาพันธ์หัวใจโลก (World Heart Federation)  ซึ่งมีจุดประสงค์เพื่อให้วันนี้เป็นวันสำคัญสากลที่ช่วยเตือนให้คนทั่วโลกตระหนักถึงอันตรายของโรคหัวใจและหลอดเลือด ซึ่งนับเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับต้น ๆ และเป็นโรคที่คร่าชีวิตผู้คนทั่วโลกกว่า 17.5 ล้านคนต่อปี องค์การอนามัยโลก (WHO) เผยกลุ่มโรคหัวใจและหลอดเลือดเป็นสาเหตุการตายอันดับ 1 

ดังนั้น วันหัวใจโลก (World Heart Day) เป็นวันที่จัดขึ้นเพื่อให้ทุกคนได้ตระหนักถึงความสำคัญของโรคหัวใจ  เนื่องจากสถานการณ์ของโรคหัวใจและหลอดเลือด เป็นหนึ่งในสาเหตุของการเสียชีวิตในอับดับต้นๆ ของคนไทยและคนทั่วโลก โดยเฉพาะในคนไทยที่มีมักจะเกิดขึ้นจากวิถีการดำเนินชีวิตในปัจจุบัน ซึ่งมีปัจจัยเสี่ยง ทั้งการรับประทานที่มากเกินพอดี มีกิจกรรมเคลื่อนไหวร่างกายน้อยลง ใช้เครื่องอำนวยความสะดวกมากขึ้น ไม่ได้ออกกำลังกาย ประกอบกับการสูบบุหรี่ และดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ อีกทั้งยังละเลยการตรวจสุขภาพ ซึ่งพฤติกรรมดังกล่าวส่งเสริมให้เกิดภาวะน้ำหนักเกิน อ้วน ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง เบาหวาน และส่งผลให้คนเป็นโรคหัวใจและหลอดเลือดกันมากขึ้น ดังนั้นเนื่องในวันหัวใจโรคเราจึงชวนทุกคน “เรามาฟิตหัวใจกันเถอะ”

1. คิดสักนิดก่อนรับประทาน เพราะโภชนาการมีส่วนสำคัญทั้งด้านบำรุงและเสริมสร้างสุขภาพ ลดเค็ม หลีกเลี่ยงอาหารไขมันสูง และไขมันชนิดอิ่มตัวสูง  งดสูบบุหรี่ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยเพิ่มอาหารที่มีกากใยเป็นประจำ เช่น ข้าวกล้อง ผลไม้บางชนิด

2. รักษาน้ำหนักตัวให้อยู่ในระดับมาตรฐาน ไม่อ้วนและไม่ผอมจนเกินไป

3. การออกกำลังกายเพื่อเผาพลาญพลังงานส่วนเกิน มีเป้าหมายเพื่อสร้างความฟิต ให้กับร่างกาย โดยไม่หักโหมจนเกินไป เพื่อบริหารกล้ามเนื้อหัวใจให้มีการสูบฉีดสม่ำเสมอ

4. ฝึกมองโลกในแง่ดี ไม่เครียด เพราะคนเราเมื่อเครียดร่างกายจะหลั่งฮอร์โมนอะดรีนาลิน และนอร์อะดรีนาลิน ซึ่งส่งผลให้หลอดเลือดหดตัว หัวใจต้องทำงานหนัก ในการส่งเลือดไปเลี้ยงร่างกายให้ได้ เมื่อเกิดความเครียดต้องเรียนรู้ที่จะจัดการกับมันอย่างถูกวิธี เป็นการคิดบวกเพิ่มคุณค่าให้กับชีวิต

5. ฝึกเป็นผู้ให้ โดยการหากิจกรรมจิตอาสา ที่ทำแล้วมีความสุขไม่เดือดร้อนผู้อื่น

6. ฝึกระงับอารมณ์ ด้วยการไปไหว้พระทำบุญ นั่งสมาธิ หรือระงับความโกรธ

7.อย่าละเลยที่จะตรวจเช็คสุขภาพ อย่างน้อยควรได้รับการตรวจเช็คว่าระดับไขมันโคเลสเตอรอล และไขมันไตรกลีเซอรอลในเลือดสูงเกินไปหรือไม่ เป็นการลดความเสี่ยงของโรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง อัมพฤกษ์ และอัมพาตได้ หากพบว่ามีสัญญาณเตือนถึงความผิดปกติของหัวใจเกิดขึ้น เช่น หายใจไม่สะดวก เจ็บร้าวไปที่คอ กราม ลิ้นปี่ เหงื่อออกมาก เหนื่อยง่าย ใจสั่น ควรรีบปรึกษาแพทย์โดยเร็ว

 

ที่มา: สถาบันสุขภาพจิตเด็กและวัยรุ่นราชนครินทร์ 

 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ