‘พีระพันธุ์’ แย้มข่าวดี ‘ตรึงค่าไฟ’ 3.99 บาท-ก๊าซหุงต้ม อยู่ที่ 423 บาท
'พีระพันธุ์' รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พลังงาน จ่อชงครม.'ตรึงค่าไฟ' อยู่ที่ 3.99 บาทต่อหน่วย เฉพาะกลุ่มเปราะบาง จำนวน 18.36 ล้านครัวเรือน พร้อมตรึงราคาก๊าซหุงต้ม อยู่ที่ 423 บาท
นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พลังงาน โพสต์เฟซบุ๊ก “พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค – Pirapan Salirathavibhaga” เกี่ยวกับราคาค่าไฟฟ้าและการตรึงราคาก๊าซหุงต้มว่า “เตรียมเสนอ ครม.ตรึงราคาค่าไฟฟ้า 3.99 บาท สำหรับกลุ่มเปราะบาง และตรึงราคาก๊าซหุงต้ม 423 บาทต่อถัง 15 กิโลกรัม”
ล่าสุด เมื่อวันที่ 8 ธ.ค.2566 นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พลังงาน ให้สัมภาษณ์ถึงมาตรการช่วยเหลือประชาชนภายหลัง คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) มีมติปรับขึ้นค่าไฟฟ้างวด ม.ค.-เม.ย. 2567 เป็น 4.68 บาทต่อหน่วยว่า กกพ. ก็ทำหน้าที่ปกติของเขาไป แต่ทั้งหมดอยู่ที่รัฐบาลและกระทรวงพลังงาน ตอนนี้เรากำลังทำงานอยู่ เอาเป็นว่าค่าไฟฟ้าไม่ขึ้นไปสูงขนาดนั้น
แต่ปัจจัยสำคัญคือค่าแก๊สในตลาดโลกตอนนี้ขึ้นสูง เนื่องจากเป็นช่วงหน้าหนาวทำให้มีความต้องการเพิ่มขึ้น จึงเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ต้องมีการปรับราคา ซึ่งความจริงไม่มีใครอยากปรับ แต่ต้องพิจารณาดูว่า การปรับนั้นทุกคนต้องอยู่ได้ เราพยายามปรับให้น้อยที่สุด สำหรับกลุ่มเปราะบางหรือกลุ่มที่ใช้ไฟฟ้าน้อยที่ไม่เกิน 300 หน่วย ก็จะได้ราคาเดิม
เมื่อถามว่า ได้มีการพูดคุยกับทาง กกพ. แล้วหรือไม่ นายพีระพันธุ์ กล่าวว่า ได้มีการพูดคุยกันไว้เบื้องต้นแล้ว อย่างไรก็ตามยังตอบไม่ได้ว่า จะนำเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อพิจารณาในวันที่ 12 ธ.ค.นี้หรือไม่ นายพีระพันธุ์ กล่าวว่า ยังตอบไม่ได้ เพราะตนไม่อยากนำเข้าทีละเรื่อง แต่จะเข้าครม.ทีเดียวหลายเรื่องเลย และต้องเข้าครม.ก่อนครบกำหนดเวลา
ผู้สื่อข่าวถามว่า นายกรัฐมนตรีอยากให้ลดลงเหลือ 4.10 บาทต่อหน่วย เป็นไปได้หรือไม่ นายพีระพันธุ์ กล่าวว่า ก็มีความเป็นไปได้ แต่การปรับลดค่าไฟฟ้า ไม่ใช่บอกว่าจะลดเท่านั้นเท่านี้ เพราะจะมีปัจจัยและมีหน่วยงานต่างๆเข้ามาเกี่ยวข้องจำนวนมาก ซึ่งการปรับลดค่าไฟไม่ได้อยู่ที่หน่วยงานเดียวหรือปัจจัยเดียว แต่อย่างน้อยเราได้พยามวางเป้าหมายเพื่อให้ไปถึงเป้าหมายที่เราวางไว้ ซึ่งการที่จะไปถึงเป้าหมายนั้น อาจจะต้องไปปรับลดหรือปรับเปลี่ยนอะไรหลายอย่าง ก็จะพยามทำให้ได้หรือให้ใกล้เคียงที่สุด
รายงานข่าวจากกระทรวงพลังงาน แจ้งว่า คาดสำนักงบประมาณจะจัดสรรงบกลางเข้าดูแลกลุ่มเปราะบาง 18.36 ล้านครัวเรือน ซึ่งใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 300 หน่วยต่อเดือน ประมาณ 2,000-3,000 ล้านบาท คำนวณจากค่าไฟที่ 3.99 บาทต่อหน่วย โดยงบประมาณที่ชัดเจนจะรู้ก็ต่อเมื่อทราบอัตราค่าไฟสุดท้ายของงวดใหม่ที่กำลังสรุป ซึ่งคาดว่าจะอยู่ที่ 4.20 บาทต่อหน่วย
โดยก่อนหน้านี้คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) มีมติปรับขึ้นค่าไฟฟ้างวด มกราคม-เมษายน 2567 เป็น 4.68 บาทต่อหน่วย โดยมาจากค่าไฟฟ้าผันแปรที่ปรับขึ้นเป็น 89.55 สตางค์ต่อหน่วย รวมกับค่าไฟฟ้าฐาน 3.78 บาทต่อหน่วย พร้อมเรียกร้องประชาชนลดการใช้ไฟฟ้า เพื่อประหยัดค่าครองชีพและช่วยประเทศชาติ
ต่อมานายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ และรมว.คลัง ระบุว่า เรื่องของการลดค่าไฟฟ้าและค่าน้ำมันถือเป็นเรื่องสำคัญ ตอนนี้ 3.99 บาทต่อหน่วย มีข่าวออกไปว่าจะขึ้นถึง 4.68 บาท และคุยกันว่าจะไปอยู่ที่ 4.20 บาท ตนบอกไปแล้วว่ารับไม่ได้ คงต้องกลับไปพิจารณากันใหม่ จะพยายามกดให้ได้ 4.10 บาท และอย่าลืมว่าก่อนที่ตนจะลดค่าไฟเหลือ 3.99 บาท ราคาไปอยู่ที่ 4.50 บาทมาก่อน