ลุคใหม่ติดดิน ‘เศรษฐา’ คลุกวงใน ‘บ้านใหญ่’ ตอกเสาเข็มเพื่อไทย

เปิดดีลรักสีแดง เศรษฐา คลุกวงใน สส.บ้านใหญ่ บุกลพบุรี ดูแลฐานเสียงตระกูลสละชีพ-วรปัญญา ตอกเสาเข็มเพื่อไทย 

ลุคใหม่ เศรษฐา ขยับชิดใกล้ สส. ลดช่องว่างนายกฯกับผู้แทนบ้านนอก เชื่อมร้อยใจบ้านใหญ่เพื่อไทยให้เป็นหนึ่ง เตรียมสู้คลื่นพายุสีส้ม

วันศุกร์ที่ 9 ก.พ. 2567 เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง พร้อมคณะ จะลงพื้นที่ตรวจราชการจังหวัดลพบุรี โดยช่วงบ่าย ติดตามการดำเนินโครงการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งริมคลองลำสนธิ อ.ชัยบาดาล จ.ลพบุรี
 

พื้นที่นี้เป็นของ วรวงศ์ วรปัญญา สส.ลพบุรี เขต 5 พรรคเพื่อไทย ผู้แทนหนุ่มนักเรียนนอก ลูกหลานบ้านใหญ่ชัยบาดาล

ช่วงเย็น นายกฯเศรษฐา เป็นประธานพิธีเปิดงานแผ่นดินสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ครั้งที่ 36 ประจำปี 2567 หลังจากนั้น แวะไปรับประทานอาหารค่ำที่บ้านพัก ‘เสี่ยหน่อง’ สิทธิชัย หล่อประสงค์สุข สส.ลพบุรี เขต 1 พรรคเพื่อไทย 

เลือกตั้งหนที่แล้ว พรรคเพื่อไทย มี สส.ลพบุรี 2 คนคือ สิทธิชัย หล่อประสงค์สุข และวรวงศ์ วรปัญญา ซึ่งเป็น สส.สมัยแรกทั้งคู่

แกนนำเพื่อไทยให้ความสำคัญกับเมืองทหาร เพราะ สส.ลพบุรี ทั้ง 5 คน ปรากฏว่า มี สส.ก้าวไกล แทรกเข้ามาได้ 1 คน นี่คือสัญญาณของการเปลี่ยนแปลง 
 

บ้านใหญ่เมืองลิง
‘เสี่ยหน่อง’ สิทธิชัย หล่อประสงค์สุข คหบดีชื่อดังเมืองลพบุรี ไม่ใช่นักการเมืองท้องถิ่น แต่ได้รับเลือกเป็น สส. เพราะมีฐานทุนของตัวเอง และอาศัยฐานเสียงของตระกูลสละชีพ

ตระกูลสละชีพ ผูกขาดตำแหน่งนายกเทศมนตรีเมืองลพบุรีมานาน และมี ‘กำนันด้ง’ จำเจริญ สละชีพ เป็นนายกเทศมนตรีเมืองลพบุรีในวันนี้ 

กำนันด้งและตระกูลสละชีพ มาจาก ต.พรมมาตร อ.เมือง จ.ลพบุรี โดยเป็นพันธมิตรทางการเมืองกับตระกูลจิระพันธุ์วาณิช ที่มี อรพิน จิระพันธุ์วาณิช เป็นนายก อบจ.ลพบุรี

สำหรับหนุ่มนักเรียนนอก วรวงศ์ วรปัญญา สส.ลพบุรี เขต 5 วัย 28 ปี ถือว่าเป็นดาวรุ่งค่ายสีแดง และเป็นกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทยที่อายุน้อยที่สุด

วรวงศ์ เป็นหลานชาย นิยม วรปัญญา อดีต สส.ลพบุรี 14 สมัย ซึ่งตระกูลวรปัญญา ถือว่าเป็นบ้านใหญ่ชัยบาดาลหรือลำนารายณ์

บ้านใหญ่ชัยบาดาล พ่ายคู่แข่งค่ายภูมิใจไทย มา 3 สมัย เพิ่งกลับมาทวงเก้าอี้ สส.คืนได้ โดยอาศัยความสดใหม่ของหลานชาย วรวงศ์ วรปัญญา 

 

 

 

เชื่อมใจผู้แทนภูธร
การที่นายกฯเศรษฐา ให้ความสำคัญกับ ‘สส.เขต’ มากขึ้นก็เป็นไปตามยุทธศาสตร์ปักธงสร้างฐานสีแดง ทวงคืนความยิ่งใหญ่อีกครั้ง

ดังที่ทราบกัน แกนนำเพื่อไทย ได้มอบให้ สรวงศ์ เทียนทอง เลขาธิการพรรค และมนพร เจริญศรี รมช.คมนาคม เป็นผู้ประสานงานระหว่าง สส.กับฝ่ายบริหาร
 

โดยเฉพาะการเชื่อมต่อเศรษฐา กับ สส. ให้มีความใกล้ชิดกันมากขึ้น เนื่องจากเศรษฐา มาจากนักธุรกิจ ไม่เข้าใจวิถีการเมืองแบบบ้านใหญ่ จึงต้องหามือประสานสิบทิศ มาลดช่องว่างนี้

หากไม่ติดภารกิจ นายกฯเศรษฐา จะเข้าร่วมประชุมพรรคช่วงบ่ายโมงทุกวันอังคาร เพื่อรับฟังข้อเสนอแนะจาก สส. และคอยรับเรื่องราวร้องทุกข์จากประชาชนในพื้นที่ทั่วประเทศ 

หลังปีใหม่ เศรษฐา ได้นัด สส.กลุ่มใหญ่ 20 กว่าคน ไปร่วมรับประทานอาหารที่ร้านเยี่ยมใต้ ของณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ถนนเลี่ยงเมืองปากเกร็ด จ.นนทบุรี โดยวันนั้น สุรชาติ เทียนทอง สส.บัญชีรายชื่อ เป็นผู้ประสานงาน 

สส.ส่วนใหญ่ในวันนั้น มาจากสายอีสาน อาทิเช่น รชตะ ด่านกุล สส.นครราชสีมา, ธเนศ เครือรัตน์ สส.ศรีสะเกษ, วิลดา อินฉัตร สส.ศรีสะเกษ, อมรเทพ สมหมาย สส.ศรีสะเกษ และสุรชาติ ชาญประดิษฐ์ สส.ศรีสะเกษ 

มีข้อสังเกตว่า สส.ที่มาร่วมรับประทานอาหารกับนายกฯเศรษฐา เป็น สส.ที่ไม่ได้สังกัดซุ้มใหญ่ และหลายคนเป็น สส.บ้านใหญ่ ที่โตด้วยตัวเอง

อย่างไรก็ตาม บรรยากาศในวันนั้น เศรษฐาได้ถือโอกาสพูดคุยกับ สส.อย่างเป็นกันเอง สามารถลบภาพนายกฯนักธุรกิจ ไม่เข้าใจปัญหา สส.รากหญ้าลงไปได้