บันเทิง

ทำไม คุณแม่ "แอนนา เสือ" ยังทำงานกวาดถนน แม้ลูกมงลงแล้ว?

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

แอนนา เสืองามเอี่ยม ควงคุณแม่เปิดใจเส้นทางชีวิตก่อนเป็นนางงาม เคยอยู่วัดมาตั้งแต่เด็ก พ่อแม่ทำงานเก็บขยะ-กวาดถนน เคยได้เที่ยวไกลสุดคือโรงเก็บขยะ แต่ไม่เคยคิดท้อ จนมีวันนี้

มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์คนล่าสุดของประเทศไทย แอนนา เสืองามเอี่ยม เจ้าของแฮชแท็ก #นางงามกองขยะ วันนี้ (16 สิงหาคม2565) ได้มาเผยเรื่องราวชีวิตที่เจ้าตัวบอกเลยว่า ได้ดีเพราะเป็นเด็กวัด พร้อมเผยความเชื่อ มูยังไงให้ได้มง ผ่านทางรายการ คุยแซ่บshow ทางช่อง one31 ที่มีธัญญ่า ธัญญาเรศ, อาจารย์เป็นหนึ่ง และเบนซ์ พรชิตา เป็นพิธีกรดำเนินรายการ

- ชีวิตของแอนนาไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ ?

 

             แอนนา : ชีวิตที่ผ่านมาถามว่าลำบากไหม เราไม่เคยคิดว่าลำบากเลย แต่พอเราโตขึ้น ได้ฟังเรื่องราวของคนอื่นมากขึ้น มันก็เริ่มกลับมาคิดแล้วว่าที่ผ่านมาเป็นเพราะว่าเราต้นทุนน้อยกว่าคนอื่น แอนนาเติบโตมาในครอบครัวที่คุณพ่อคุณแม่ทำงานเป็นพนักงานเก็บขยะ แล้วคุณพ่อคุณแม่แยกทางกัน ทำให้แอนนาอยู่กับคุณพ่อ 2 ท่าน แต่พอคุณพ่อไปทำงาน แล้วแอนนาเป็นผู้หญิงคนเดียว คุณทวดที่เป็นแม่ชีก็เลยขอคุณพ่อให้แอนนาไปอยู่กับคุณทวดที่วัด ทำให้แอนนาอยู่วัดมาตั้งแต่ ป.3 จนจบมหาวิทยาลัย

 

ทำไม คุณแม่ "แอนนา เสือ" ยังทำงานกวาดถนน แม้ลูกมงลงแล้ว?

 

 

- ตอนเด็ก ๆ เคยมีความอิจฉาเพื่อนไหม เขามีครอบครัวที่สมบูรณ์ มีชีวิตที่สุขสบาย แล้วมาเทียบกับตัวเอง มีไหม ?

 

             แอนนา : ความรู้สึกของหนูที่มองย้อนกลับไป แอนนาไม่ได้มองว่าเป็นความน่าอิจฉาแล้วกัน แอนนามองว่าเราเป็นแค่อารมณ์เด็กผู้หญิงทั่วไป แอนนาเชื่อว่ามนุษย์ทุกคนอาจจะมีการมองตัวเองกับคนอื่น การเปรียบเทียบบ้างบางครั้งว่าทำไมเขาถึงมีครอบครัวที่สมบูรณ์แบบกว่า ทำไมเขาถึงได้ไปเที่ยวที่ดีกว่า ทำไมเขาถึงมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่มากกว่าเรา แต่มันเป็นแค่โมเมนต์หนึ่งเท่านั้น พอเวลาผ่านไป เรื่องเหล่านี้ก็ลืมไปมันเป็นธรรมดา และเป็นธรรมชาติของทุกคน แต่ไม่เคยมองแบบฝังใจว่าทำไม ๆ

 

- เรามีวิธีการคิดบวกตั้งแต่เด็กแล้วใช่ไหม ?

 

             แอนนา : หนูว่าใช่ด้วย อาจจะเป็นเพราะสภาพแวดล้อมของเราเติบโตมากับคุณทวด โตมากับวัดเราก็เลยไม่ได้รู้สึกว่าชีวิตเราขาด หรืออาจจะเป็นความรักที่ทุกคนมอบให้แอนนา ไม่ว่าจะเป็นคุณทวด คุณพ่อ คุณแม่ แม้ว่าเราจะไม่มีครอบครัวที่สมบูรณ์แบบ แต่ความรักที่ทั้ง 3 ท่าน มอบให้ไม่เคยขาดเลย ทุกคนเติมเต็มให้แอนนา เหมือนแอนนาเป็นเด็กผู้หญิงปกติคนหนึ่งเลย

 

- ย้อนกลับไปตอนนั้นเคยมีเรื่องท้อบ้างไหม ?

 

             แอนนา : แอนนาว่าทุกคนมีเรื่องท้อหมด แอนนาเลยไม่ได้มองว่าสิ่งที่มันท้อที่สุดคืออะไร แต่อาจจะเป็นในเรื่องของการศึกษามากกว่า เพราะว่าเป็นประเด็นที่แอนนาหยิบยกขึ้นมาพูดในเวทีมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ด้วย แอนนามองว่าการศึกษา ที่ทุกคนบอกว่าการศึกษาเป็นขั้นพื้นฐาน เป็นสิ่งที่เด็กทุกคนควรจะได้รับ แต่ทำไมเด็กที่มีต้นทุนน้อยกว่าถึงได้รับไม่เท่าเด็กที่มีต้นทุนมากกว่า มันเลยเป็นสิ่งที่แอนนาอยากมาพูด อยากถ่ายทอดประสบการณ์ บางครั้งเสียงของแอนนาที่มันดังขึ้นอาจจะช่วยเหลือเด็กหลาย ๆ คนประสบปัญหาการศึกษา ประสบความสำเร็จได้มากกว่าแอนนา

 

- ตอนเด็ก ๆ เราเคยโดนล้อบ้างไหมว่าเด็กวัด ๆ ?

 

             แอนนา : มีบ้าง แต่เข้าใจนะคะมันเป็นช่วงวัยเด็ก แอนนาไมาได้โกรธหรือว่าแค้นเขานะคะ สุดท้ายมันก็ผ่านไป ทุกคนมีสิทธิ์ที่จะคิดแบบนั้น

 

- เป็นเด็กวัดดีจะตาย ได้รางวัลติดตัวมาตั้งแต่เด็ก ?

 

             แอนนา : ได้มาเยอะมาก แต่ที่ได้มาจนถึงทุกวันนี้คือสวดมนต์

 

- ทานข้าวก้นบาตรพระด้วย ?

 

             แอนนา : ใช่ค่ะ มันเป็นช่วงเวลาที่เราได้อยู่ในวัดก็เลยได้ทานข้าวก้นบาตรพระ แอนนามองว่ามันเป็นข้าวปกตินะคะ อย่างน้อยมันก็ทำให้เราอิ่มท้อง ไม่ได้เป็นข้าวที่แตกต่างจากคนอื่นเลย

 

- เคยคิดว่าตัวเองโตขึ้นอยากจะเป็นแม่ชี ?

 

             แอนนา : ใช่ค่ะ อาจจะเป็นเพราะว่าสภาพแวดล้อมของเราด้วย ก็เลยคิดว่าบั้นปลายชีวิตเราคงไม่ต้องการอะไรแล้วแหละ นอกจากความสงบ ก็เลยตั้งเป้าหมายไว้ตอนเด็กแล้วกัน สุดท้ายเป้าหมายเราก็เติบโตขึ้นเรื่อย ๆ มีเป้าหมายใหม่ ๆ เข้ามาเรื่อย ๆ ถามว่ายังมีความคิดแบบนั้นอยู่ไหม มีค่ะ แต่ว่าขอเต็มที่กับตรงนี้ก่อน

 

- ถ้าทุกวันนี้คุณทวดยังอยู่มีอะไรจะขอบคุณคุณทวดไหม ?

 

             แอนนา : มีเยอะมากเลย แอนนามีทุกวันนี้ และเป็นคนที่คิดบวกแบบนี้ได้เพราะท่านเลยค่ะ ทุกอย่างที่คุณทวดสอนแอนนามา แม้หลายคนมองว่าช่วงอายุที่ห่างกัน ความคิด การสอนจะไม่ปัจจุบันหรือเปล่า แต่แอนนาอยากบอกเลยว่าทุกคำสอนที่คุณทวดสอนแอนนามันส่งผลให้แอนนามีทุกวันนี้ ทำให้แอนนาเป็นคนคิดบวก ให้แอนนาประสบความสำเร็จได้รับมงกฎนี้ อยากบอกคุณทวดว่าวันนี้หนูทำสำเร็จแล้ว แล้วทุกคำสอนที่ทวดบอกแอนนามามันทำให้แอนนาประสบความสำเร็จ

 

- มีคำสอนคำไหนของคุณทวดที่เราจำได้ถึงทุกวันนี้?

 

             แอนนา : ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั่น มันเป็นคำที่ทุกคนได้ยินปกติอยู่แล้ว แต่ไม่เคยอิน ซึ่งคำนี้มันเป็นคำปกติของแอนนาเหมือนกัน แต่พอเราเชื่อ และพยายามมากขึ้น มันก็สำเร็จจริง ๆ แอนนาอยากจะบอกทุกคนว่าสุดท้ายชีวิตเราราบรื่น แต่ความพยายามจะทำให้เราสำเร็จได้จริง เชื่อมั่นในตัวเอง

 

- เราได้รับตำแหน่งแล้วคุณพ่อคุณแม่ก็ยังทำอาชีพเดิม เราเคยขอให้คุณพ่อคุณแม่หยุดทำงานไหม ?

 

             แอนนา : แอนนาไม่เชิงบอกให้คุณพ่อ คุณแม่เลิกทำงานเก็บขยะ กวาดขยะนะคะ เราแค่อยากให้คุณแม่สบายมากขึ้นมากกว่า แต่ว่าเรื่องอาชีพแอนนาไม่ได้มองว่าเป็นอาชีพที่แย่อะไร สุดท้ายแล้วอาชีพที่คุณพ่อ คุณแม่ทำมันเป็นอาชีพที่ช่วยเหลือหรือมีประโยชน์ต่อสังคมทั้งนั้น ถ้าคุณพ่อคุณแม่จะเลิกทำ อยากให้เขาเลิกทำเพราะว่าเขาตัดสินใจเอง ไม่อยากให้เลิกทำเพราะแอยนาบอก สุดท้ายอาชีพนี้มันก็ส่งประโยชน์แก่สังคม แอนนามองว่ามันไม่มีเหตุผลอะไรที่ให้คุณพ่อคุณแม่เลิกทำอาชีพนั้น ถ้าเป็นความสุขของท่านก็ยินดีที่จะสนับสนุนต่อไปเรื่อย ๆ

 

- ล่าสุดมีคนจำคุณพ่อได้ มาขอถ่ายรูปด้วย แต่คุณพ่อจะบอกว่าไม่อยากถ่ายด้วยเลย เกรงใจ กลัวว่าตัวคุณพ่อจะเหม็นคุณพ่อทำตัวไม่ถูก ?

 

             แอนนา : หนูเข้าใจคุณพ่อเหมือนกัน โทร. ไปถามคุณพ่อเลยตอนเห็นข่าวนี้ คุณพ่อบอกว่าสุดท้ายแล้วเขาโอเค คือเขาไม่ได้โกรธอะไร แต่ว่า ณ ตอนนั้นด้วยอาชีพที่เขาทำอยู่ทำให้มีกลิ่นตัว เขาก็เกรงใจมากกว่า คุณพ่อคุณแม่แอนนาเป็นคนที่เกรงใจคนอื่นเยอะมาก ทำให้แอนนาเป็นคนที่ขี้เกรงใจคนอื่นเหมือนกัน แอนนาเข้าใจในมุมของคุณพ่อ แล้วพอเราอยู่ตรงนี้เราก็เข้าใจในมุมของแฟนคลับด้วย ทุกคนอยากให้กำลังใจแอนนา อยากให้กำลังใจคุณพ่อคุณแม่แอนนา แต่สุดท้ายแล้วอยากจะฝากบอกทุกคนที่รักแอนนาว่าบางครั้งคุณพ่อแอนนายังใหม่มาก ๆ ก็อยากให้เข้าใจทั้งคุณพ่อ และคุณแม่แอนนาด้วย แต่แอนนาเข้าใจแฟนคลับทุกคนนะคะ

 

- ตั้งแต่ก่อนประกวดจนวันที่สิ้นสุดการประกวดแอนนาเจอคุณแม่น้อยมาก ?

 

             แอนนา : ใช่ค่ะ เพราะว่าแอนนาเทรนด์หนักมากจริง ๆ แต่ก็มีโอกาสได้เจอคุณแม่วันที่ 12 ที่ผ่านมา ได้บอกคุณแม่ว่าวันนี้หนูทำสำเร็จแล้วนะ

 

- อยากบอกอะไรกับคุณแม่บ้าง ?

 

             แอนนา : ทุกอย่างที่แม่เชื่อ ที่คิดว่าการศึกษาจะเปลี่ยนชีวิตหนู แม่พยายามทำงานหนักเพื่อหนู วันหนึ่งตี 5 ถึง3 ทุ่ม ต้องการให้ชีวิตหนูดีขึ้น วันนี้มันประสบความสำเร็จแล้ว ขอบคุณที่เหนื่อยกับหนูมา

 

- เห็นว่าตอนประกวดน้องแอนนาถือเคล็ดด้วย โอนเงินให้คุณแม่ด้วย ?

 

             แอนนา : แอนนาโอนหมายเลขแอนนา 19 บาท แอนนาบอกแม่ว่าหนูขอเลขบัญชีหน่อย เขาบอกจะโอนมาเท่าไหร่ไม่ต้องโอนมาเยอะมากนะ พอโอน 19 บาท บอกโอนมาทำไม

 

- อันนี้ใครบอกเคล็ดไหม ?

 

             แอนนา : แอนนาได้ยินจากพี่ในกอง เป็นพี่ตากล้อง เห็นเราสายมู เขาบอกว่าสิ่งที่เราควรจะบูชาที่สุดคือพระในบ้าน เราโอนไปเป็นเคล็ดเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็เลยโอนตามหมายเลขตัวตัวเองไปเลย

 

- ตอนน้องแอนนาเด็กๆ มีช่วงหนึ่งที่คุณแม่ไปอยู่วัดด้วยเหรอ ?  

 

             แม่ : ค่ะ เพราะว่าหนูอยากอยู่ใกล้ ๆ ลูก อยากอยู่ใกล้ ๆ แม่ชี ได้อยู่รวมกันแบบมีความสุข หนูทำงานเลิกประมาณ 3 ทุ่ม ช่วงกลับมาจากโรงเรียนเขาจะอยู่กับใคร ถ้าเขาอยู่วัด อยู่กับแม่ชี ก็มีความปลอดภัย แต่เราก็เจอกันน้อย กลับ 3 ทุ่ม เกือบทุกวัน

 

             แอนนา : จะมีแค่วันเสาร์ แม่ทำงาน 2 ที่ ก็จะเป็นช่วงที่เราได้ทานข้าวด้วยกัน เป็นวันเสาร์ตอนเย็นวันเดียวต่ออาทิตย์

 

- คุณแม่เป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยว คุณแม่เหนื่อยขนาดไหนที่เลี้ยงลูกสาวคนนี้มาเพียบพร้อมขนาดนี้ ?

 

             แม่ : สนุกกับงานมากกว่า อยากจะเห็นลูกประสบความสำเร็จ ไม่อยากให้เขาเหนื่อย ถ้าเขาเรียนจบสูง ๆ มันเป็นแรงบันดาลใจให้หนูทำงานแล้วให้ลูกได้เรียนสูง ๆ หนูก็ดีใจแล้วค่ะ

 

- เห็นว่าคุณแม่ให้ความสำคัญกับการศึกษามาก ๆ ?

 

             แม่ : ใช่ค่ะ

 

- ทำงานกี่อย่างคะ ?

 

             แม่ : ทำงาน 3 ที่ ต่อวันค่ะ กวาดถนน แม่บ้าน ตอนเย็นก็ไปทำงานอีกรอบ ตอนเช้าตี 5 เลิกเกือบบ่ายโมง ใช้เวลา 15-20 นาทีรีบกิน ๆ แล้วเปลี่ยนเสื้อผ้า ขับมอเตอร์ไซค์ไปเลย ต้องใช้เวลาในความไว แล้วไปเป็นแม่บ้านเลิก 6 โมงเย็น แล้วไปต่อตอนเย็นอีกที่เข้าประมาณทุ่มกว่า ๆ

 

- อะไรที่ทำให้แม่รู้สึกว่าอยากให้ลูกคนนี้เรียนสูง ให้ความสำคัญกับการศึกษาขนาดนี้ ?

 

             แม่ : อยากให้เขามีความรู้เยอะ ๆ การที่เขามีความรู้ติดตัวเนี่ยมันจะช่วยปรับพื้นฐานในชีวิตเขาดีขึ้น

 

- แอนนาเรียนจบอะไรมา ?

 

             แอนนา : แอนนาเรียนจบการโรงแรมและท่องเที่ยวค่ะ เพราะว่าตอนนั้นเราไม่มีโอกาสได้เที่ยวกับคุณพ่อ คุณแม่เลย อย่างคุณพ่อไปได้ไกลสุดคือโรงเก็บขยะตอนเด็ก ๆ ที่เคยไปเที่ยวกับคุณพ่อ เราเลยคิดว่าอาชีพไหนนะที่ 1. เราได้เที่ยวด้วยแล้วเราได้เงินด้วย ก็เลยอยากเป็นแอร์โฮสเตส ก็เลยเรียนการโรงแรมและการท่องเที่ยว แต่พอจบมาโควิดเลย ก็อาจจะเป็นดวงด้วยเหมือนกัน เราเลยอยู่ในเส้นทางการประกวดที่หนักมากขึ้น ได้รู้จักเวทีการประกวดเยอะขึ้น

 

- ตอนนี้ลูกสาวเราได้รับตำแหน่งเป็นไอดอลของผู้หญิงทั้งประเทศทำไมคุณแม่ยังยึดอาชีพเดิมอยู่ คนอื่นเขาคงเลิกแล้วนอนอยู่บ้านให้ลูกเลี้ยงดีกว่า ?

 

             แม่ : หนูอยากกวาดถนนไปเรื่อย ๆ เพราะทำให้บ้านเมืองสะอาด ได้พัฒนาตามวัด ตามคูคลอง เวลาหนูไปกวาดวัดหนูอธิษฐานว่าขอให้ลูกได้เป็นมิสยูนิเวิร์ส

 

- หลังจากที่ลูกได้ตำแหน่ง คุณแม่ชีวิตเปลี่ยนด้วยไหม ?

 

             แม่ : มีแต่คนทักเวลาไปตลาด เขาเรียกว่าแม่นางงาม

 

- เวลาไปไหน คนมาขอถ่ายรูปแม่เยอะไหม ?

 

             แม่ : หนูหลบ ๆ

 

- ลูกสาวคนนี้เคยขอให้แม่หยุดทำงานบ้างไหม ?

 

             แม่ : แม่ต้องพักสักที่นะ เหนื่อยมาก แต่คุณแม่ชอบทำงาน มันสนุกดี เพราะเห็นเงินแล้วอยากจะเก็บไว้ให้แอนนาสักก้อนเวลาเราจากโลกนี้ไปแล้ว ถึงเขาจะมีแต่เราก็อยากจะให้เขา อยากเป็นฝ่ายให้มากกว่าฝ่ายรับ

 

- คุณแม่ภูมิใจคุณลูกขนาดไหน ?

 

             แม่ : ภูมิใจมาก ไม่ทำให้แม่ผิดหวังเลย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเรียน การครองตัว อะไรหลาย ๆ อย่าง แอนนาเป็นเด็กดีมากเลย

 

ติดตามชมรายการคุยแซ่บShow ทุกวันจันทร์-วันศุกร์  เวลา 13.15-14.15 น. ทางช่อง one31 Facebook Page : คุยแซ่บShow รับชมย้อนหลังได้ที่ Youtube Channel : Orange Mama

 

ทำไม คุณแม่ "แอนนา เสือ" ยังทำงานกวาดถนน แม้ลูกมงลงแล้ว?

 

ทำไม คุณแม่ "แอนนา เสือ" ยังทำงานกวาดถนน แม้ลูกมงลงแล้ว?

 

ทำไม คุณแม่ "แอนนา เสือ" ยังทำงานกวาดถนน แม้ลูกมงลงแล้ว?

 

ทำไม คุณแม่ "แอนนา เสือ" ยังทำงานกวาดถนน แม้ลูกมงลงแล้ว?

 

ทำไม คุณแม่ "แอนนา เสือ" ยังทำงานกวาดถนน แม้ลูกมงลงแล้ว?

 

ทำไม คุณแม่ "แอนนา เสือ" ยังทำงานกวาดถนน แม้ลูกมงลงแล้ว?

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ