"เอ็ม นันทวัฒน์" ร้องไห้หนัก รับไม่ได้ เจอ "ม้า อรนภา" ตบหน้าหัน ที่เกาหลี

จากข่าวร้อน "ม้า อรนภา" ตบหน้า นักแสดงรุ่นน้อง "เอ็ม นันทวัฒน์" หลังพาไปทำศัลยกรรม ที่ประเทศเกาหลี ซึ่งเมื่อวานนี้ ม้า อรนภา ออกโรงชี้แจงว่า "แค่ แตะ ไม่ใช่ ตบ ยอมรับว่ามือไว ขอโทษ เสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ยอมรับผิด ขอโทษน้องแล้ว ปรับความเข้าใจแล้ว แต่ก็ไม่ทราบว่าหลังจากนั้นน้องมีอะไรที่ติดค้างคาใจ"

ล่าสุด "เอ็ม นันทวัฒน์" เปิดใจในรายการ คุยแซ่บโชว์ ว่า "รู้จักกับพี่ม้า เจอตามงาน สวัสดีเขา รู้จักจริง เพราะพี่ธง ผจก. และได้มีการปรึกษาเรื่องการพาไปทำหน้าที่เกาหลี ซึ่งตอนไป ไปกัน 2 คน เพราะผู้จัดการติดโควิด ตอนนั้นมันก็โอเค เพราะเราอยากไปทำหน้า ถามว่ากลัวไหม กลัว เพราะเขาเป็น ม้า อรนภา แต่เขาน่ารักมาก ตอนแรกเจอ ก็กอดกัน พี่เขาจะสอน คำว่า "ตั้งใจฟัง ถ้าเธอไม่ตั้งใจฟัง จะทำให้เธอไม่ฉลาด" เพราะผมถามพี่ม้าตลอดเรื่องงานในวงการบันเทิง ซึ่งพี่ม้าตอบผมเป็น 100 คำถาม ทำให้เรารู้สึกรักเขาตั้งแต่วันแรกๆ เขาดูแลเราตลอด 

 

วันที่เกิดเหตุ คือวันที่ 2 เราขอแยก ไปช้อปปิ้ง แม่ถาม "ไปไหน ไปทำไม" (เสียงดัง) เราบอกว่า พรุ่งนี้ทำจมูก หน้าเน่า แล้วจะไม่อยากเดิน แล้วก็ไปเดินช้อปปิ้ง ซึ่งแม่ม้าก็โอเค และยังดูแลเราดี เรื่องตบหน้า เป็นช่วงที่จ่ายค่ารองเท้าเสร็จพอดี เราบอกแม่ว่า "ไม่ไปกินปูได้ไหม อิ่มแล้ว"

 

แม่ม้าเลยขึ้นเสียงบอกว่า "อะไร อีบ้า" ตีที่ไหล่ อีบ้า 2 ที "โมโหแล้วนะ" แล้วฟาดหน้า 1 ที ผมเลยเดินออกไปด้วยความโมโหจริงๆ คือเดินออกไป เพราะมันโกรธ อายก็อาย เจ็บก็เจ็บ โกรธจนตัวสั่น แม่ม้าก็ตามมา ผมบอกแม่ "ทำแบบนี้กับผมไม่ถูกนะ พ่อแม่ยังไม่ทำแบบนี้เลย" ผมเลยขอเวลาปรับอารมณ์ สักพักเขามาจับมือว่า "ขอโทษ" เราตั้งสติได้ ก็ขอโทษเหมือนกัน ซึ่งตอนที่โดนตีหน้า โกรธตัวสั่น อาย เสียงดัง เต็มไปหมด เลยต้องหาคำพูดที่ทำให้เขาหยุด

ที่ม้าบอกแตะ ไม่ได้ตบ ส่วนตัวมองว่า ในฐานะคนที่ มองว่าโดนตบ เพราะหน้าผมหัน ผมว่าแรง มือแม่ใหญ่กว่าหน้าผมอีก ส่วนที่หัวไหล่ คือแตะ ซึ่งเคลียร์กันแล้วที่เมียงดง และคุยกันว่า เราจะพูดกันตรงๆ แม่ม้าร้องไห้ ทุกอย่างจบเลย เราขอโทษ และให้เรื่องจบที่เรา 2 คน ก็เลยไปกินปูด้วยกันให้มันจบๆ ซึ่งเป็นปูอลาสก้า ซึ่งรูปนั้นผมก็เป็นคนถ่ายให้แม่เอง 

 

เหมือนจบ แต่ไม่จบ ข่าวหลุด เพราะผมกลับไปโรงแรม นั่งทบทวนทุกอย่าง เรา 2 คน ต่างทบทวน ซึ่งผมมองว่าเรื่องตบ รับไม่ได้ จากนั้นเลยคุยกับแม่ ตามปกติ แม่ถามว่าเป็นอะไร แม่พยายามถาม เพราะเสียงเราแปลกๆ แม่ผมจับอาการได้ แล้วแม่ไปเอาเรื่องกับ พี่ธง ผู้จัดการ ตอนนั้นแม่โกรธมากกว่าเราอีก เพราะเขาไม่เคยตบลูก พอมารู้ก็เลยโกรธ 

จากนั้น แม่บอกให้ติดต่อทนาย ผมเริ่มติดต่อทนาย แต่ไม่มีทนายคนไหนตอบ จนกระทั่งเจอทนายคนดังกล่าว เลยเริ่มส่งข้อมูลให้ทนาย ซึ่งตอนนั้นแค่ปรึกษา ว่าสามารถทำอะไรได้บ้าง ซึ่งทนายท่านนั้นบอกละเอียด และตอนนั้นผมยังไม่บอกว่าเป็น ม้า อรนภา

 

ต่อมา ผมเลยไปบอก พี่ธง แต่เขาไม่รับสาย ผมเลยส่งทุกอย่างให้พี่ธงดูว่าผมเจอแบบนี้ เพราะโกรธที่เขาถามว่า มีหลักฐานเหรอ เลยทำให้ผมขึ้น เลยส่งทุกอย่างให้เขาดูว่า ม้า อรนภา ตบหน้าผม จากตอนแรกที่ปรึกษา แต่พอเป็นม้า อรนภา เลยเป็นเรื่องใหญ่ ผมไม่คิดว่าจะมีวันนี้ ตอนนั้นไม่ได้คิดว่ามีเรื่องกับ ม้า อรนภา เพราะคิดว่า แค่มีเรื่องกับคน 2 คน 

 

ส่วนที่แจ้งความที่เกาหลี ตำรวจเกาหลีถามกลับ คนนี้ชื่ออะไร เลยบอกไม่รู้ ไม่มีอะไรเลย เพราะตำรวจเกาหลีบอกว่า เขาสามารถจับตัวได้เลย ซึ่งผมไม่คิดขนาดนั้น เพราะผมไม่ตาย สิ่งดีที่เขาทำให้ก็มี ผมสงสารเขา เขาแก่แล้ว ถ้าติดคุกที่นั่น ผมแค่รักษาสิทธิ์ ไม่ได้เอาสะใจ ขนาดนั้น  จะสั่งสอนด้วยการแจ้งความ

แม่ม้ามองหน้า น้ำตาคลอ ตอนเผชิญหน้า วันตัดไหมที่เกาหลี เพราะตอนที่เกิดเหตุ หลังจากที่บล็อกกันไป ที่ผ่านมาเงียบ เพราะต้องการพูดทีเดียวให้จบ และยังจะแจ้งความที่ไทย เพื่อให้เป็นบทเรียน ตอนแรกโกรธมาก ตอนนี้รอให้ทนายจัดการ

 

(ร้องไห้) เจอบูลลี่ คนด่าสาระพัด ผมยังใหม่กับวงการ ไม่คิดว่าจะเจออะไรแบบนี้ เห็นแม่ม้าโดนด่าแรง ก็รู้สึกว่าเกินไป โดนตบหน้าก็รู้สึกแย่แล้ว ตอนอยู่เกาหลี ไม่มีใคร นั่งอ่านข่าวในมือถือแล้วเครียด ไม่รู้จะพูดกับใคร คนด่าคิดว่าดังแล้วเหรอ ผมเป็นตัวประกอบ ไม่คิดว่าวันนี้จะได้ออกมาพูด 

 

พร้อมยัน ไม่มีเรื่องชู้สาว เพราะ "ม้า อรนภา" เป็นรุ่นแม่ และค่าใช้จ่าย ตอนไปที่นั่น ผมเป็นคนจ่ายเองทั้งหมด