"เซียะถิงฟง-จางป๋อจือ" เตียงหัก สารพัดสาดสีเข้าใส่

          ปัญหาชีวิตคู่ระหว่าง  เซียะถิงฟง และ จางป๋อจือ เริ่มส่อแววมีปัญหา  ตั้งแต่มีข่าวลือออกมาว่า จางป๋อจือ บังเอิญโดยสารเครื่องบินเที่ยวเดียวกับ เฉินกว้านซี่  อดีตแฟนหนุ่มของเธอ ที่ร่วมเป็นข่าวฉาวในกรณีภาพหลุดบันลือโลกเมื่อ 3 ปีก่อน  แทนที่ จางป๋อจือ จะเมินเฉย หรือแสดงท่าทีโกรธแค้นอย่างที่ทุกคนเข้าใจ  แต่เธอกลับขอเปลี่ยนที่นั่งและพูดคุยอย่างออกรสชาติกับ เฉินกว้านซี่  ตลอดเส้นทาง  ซ้ำยังเซ็นสัญญาภายใต้สังกัดเดียวกันกับหนุ่มมากรักแห่งเกาะฮ่องกงอีกด้วย  จึงเป็นชนวนที่ทำให้เกิดปัญหารักเรื้อรังนับแต่นั้นมา

          เหตุการณ์ชวนยุ่งเหยิงมากขึ้นอีกเป็นเท่าตัว  เมื่อคนรอบข้างของทั้งสอง  ต่างออกมาแฉพฤติกรรมเน่าๆ ของอีกฝ่าย  โดยเฉพาะ จางป๋อจือ ที่โดนกระหน่ำ หาว่าสวมเขาให้สามีบ้าง  เป็นนักขุดทองบ้าง หรือแม้แต่กระทั่งโดนกล่าวหาว่าใช้ลูกตัวเองเป็นเครื่องมือในการต่อรองกับสามี ทำให้ภาพลักษณ์ของดาราสาวชื่อดังติดลบแบบสุดๆ  จนสุดท้ายก็อดรนทนต่อการโจมตีไม่ไหว  จึงออกมาแฉพฤติกรรมสามีเพื่อโต้กลับเช่นเดียวกัน

          “ฉันแต่งงานกับเขา (เซียะถิงฟง) มา 5 ปี และรู้จักกับเขาตั้งแต่อายุ 18 ปี แน่นอนว่าฉันต้องรู้จักเขาดีกว่าใคร  ตลอดมา เขามักจะสร้างภาพ ‘สุภาพ’ ‘สุขุม’ มาโดยตลอด  แต่พวกคุณไม่มีทางรู้หรอกว่า  แท้จริงภายใต้แว่นตาที่เขามักจะสวมใส่ตลอดเวลานั้น  คือสายตาของคนหลอกลวง   ฉันพยายามเก็บตัวเงียบ ไม่ตอบโต้ เพราะไม่อยากให้ลูกชายทั้ง 2 คนต้องมารับรู้เรื่องราวไม่ดีเหล่านี้  แต่เขากลับไม่เคยแคร์ ยังคงปล่อยข่าวลือให้ร้ายฉันอย่างเงียบๆ ตลอดมา

          เรื่องลูกเขาก็ไม่เคยสนใจ เหตุผลเดียวที่เขาอยากให้ฉันมีลูก เพียงเพราะต้องการผูกมัดฉันไว้ เขาไม่ชอบเด็กเสียด้วยซ้ำไป! ถ้าเขายังไม่หยุดสร้างภาพ แสร้งเป็นสามีและพ่อที่ดี และยังให้ร้ายฉันเช่นนี้  ฉันก็จะแฉให้สังคมรับรู้เช่นเดียวกันว่า  เซียะถิงฟง เป็นคนเช่นไรกันแน่!” จางป๋อจือ แจงหมดเปลือก

          ในขณะที่โดนฝ่ายหญิงตอกกลับด้วยแรงอารมณ์ อีก 2 วันถัดมา เซียะถิงฟง  ก็ออกมาให้ข่าวด้วยอาการสงบว่า “เมื่อไหร่ที่มีข่าวไม่ดีเกี่ยวกับตัวผมออกมา  แน่นอนว่าผมต้องเป็นทุกข์  เมื่อเกิดข่าวไม่ดีเกี่ยวกับภรรยาของผม  ผมก็เป็นทุกข์เช่นเดียวกัน เพราะมันกระทบถึงลูกชายของผม พวกเขายังเด็กและยังต้องเติบโต ผมไม่อยากให้พวกเขาต้องมารับรู้และสงสัยในเรื่องที่เกิดขึ้น  ผมยอมรับว่าชีวิตแต่งงานของเรามีปัญหาจริง  ภรรยาของผมถูกเลี้ยงมาในครอบครัวที่แตกแยก ตัวผมเองก็เช่นเดียวกัน แต่เราก็ไม่เคยโทษพ่อแม่ของพวกเราเลยสักครั้ง 

          ตั้งแต่ลูคัส ลูกชายคนแรกของเราลืมตาขึ้นมาบนโลก  เราทั้งคู่ก็ตัดสินใจแล้วว่า จะไม่เดินซ้ำรอยพ่อกับแม่อย่างเด็ดขาด  เราจะไม่มีวันยอมให้เขาเกิดมาในครอบครัวที่แตกแยก แต่โชคร้ายเหลือเกิน  ที่วันนี้ผมไม่รู้ว่าเราสองคนจะใช้ชีวิตร่วมกันได้อย่างไร  ถ้าถามผมว่า ยังรักและคิดถึงเธอไหม  ผมคงต้องตอบว่าใช่ ผมยังรักและคิดถึงเธอเสมอ ต่อจากนี้ ไม่ว่าความสัมพันธ์ของเราสองคนจะไปจบลงที่ทิศทางไหน  แต่เราจะหาที่ที่มั่นคงและปลอดภัยเพื่อให้ลูกของเราเติบโตมาในสภาพแวดล้อมที่ดีให้จงได้ ”  เซียะถิงฟงกล่าว

          สรุปสุดท้าย  แม้จะยังไม่รู้ว่าเรื่องราวรักร้างครั้งนี้จะไปสิ้นสุดลงที่ตรงไหน แต่อย่างไรก็ขอเอาใจช่วยคนทั้งคู่ ให้คิดถึงความรู้สึกของลูกชายทั้ง 2 เป็นสำคัญเสมอ  อาจจะยากที่จะประสานรอยร้าวนี้  แต่อย่างน้อยก็ขอให้เรื่องราวจบลงด้วยดีล่ะกันจ้า