ข่าว

สุดาวรรณ กางแผนพลิกโฉม 'ท่องเที่ยว' และกีฬาไทยปี 2567

สุดาวรรณ กางแผนพลิกโฉม 'ท่องเที่ยว' และกีฬาไทยปี 2567

17 ม.ค. 2567

รมว.กก. ประกาศเป้าหมายการทำงานปี 2567 วาง 7 นโยบายขับเคลื่อนท่องเที่ยวและกีฬา สร้างรายได้จากการ 'ท่องเที่ยว' 3.5 ล้านล้านบาท เพิ่มส่วนแบ่งมูลค่ากีฬาไทยให้ได้ 1% ของอุตสาหกรรมกีฬาโลก คิดเป็น มูลค่า 455,800 ล้านบาท ใช้ซอฟต์พาวเวอร์เป็นขุมพลังใหม่

 นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า ในปี 2567 กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาขอประกาศนโยบายที่สำคัญที่จะ พลิกโฉมการ 'ท่องเที่ยว' และกีฬาของไทย ด้วยการสร้างรายได้จากการท่องเที่ยว 3.5 ล้านล้านบาท และเพิ่มส่วนแบ่งมูลค่ากีฬาไทยที่มีเพียง 0.58% ในขณะนี้ให้เป็น 1% จากอุตสาหกรรมกีฬาโลกที่มีขนาด 45.58 ล้านล้านบาท คิดเป็นมูลค่า 455,800 ล้าน บาทให้ได้

กก.กางแผนพลิกโฉมท่องเที่ยว

รมว.กก. กล่าวด้วยว่า เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาได้มอบนโยบายให้หัวหน้าส่วนราชการทุกหน่วยงานในสังกัด กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาแล้ว มีความมุ่งมั่นและตั้งใจว่าในปี 2567 เราจะเติบโต ไปพร้อมๆ กัน จับมือไปด้วยกันกับทุกภาคส่วน เน้นการบูรณาการกับทุกหน่วยงาน ไม่ว่าจะเป็นกระทรวงการ 'ท่องเที่ยว' และกีฬา ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ จะพูดจากันมากขึ้น บูรณาการกันมากขึ้น เพื่อให้ไปถึงเป้าหมายได้อย่างว่องไว 

 

สำหรับนโยบายที่กระทรวงฯ จะขับเคลื่อนในปี 2567 มี 7 นโยบายหลักๆ นโยบายแรก คือ การขับเคลื่อนอุตสาหกรรมการ 'ท่องเที่ยว' ในปี 2567 จากเชิงปริมาณเข้าสู่โหมดของคุณภาพ ทั้งมิติของในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งนายกรัฐมนตรีต้องการให้บรรยากาศการ 'ท่องเที่ยว'ของประเทศไทยคึกคักตลอดทั้งปี ทั้งจากนักท่องเที่ยวต่างชาติและนักท่องเที่ยวไทย

กก.กางแผนพลิกโฉมท่องเที่ยว

 

ประเทศไทยต้องมี High season on year round tourism destination คือ เที่ยวได้ทั้งปี หรือเที่ยวได้ ทั้ง 365 วัน จึงได้เตรียม Event ต่างๆ ไว้มากมาย อาทิ เทศกาลตรุษจีน เทศกาลสงกรานต์ ที่จะจัดให้ยิ่งใหญ่กว่าทุกปี เพราะยูเนสโก้เพิ่งประกาศขึ้นทะเบียนให้สงกรานต์ในประเทศไทย เป็นรายการในบัญชีตัวแทนมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมวลมนุษยชาติ จึงต้องยกระดับกิจกรรม Event ต่างๆ ในระดับชุมชนให้เป็น Event ในระดับนานาชาติ เป็นการกระตุ้นการไป 'ท่องเที่ยว' เมืองรอง จะทำให้ประเทศไทยสามารถรักษาตลาดเดิม และเจาะตลาดนักท่องเที่ยวใหม่ๆ ได้ต่อเนื่อง

 

นโยบาย 2 กระทรวงฯจะใช้ Soft Power เป็นพลังในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมการ 'ท่องเที่ยว' และอุตสาหกรรมการกีฬาของประเทศไทยให้เป็น Engine the New Power และจุดเด่นของ Soft Power ก็จะมีในเรื่องของกีฬาเข้ามาเป็นตัวช่วยในการขับเคลื่อนด้วยและเป็นการสร้างภาพลักษณ์ใหม่ของประเทศไทยในสายตาชาวโลกที่สำคัญ และเป็นเครื่องมือในการขับเคลื่อน demand ของการท่องเที่ยวและการกีฬาได้เป็นอย่างดี

นโยบายที่ 3 ประเทศไทยให้ความสำคัญกับเรื่องความปลอดภัยทั้ง Hospitality และ Safety โดยต้องทำให้นักท่องเที่ยวเชื่อมั่นว่า เมืองไทยปลอดภัย มาแล้วได้รับการดูแลเป็นอย่างดี ต้องเข้มงวดการบังคับใช้กฎหมายและปราบปรามการเอาเปรียบ หลอกลวงนักท่องเที่ยว เพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับประเทศไทยของเรา

 

นโยบายที่ 4 เรื่อง Responsibility เราต้องทำให้การ 'ท่องเที่ยว' นั้นยั่งยืน ซึ่งเรื่องนี้ เป็นนโยบายที่พูดกันมานานแล้ว แต่ในปี 2567 จะนำเรื่องนี้มาขับเคลื่อนให้มีความชัดเจนมากยิ่งขึ้นจริงๆ การท่องเที่ยวจะยั่งยืนได้ต่อเมื่อท้องถิ่น ต้องมาร่วมขับเคลื่อนด้วยกัน

นโยบายที่ 5 จะใช้การ 'ท่องเที่ยว' เป็นเครื่องมือในการกระชับความสัมพันธ์ของประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อสานต่อนโยบายของนายกรัฐมนตรีที่ให้ความสำคัญกับการเดินทางเชื่อมโยงภายในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยในการประชุมคณะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงท่องเที่ยวในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ณ กรุงเวียงจันทน์ สปป.ลาว ปลายเดือนนี้ จะมีประเด็นพูดคุยที่สำคัญคือ ASEAN Connect ที่จะทำให้เกิดการเดินทางเชื่อมโยงทางอากาศ ทางน้ำ และทางบก

นโยบายที่ 6 มีนโยบายที่จะขับเคลื่อนด้านกีฬาพื้นฐาน โดยวางระบบการพัฒนาทั่วประเทศเพื่อให้ครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายที่เกี่ยวข้อง ส่งเสริม พัฒนาการการออกกำลังกายและการเล่นกีฬา ทุกคนสามารถออกกำลังกายเป็นวิถีชีวิต สามารถเข้าถึงกีฬาได้ทุกกลุ่มเป้าหมาย ทั้งคนทั่วไป ผู้สูงอายุ ผู้พิการ ผู้ด้อยโอกาส รวมทั้งจะมีการส่งเสริมกีฬาเพื่อความเป็นเลิศ กีฬาเพื่อการอาชีพที่จะต้องพัฒนากีฬาทุกระดับและบุคลากร รวมทั้งการพัฒนาบุคลากรด้านวิทยาศาสตร์การกีฬา และนำวิทยาศาสตร์การกีฬามาเพิ่มสมรรถนะให้กับนักกีฬาไทยให้แข็งแกร่งขึ้นเพื่อแข่งขันในระดับนานาชาติ หรือกีฬาอาชีพ และต้องผลักดันให้ไทยเป็นศูนย์กลางการแข่งขันมหกรรมกีฬาระดับนานาชาติและระดับโลก สร้างแรงบันดาลใจให้กับเยาวชนรุ่นใหม่ สุดท้ายคือ E-Sport ถือเป็นกิจกรรมกีฬาใหม่ที่ต้องส่งเสริมเพราะสามารถสร้างทักษะให้กับเยาวชนและ สามารถสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจได้เป็นอย่างมาก

พลิกโฉมการท่องเที่ยวและกีฬา

นโยบายที่ 7 การเตรียมพร้อมสำหรับมหกรรมกีฬาระดับนานาชาติ ซึ่งปี 2567 จะมีรายการแข่งขันระดับนานาชาติหลายรายการทั้งการส่งนักกีฬาไปร่วมแข่งขันกีฬา โอลิมปิกปารีส 2024 และการเตรียมตัวเป็นเจ้าภาพจัดแข่งขัน ได้แก่/ เอเชียนอินดอร์ และมาร์เชียลอาร์ตเกมส์/ จักรยานยนต์โมโตจีพี/ เจ็ตสกีชิงแชมป์โลก/ ฮอนด้า แอลพีจี เอ ไทยแลนด์ 2024/ รวมถึงการเตรียมตัวเป็นเจ้าภาพซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ในปี 2568 ซึ่ง มี 3 จังหวัดร่วมเป็นเจ้าภาพ คือ กรุงเทพ ชลบุรี และสงขลา

พระจันทร์ฉาย

รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า สำหรับความสำเร็จของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ปี 2566 ที่ผ่านมา ประเทศไทยมีนักท่องเที่ยวต่างชาติ ทั้งสิ้น 28 ล้านคน เศษ เกินกว่าเป้าหมายที่เราตั้งไว้ ส่วนรายได้รวมจากนักท่องเที่ยวปี 2566 ตั้งเป้าไว้ที่ 2.38 ล้านล้านบาท แต่สรุปตัวเลขเมื่อสิ้นปีที่ผ่านมา พบว่า ประเทศไทยมีรายได้จากการ 'ท่องเที่ยว'รวม 2 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 100 จากปี 2565

ส่วนผลงานด้านกีฬาในปี 2566 นักกีฬาของเรามีผลงานในชนิดกีฬาสากลที่ดีขึ้น และนอกจากนี้ ประเทศไทยได้มีการจัดกีฬาในระดับนานาชาติ ได้แก่ ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ 2023 ครั้งที่ 16 การแข่งขันรายการโมโตจีพี 2023 การจัดการแข่งขันรายการวอลเลย์บอลหญิงชิงแชมป์เอเชีย 2023 ซึ่งทุกรายการมีแฟนกีฬาทั้งชาวไทย และชาวต่างประเทศเข้าชมเป็นจำนวนมาก สามารถสร้างรายได้ให้กับคนในท้องถิ่น และผู้ประกอบการได้เป็นจำนวนมาก