"บี พีรพัฒน์" ขับร้องบทเพลงพิเศษในพิธีไว้อาลัย "แตงโม นิดา" คืนที่ 2
นักร้องหนุ่มชื่อดัง "บี พีรพัฒน์" เตรียมขับร้องบทเพลงพิเศษในพิธีไว้อาลัยนักแสดงสาวผู้ล่วงลับ "แตงโม นิดา" คืนที่ 2
จากกรณีที่นักแสดงสาว "แตงโม นิดา" หรือ ภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์ เสียชีวิตจากเหตุพลัดตกแม่น้ำเจ้าพระยา โดยพิธีไว้อาลัยจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 11 - 13 มีนาคม 2565 ที่ คริสตจักรเสรีภาพกรุงเทพ (Liberty Church Bangkok) เวลา 18.30 - 20.30 น. ธีมการแต่งกายของผู้ที่จะไปร่วมพิธีไว้อาลัย “แตงโม นิดา” คือ สีขาว โอลด์โรส และสีชมพู
สำหรับขั้นตอนพิธีการตลอด 3 วันนั้น จะเริ่มขึ้นในเวลา 18.30 น. โดยมีเพื่อนสาวคนสนิทของแตงโม 3 คน สลับกันมาทำหน้าที่พิธีกรนำเข้าพิธี ต่อด้วยการบรรเลงเพลงเปียโน ผู้ใหญ่ และสมาชิกอาวุโสจากคริสตจักรแห่งความสุข ขึ้นนำอธิษฐานขอพรให้แตงโม จากนั้นจะเป็นการขับร้องเพลงที่แตงโมชอบร้อง และฟังเวลาร่วมพิธีในโบสถ์ จากนั้นจะเป็นคลิปของ "แตงโม นิดา" และมี "แม่แตงโม" มากล่าวประวัติ ซึ่งในงานจะมีการแบ่งปันคติธรรมมรณสติ และที่สำคัญทั้ง 3 คืนจะมีการขับร้องบทเพลงพิเศษ จาก 3 ศิลปินดัง ประกอบด้วยคืนแรกจะเป็นบทเพลงพรุ่งนี้ โดย "ปุ๊ อัญชลี" คืนที่ 2 เพลงพระคุณพระเจ้า (Amazing Grace) โดย "บี พีรพัฒน์" และคืนที่ 3 เพลงรักอัศจรรย์ โดย "บอย พีซเมกเกอร์"
วันนี้ 12 มีนาคม 2565 ถือเป็นวันที่ 2 โดยนักร้องหนุ่ม “บี พีระพัฒน์” จะขับร้องบทเพลงพิเศษ “พระคุณพระเจ้า” (Amazing Grace) เป็นเพลงสรรเสริญพระเจ้า ประพันธ์คำร้องโดย จอห์น นิวตัน นักบวชชาวอังกฤษ ในวันขึ้นปีใหม่ปี ค.ศ. 1773 ตีพิมพ์ครั้งแรกในหนังสืออัตชีวประวัติของนิวตัน The Force of Truth ในปี ค.ศ. 1779 เพลงนี้เป็นเพลงสรรเสริญที่เป็นที่รู้จักมากที่สุดเพลงหนึ่งของคริสต์ศาสนา ระยะแรกใช้ร้องประกอบทำนองมากมายหลายสิบทำนอง แต่ที่เป็นที่นิยมในปัจจุบันเป็นทำนอง "นิวบริเตน" วิลเลียม วอล์กเกอร์ ชาวอเมริกัน นำมาใช้เป็นคนแรกในปี ค.ศ. 1835 ตีพิมพ์ในหนังสือรวมบทสวดชื่อ Southern Harmony ในปี ค.ศ. 1847
เนื้อเพลงพระคุณพระเจ้า ในภาษาอังกฤษ จอห์น นิวตัน ประพันธ์คำร้องไว้ 6 วรรค ภายหลังได้มีการประพันธ์เพิ่มเติมเป็น วรรคที่ 7 โดย วิลเลียม วอล์กเกอร์ และในภาษาไทยมีการแปลเป็น 5 วรรค โดยไม่ปรากฏว่าผู้ใดแปล และเนื้อเพลงดังกล่าวนั้นมีเนื้อร้องและมีความหมายดังนี้
Amazing grace, how sweet the sound
That saved a wretch like me
I once was lost, but now I’m found
Was blind, but now I see
พรของพระผู้เป็นเจ้า สุรเสียงอันอ่อนหวาน
ที่ได้ช่วยคนบาปคนหนึ่งอย่างฉัน
ในครั้งนั้นฉันหลงทาง แต่ตอนนี้ฉันได้พบทางออกแล้ว
เคยตาบอดไป แต่ตอนนี้ฉันกลับมองเห็น
‘Twas grace that taught my heart to fear
And grace my fears relieved
How precious did that grace appear
The hour I first believed
เป็นเมตตาของพระองค์ที่ได้สั่งสอนหัวใจที่เกรงกลัว
และเป็นพระคุณของพระองค์ ที่ทำให้ความกลัวเหล่านั้นของฉันได้บรรเทา
ช่างเป็นพรอันล้ำค่าที่ได้พบเจอ
ในชั่วโมงนั้น ฉันศรัทธาแต่แรกเห็น
My chains are gone, I’ve been set free
My God, my Savior has ransomed me
And like a flood His mercy reigns
Unending love, amazing grace
โซ่ที่ล่ามฉันได้มลายหายไป และตอนนี้ฉันได้รับการปลดปล่อยจากพันธนาการ
พระผู้เป็นเจ้า พระผู้ช่วยชีวิต ได้เป็นผู้ไถ่บาปให้กับฉัน
และเป็นดั่งความเมตตาอันล้นพ้นจากพระองค์ที่เข้ามาครอง
ความรักอันเป็นนิรันดร์ พระพรจากพระองค์
The Lord has promised good to me
His word my hope secures
He will my shield and portion be
As long as life endures
พระผู้เป็นเจ้าให้คำสัญญาจะดูแลฉัน
คำกล่าวของพระองค์กับความหวังของฉันกระชับกันอย่างแนบแน่น
พระองค์จะเป็นเกราะป้องกันให้ฉัน และส่วนหนึ่งของพระองค์จะสถิตไว้
ตราบใดที่ชีวิตของฉันยังคงอยู่
My chains are gone, I’ve been set free
My God, my Savior has ransomed me
And like a flood His mercy reigns
Unending love, amazing grace
My chains are gone, I’ve been set free
My God, my Savior has ransomed me
And like a flood His mercy reigns
Unending love, amazing grace
โซ่ที่ล่ามฉันได้มลายหายไป และตอนนี้ฉันได้รับการปลดปล่อยจากพันธนาการ
พระผู้เป็นเจ้า พระผู้ช่วยชีวิต ได้เป็นผู้ไถ่บาปให้กับฉัน
และเป็นดั่งความเมตตาอันล้นพ้นจากพระองค์ที่เข้ามาครอง
ความรักอันเป็นนิรันดร์ พรจากพระองค์
โซ่ที่ล่ามฉันได้มลายหายไป และตอนนี้ฉันได้รับการปลดปล่อยให้เป็นอิสระ
พระผู้เป็นเจ้า พระผู้ช่วยชีวิต ได้เป็นผู้ไถ่บาปให้กับฉัน
และเป็นดั่งความเมตตาอันล้นพ้นจากพระองค์ที่เข้ามาครอง
ความรักอันเป็นนิรันดร์ พรจากพระองค์
The earth shall soon dissolve like snow
The sun forbear to shine
But God, Who called me here below
Will be forever mine
Will be forever mine
You are forever mine
โลกใบนี้จะหายไปในเร็ววันดั่งหิมะที่ละลาย
ความมืดมนจะเข้ามาปกคลุม
แต่พระผู้เป็นเจ้า ได้เรียกฉันผู้อยู่เบื้องล่างนี้
จะสถิตอยู่กับฉัน
จะสถิตอยู่กับฉัน
พระองค์จะสถิตอยู่กับฉันตลอดไป