บันเทิง

หน้า1 อี6/ ม็อบเสื้อแดง (ปรู๊ตัวเล็ก)

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

หน้า1 อี6/ ม็อบเสื้อแดง (ปรู๊ตัวเล็ก) มติแกนนำเสื้อแดงเหนือ-อีสาน เปิดเวทีปราศรัยใหญ่พร้อมกัน 11 จว. ต้าน ปชป.ตั้งรัฐบาล ขู่ถ้าโหวตนายกฯ 15 ธ.ค. เคลื่อนพลปิดสภา ขู่ทำยิ่งกว่าพันธมิตรยึดสนามบิน-ทำเนียบ "จตุพร" เผย 13 ธ.ค.แม้วโฟนอินปลุกมวลชนบีบ ส.ส.เปลี่ยนขั้ว "จงรัก" ชง ปปง.เชือด 66 บริษัทหนุนพันธมิตร ..... ความเคลื่อนไหวของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ภายหลังสถานการณ์ทางการเมืองมีความชัดเจนว่า พรรคประชาธิปัตย์มีแนวโน้มที่จะเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลนั้น ล่าสุดเมื่อเวลา 18.45 น. วันที่ 10 ธันวาคม ที่โรงแรมแกรนด์วโรรส พาเลซ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ แกนนำ นปช. ใน 11 จังหวัดภาคเหนือ และภาคอีสาน เช่น นายขวัญชัย สาราคำ หรือ ขวัญชัย ไพรพนา ประธานชมรมคนรักอุดร นายเพชรวรรต วัฒนพงศ์ศิริกุล ประธานกิตติมศักดิ์กลุ่มรักเชียงใหม่ 51 น.ส.จีรนันท์ จันทวงค์ แกนนำกลุ่ม 24 มิถุนาประชาธิปไตย จ.เชียงราย และเป๋ คลองเตย นปช.กรุงเทพฯ ร่วมประชุมเพื่อกำหนดท่าทีในการเคลื่อนไหวของกลุ่มพลังมวลชนเสื้อแดง นายขวัญชัย กล่าวว่า กลุ่มพลังเสื้อแดงเคลื่อนไหวเพื่อประชาธิปไตย เมื่อเห็นว่าการเมืองไม่เป็นประชาธิปไตย โดยเฉพาะ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ที่เข้ามายุ่งเกี่ยวเรื่องการเมือง ทั้งที่ก่อนหน้านี้ประกาศว่าปัญหาการเมืองต้องแก้ด้วยการเมือง แต่กลับมีกระแสข่าวว่า ทหารเข้ามาแทรกแซงการเมืองโดยอยู่เบื้องหลัง ดังนั้นชมรมคนรักอุดร และกลุ่มเสื้อแดงจึงต้องออกมาแสดงพลัง เพราะเราอยู่ฝ่ายประชาธิปไตยต้องการให้การเมืองเป็นระบบ จึงต้องส่งสัญญาณให้กองทัพรู้และถอยกลับไป ก่อนที่กลุ่มเสื้อแดงทั่วประเทศจะลุกฮือ "การประชุมร่วมของแกนนำกลุ่มเสื้อแดงที่เชียงใหม่ครั้งนี้ ต้องการถามความเห็นของแกนนำในภาคเหนือว่า จะเคลื่อนไหวอย่างไรต่อไป เพราะปัญหาสำคัญในเวลานี้ คือ เงิน ในส่วนของชมรมคนรักอุดร ได้ร่วมกันลงขันจากสมาชิกจำนวน 1,200 คน สามารถรวบรวมเงินได้จำนวน 1.7 แสนบาท แต่ผมตั้งใจจะทำให้ได้ถึง 1 ล้านบาท" นายขวัญชัยกล่าว ต่อมาเวลา 21.00 น. นายเพชรวรรตแถลงสรุปผลการประชุมว่า ที่ประชุมได้ข้อสรุปจะจัดปราศรัยใหญ่พร้อมกันใน 11 จังหวัดภาคเหนือและภาคอีสาน และจะจัดต่อเนื่องไปจนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงอีกครั้ง เพื่อต่อต้านพรรคประชาธิปัตย์ไม่ให้จัดตั้งรัฐบาล เพราะไม่มีความชอบธรรม เป็นพรรคการเมืองที่อยู่เบื้องหลังกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ทั้งนี้ หากมีการเปิดประชุมสภาเพื่อโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีในวันที่ 15 ธันวาคมนี้ กลุ่มมวลชนเสื้อแดงใน 11 จังหวัดภาคเหนือ รวมทั้งจากภาคอีสานจะไปปิดล้อมสภา เพื่อไม่ให้มีการประชุมเลื่อกนายกรัฐมนตรี และขอยืนยันจะทำมากกว่าที่กลุ่มพันธมิตรเคยปิดล้อมสนามบินสุวรรณภูมิ และยึดทำเนียบรัฐบาล ส่วนการชุมนุมใหญ่ของ นปช.ในวันที่ 13 ธันวาคม ซึ่ง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรับมนตรี จะโฟนอินด้วยนั้น นายเพชรวรรตกล่าวว่า กลุ่มมวลชนเสื้อแดงใน 11 จังหวัด จะไม่เดินทางไปร่วมชุมนุม แต่จะเคลื่อนไหวกันในพื้นที่เป็นหลัก โดยเป้าหมายคือต่อต้านพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งเป็นผู้ให้การสนับสนุนผู้ก่อการร้ายสากล เผยแม้วโฟนปลุกมวลชนบีบส.ส.เปลี่ยนขั้ว นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การจับขั้วตั้งรัฐบาลขณะนี้ยังไม่จบง่ายๆ และในวันที่ 13 ธันวาคมนี้ จะมีประชาชนออกมารวมตัวที่สนามศุภชลาศัยเป็นจำนวนมาก โดย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะโฟนอินทั้งภาพและเสียง จะพูดทุกอย่างแบบหมดเปลือก และประชาชนทุกพื้นที่จะลุกฮือไปตามผู้แทนกลับบ้าน เสื้อแดงอุดรรอไล่เก้อส.ส.ปชป.ชิ่งทัน เมื่อเวลา 19.00 น. ที่สนามบินอุดรธานี สมาชิกชมรมคนรักอุดร และกลุ่มมวลชนเสื้อแดง ประมาณ 130 คน ชุมนุมกันที่บริเวณหน้าอาคารผู้โดยสารพร้อมชูป้ายผ้าโจมตีพรรคประชาธิปัตย์ เนื่องจากทราบข่าวว่า นายสามารถ ราชพลสิทธิ์ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งเดินทางมาพบ นางเตือนใจ นุอุประ อดีต ส.ส.อุดรธานี พรรคประชาธิปัตย์ จึงขึ้นเครื่องกลับกรุงเทพฯ ในเวลาประมาณ 20.00 น. โดยมีตำรวจ สภ.เมืองอุดรธานี ประมาณ 80 นาย ควบคุมสถานการณ์ ขณะที่นายวิเชียร ขาวขำ และนายอนันต์ ศรีพันธุ์ อดีต ส.ส.อุดรธานี พรรคพลังประชาชน ที่เตรียมขึ้นเครื่องเข้ากรุงเทพฯ ได้เข้าไปทักทายกลุ่มผู้ชุมนุม อย่างไรก็ตาม เมื่อเครื่องบินของการบินไทย เที่ยวบินทีจี 1015 ออกเดินทางในเวลา 20.20 น. แต่ผู้ชุมนุมไม่พบนายสามารถ โดยแหล่งข่าวระบุว่า นายสามารถได้ประสานไปยังเจ้าหน้าที่ของสนามบินอุดรธานี ขอเข้าไปในอาคารผู้โดยสารโดยใช้เส้นทางอื่น เพื่อหลีกเลี่ยงการปะทะกับกลุ่มผู้ชุมนุม ชง ปปง.เชือด66บริษัทหนุนพธม. ส่วนกรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเตรียมการดำเนินการกับกลุ่มทุนที่สนับสนุนกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยในช่วงเวลาที่บุกเข้ายึดสนามบินดอนเมืองและสนามบินสุวรรณภูมินั้น ล่าสุด พล.ต.อ.จงรัก จุฑานนท์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) กล่าวว่า ตำรวจสันติบาลได้ส่งรายชื่อบริษัทห้างร้าน ซึ่งมีทั้งหมด 66 บริษัท ที่สนับสนุนการเงินแก่กลุ่มพันธมิตรมาให้แล้วแต่ยังไม่สามารถเปิดเผยชื่อได้เนื่องจากเป็นความลับ โดยพนักงานสอบสวนเตรียมจะรวบรวมส่งให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ภายในสัปดาห์หน้า วันเดียวกัน พล.ต.อ.จงรัก เดินทางมาที่ สน.ดอนเมือง เพื่อประชุมติดตามคดีพบศพชายนิรนามบริเวณคลังสินค้า หรือคาร์โก้ สนามบินดอนเมือง เมื่อคืนวันที่ 9 ธันวาคม ที่ผ่านมา โดยมี พ.ต.อ.เจริญ ศรีศศลักษณ์ รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 2 (รอง ผบก.น.2) พ.ต.อ.พีระพงษ์ วงษ์สมาน รอง ผบก.น.2 พ.ต.อ.ณรงค์ฤทธิ์ พรหมสวัสดิ์ ผู้กำกับการ (ผกก.) สน.ดอนเมือง พ.ต.ท.อุดร แก้วสุขศรี รอง ผกก.สส.สน.ดอนเมือง เข้าร่วมประชุม โดยใช้เวลาในการประชุมประมาณ 20 นาที พล.ต.อ.จงรักกล่าวว่า จากการตรวจสอบยืนยันว่าผู้ตายเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 1 สัปดาห์ ซึ่งขณะนั้นอยู่ในช่วงเวลาที่กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยเข้ามายึดบริเวณสนามบินดอนเมือง และล้อมสถานที่ไว้ไม่ให้บุคคลภายนอกเข้าไปได้ ประกอบกับบริเวณที่ผู้ตายนอนอยู่เป็นโกดังที่การ์ดพันธมิตร หรือนักรบศรีวิชัย ใช้เป็นที่พักผ่อน จึงไม่มีใครเข้าไปในบริเวณนั้นได้ ดังนั้นการที่มีผู้นอนตายอยู่ก็สันนิษฐานว่าอาจจะเป็นกลุ่มนักรบศรีวิชัย เพราะยังไม่มีหลักฐานชัดเจนว่าเป็นคนอื่น "หลักฐานที่ได้เบื้องต้นพบเพียงแหวนรุ่นในตัวผู้เสียชีวิต ซึ่งตรวจสอบแล้วพบว่าแหวนปลอม ทำเลียนแบบขึ้นมาเท่านั้น จึงได้สั่งการให้พนักงานสอบสวนไปสอบสวนแกนนำพันธมิตรเกี่ยวกับรายชื่อของนักรบศรีวิชัยที่มาที่นี่ว่ามีใครบ้าง เพราะการที่จะมีบุคคลภายนอกเข้าไปทำร้ายคงเป็นไปไม่ได้ นอกจากจะเกิดจากการทะเลาะเบาะแว้งและทำร้ายกันเองในกลุ่ม แต่ถ้าหากสอบสวนแกนนำแล้วปรากฏว่าไม่ใช่กลุ่มนักรบศรีวิชัย ก็จะได้สอบสวนในประเด็นอื่นต่อไป" พล.ต.อ.จงรักกล่าว แม่ค้าเจออาวุธในทำเนียบเพียบ เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 10 ธันวาคม ร.ต.ต.ภานุฑัต นันสะอาง ร้อยเวร สน.ดุสิต รับแจ้งว่าพบวัตถุระเบิดและอาวุธปืนไทยประดิษฐ์ และกระสุนเป็นจำนวนมาก บริเวณสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (เก่า) หรือ สลค. ภายในทำเนียบรัฐบาล จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน พบนางเกษร รอดเพชรไทย อายุ 52 ปี แม่ค้าขายอาหาร ซึ่งเป็นผู้พบวัตถุระเบิดยืนรอเจ้าหน้าที่อยู่ภายในโรงอาหารของ สลค. ทั้งนี้จากการตรวจสอบบริเวณโรงอาหาร ภายในสโมสรสำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี (สปน.) และประตู 5 ภายในทำเนียบรัฐบาล พบอาวุธชนิดต่างๆ หลายรายการ รวมทั้งกระสุนปืนขนาดต่างๆ กว่า 100 นัด ต่อเวลา 21.50 น. ตำรวจ สน.นางเลิ้ง รับแจ้งว่าพบระเบิดปิงปองกว่า 50 ลูก ที่หน้าพระอนุสาวรีย์กรมหลวงชุมพร บริเวณแยกพาณิชย์ จึงนำกำลังไปตรวจสอบ คปพร.จี้ตร.เอาผิดพธม.-ปิดเอเอสทีวี วันเดียวกัน ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ นพ.สันต์ หัตถีรัตน์ นพ.เหวง โตจิราการ นางประทีป อึ้งทรงธรรม ฮาตะ คณะกรรมการประชาชนเพื่อการแก้ไขปัญหารัฐธรรมนูญ (คปพร.) นำคณะ เข้ายื่นหนังสือร้องทุกข์กล่าวโทษ 24 แกนนำพันธมิตร กรณียึดสนามบินสุวรรณภูมิ และสนามบินดอนเมือง และกลุ่มพันธมิตรพร้อมด้วยผู้ดำเนินกิจการเผยแพร่สถานีโทรทัศน์ดาวเทียม เอเอสทีวี กรณีเผยแพร่ภาพและเสียงเข้าข่ายปลุกระดมล้มล้างระบอบการปกครองของประเทศ ต่อ พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ จเรตำรวจแห่งชาติ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รรท.ผบ.ตร.) โดยมี พล.ต.ต.มนู เมฆหมอก เลขานุการสำนักงานตำรวจแห่งชาติเป็นตัวแทนรับเรื่อง และรับจะนำไปดำเนินการ นพ.เหวง กล่าวว่า สถานีเอเอสทีวี มีความผิดตาม พ.ร.บ.ประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ พ.ศ. 2551 พวกตนจึงมาร้องทุกข์เพื่อให้ พล.ต.อ.ปทีป ดำเนินการตามกฎหมายเพื่อปิดการเผยแพร่ของสถานีเอเอสทีวี เจอเอ็ม26อีกลูก-เรียก4เสื้อแดงสอบ ส่วนความคืบหน้าเหตุคนร้ายขว้างระเบิดสังหารชนิดเอ็ม 26 หรือระเบิดลูกเกลี้ยง ใส่บ้านพักนายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ ส.ส.นครราชสีมา กลุ่มเพื่อนเนวิน ตั้งอยู่เลขที่ 333 หมู่ 10 บ้านบึงทับปรางค์ ต.โชคชัย อ.โชคชัย จ.นครราชสีมา ล่าสุด วันที่ 10 ธันวาคม พล.ต.ต.ฉัตรกนก เขียวแสงส่อง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด (ผบก.ภ.จว.) นครราชสีมา กล่าวว่า ได้รับแจ้งจากคนในบ้านของนายบุญจงว่า พบวัตถุคล้ายระเบิดที่รั้วด้านนอกห่างจากตัวบ้านประมาณ 100 เมตร อีก 1 ลูก เมื่อไปตรวจสอบพบว่าเป็นระเบิดสังหารชนิดเอ็ม 26 สภาพพร้อมใช้งาน แต่ยังไม่ได้ถอดสลัก คาดว่าเป็นของคนร้ายกลุ่มเดียวกันที่ทำหล่นไว้ เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่จึงเก็บเอาไว้เป็นหลักฐานและตรวจสอบหาลายนิ้วมือของคนร้าย พล.ต.ต.ฉัตรกนกกล่าวอีกว่า เจ้าหน้าที่สอบพยานแวดล้อมไปแล้ว 13 ปาก มีทั้งบุคคลที่อยู่ภายในบ้านพักของนายบุญจง และภรรยาของนายบุญจง พร้อมทั้งกำลังตรวจสอบที่มาของระเบิดเอ็ม 26 ทั้งสองลูกเพื่อสาวถึงกลุ่มบุคคลที่ก่อเหตุ นอกจากนี้จะได้เรียกกลุ่มมวลชนเสื้อสีแดง 4 คน ที่นั่งรถโฟร์วีลส์ ยี่ห้ออีซูซุ โรมีโอ สีเขียว มาจอดหน้าบ้านพักของนายบุญจง และนำแผ่นป้ายโจมตีนายบุญจงมาติดไว้บริเวณประตูบ้าน ซึ่งปรากฏในกล้องวงจรปิด เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม ที่ผ่านมา มาสอบสวนว่าเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ในครั้งนี้หรือไม่
logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ