'ป.ป.ช. ภาค 4' ซ้อนแผน บุกจับคาห้องทำงาน 'รอง ผอ.โรงเรียน' ใน จ.ขอนแก่น เรียกรับเงินแป๊ะเจี๊ยะ ค่าย้ายนักเรียนระหว่างปีการศึกษา
30 เม.ย. 2567 นายประทีป จูฑะศร รองเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช.ภาค 4 เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 29 เม.ย. 2567 ที่ผ่านมา ได้รับแจ้งเบาะแสจากผู้เสียหายว่า มีโรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดขอนแก่น เรียกรับเงินแป๊ะเจี๊ยะเป็นค่าย้ายนักเรียนระหว่างปีการศึกษารายละ 20,000 บาท หลังจากทราบเรื่อง จึงได้ส่งเจ้าหน้าที่เพื่อสืบหาข้อมูล หลังข้อมูลครบถ้วน จึงได้ส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ และ ป.ป.ช. ลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบ หลังผู้เสียหายได้มอบเงินจำนวนดังกล่าว ให้กับบุคคลในระดับบริหารของโรงเรียน
ต่อมาได้ลงพื้นที่ดำเนินการจับกุมรองผู้อำนวยการโรงเรียนแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมืองขอนแก่น เรียกรับเงินจากผู้ปกครองนักเรียนเพื่อรับย้ายนักเรียนระหว่างปีการศึกษา เนื่องจากสำนักงาน ป.ป.ช. ได้รับร้องเรียนจากผู้เสียหายซึ่งเป็นผู้ปกครองนักเรียนว่า รอง ผอ.โรงเรียน แห่งนี้ ได้ใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่ รับสินบนเป็นเงิน เพื่อย้ายนักเรียนระหว่างปีการศึกษา
โดยมีการแจ้งค่าใช้จ่ายทั้งหมด 20,000 บาท แต่บุตรของตนเองนั้นอ่านออกเขียนได้จึงลดลงเหลือ 10,000 บาท และต้องจ่ายเป็นเงินสดเท่านั้น และไม่ได้แจ้งว่าเงินที่บริจาคนั้นบริจาคด้านใดให้กับทางโรงเรียน ซึ่งถ้าบริจาคเงินจำนวนนี้ บุตรหลานจะได้เข้าเรียนที่โรงเรียน
นายประทีป กล่าวว่า ป.ป.ช. หลังจากที่รับทราบเรื่องร้องเรียนจึงได้นำธนบัตรฉบับละ 1,000 บาท จำนวน 15 ฉบับ รวมเป็นเงิน 15,000 บาท จากผู้เสียหายที่ร้องเรียนมาลงบันทึกประจำวัน ก่อนจะนำเงินจำนวนดังกล่าวไปมอบให้กับทาง รอง ผอ.โรงเรียน ตามที่ได้มีการนัดหมาย
โดยได้มีการนำเอาธนบัตรจำนวน 10,000 บาท วางไว้ให้ รอง ผอ.โรงเรียน ตามที่แจ้งไว้ หลังมอบเงินจำนวนดังกล่าวเสร็จสิ้น เจ้าหน้าที่พนักงานชุดจับกุม ซึ่งประกอบด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ และ ป.ป.ช. จึงได้เข้าไปห้องทำงานส่วนตัวของ รอง ผอ.โรงเรียน พร้อมได้แจ้งสิทธิผู้ต้องหา
โดย รอง ผอ.โรงเรียน ยอมรับว่า เป็นเงินที่ผู้ปกครองนำมามอบให้เพื่อบริจาคให้แก่โรงเรียน เจ้าพนักงานจึงได้นำธนบัตรชนิด 1,000 บาท จำนวน 10 ฉบับ มาเปรียบเทียบกับประจำวันที่ลงไว้โดยรอง ผอ.โรงเรียน ยอมรับว่าธนบัตรดังกล่าว ตรงกับที่ลงประจำวันจริง
จากนั้น ได้ทำการขอค้นบริเวณโต๊ะทำงานของ รอง ผอ.โรงเรียน พบแฟ้มเอกสารการรับเงินจากผู้ปกครอง ที่นำนักเรียนมามอบตัวในวันต่างๆ และพบรายการบัญชีการจ่ายเงินดังกล่าว จำนวนหลายรายการ ทั้งปรากฏอยู่ในเครื่องคอมพิวเตอร์และได้ขอให้ รอง ผอ.โรงเรียน พิมพ์เอกสารดังกล่าวมามอบให้เจ้าพนักงานชุดจับกุม
เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้แจ้งข้อกล่าวหาและได้แจ้งสิทธิของผู้ถูกจับตามกฎหมายให้ทราบ จากนั้นได้ควบคุมตัวไปทำบันทึกจับกุม แล้วนำตัวส่งสถานีตำรวจภูธรเมืองขอนแก่น จังหวัดขอนแก่น เพื่อดำเนินการตามกฎหมาย ต่อไป
นายประทีป เปิดเผยด้วยว่า ในส่วนของโรงเรียนดังกล่าว พบว่า นักเรียนที่ย้ายในระหว่างปีการศึกษามีประมาณ 70 คน ซึ่งก็จะมีการทดสอบเด็กก่อน ซึ่งถ้าเด็กไม่ผ่านเกณฑ์อ่านออกเขียนได้ก็จะมีการเรียกเงินแป๊ะเจี๊ยะจำนวน 20,000 บาท หากนักเรียนคนดังกล่าวผ่านเกณฑ์ก็จะมีการเรียกรับแป๊ะเจี๊ยะ 15,000 บาท โดยจำนวน 10,000 บาท จะออกเป็นใบเสร็จให้ในส่วนที่เหลือจะไม่ออกใบเสร็จและนำเงินส่วนที่เหลือไปใช้ประโยชน์ส่วนตัว
ซึ่งในจำนวนนักเรียน 70 กว่าคนนั้น พบว่า มีประมาณ 60 คน ที่จ่ายแป๊ะเจี๊ยะ และอีก 10 กว่าคนไม่ได้จ่ายแป๊ะเจี๊ยะ และใช้ความสัมพันธ์กับรองผู้อำนวนการคนดังกล่าวเพื่อเข้าเรียนภายในโรงเรียน
ซึ่งล่าสุดทาง ป.ป.ช. ได้ข้อมูลมาพบว่า ขณะนี้ผู้เสียหายถูกกดดันให้กลับคำให้การ นอกจากนี้ยังพบว่าโรงเรียนดังกล่าวนั้นมีสายสัมพันธ์กับนักการเมืองรายหนึ่ง ซึ่งขณะนี้อยู่ในระหว่างการตรวจสอบให้ละเอียดอีกครั้ง และทาง ป.ป.ช.ส่วนกลาง พร้อมแจ้งข้อหาตามมาตรา 146 และมาตรา 157 หลังจากนั้นก็นำส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดี ก็จะเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่สอบสวนเพื่อรวบรวมพยานหลักฐานถายใน 30 วัน เพื่อนำส่ง ป.ป.ช. ดำเนินการต่อไป
กฤศเมธ โลโห จ.ขอนแก่น
ข่าวที่เกี่ยวข้อง