คิกออฟ 30 บาท ‘เศรษฐา’ ต่อยอด ‘ทักษิณ’ กู้ศรัทธาขาลงร้อยเอ็ด

คิกออฟร้อยเอ็ด เศรษฐา ปักธง 30 บาทรักษาทุกที่ ต่อยอดประชานิยม ทักษิณ ปลุกมนต์ขลังอาจสามารถโมเดล กู้ศรัทธาเพื่อไทย

ร้อยเอ็ดไม่แลนด์สไลด์ เจอก้าวไกลดึงแต้ม เปิดทางบ้านใหญ่ จุรีมาศ-พลซื่อ ตีแตกฐานเสื้อแดง สมัยหน้าเพื่อไทยเหนื่อยกว่าทุกครั้ง 

ได้เวลาต่อยอดประชานิยมไทยรักไทย เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี จะเดินทางไป จ.ร้อยเอ็ด ในวันอาทิตย์ที่ 7 ม.ค. 2567 เพื่อเป็นประธานกิจกรรมคิกออฟ ‘30 บาทรักษาทุกที่’

กระทรวงสาธารณสุข และคณะกรรมการพัฒนาระบบสุขภาพแห่งชาติ ที่มี อุ๊งอิ๊ง-แพทองธาร ชินวัตร เป็นประธาน ได้เลือก 4 จังหวัดนำร่องโครงการ 30 บาทรักษาทุกที่ คือร้อยเอ็ด แพร่ เพชรบุรี และนราธิวาส 

ก่อนจะมีกิจกรรมคิกออฟที่ร้อยเอ็ด ก็มีดราม่าเรื่องชื่อโครงการ จากเดิมที่เรียกว่า 30 บาทรักษาทุกโรค ได้มีการต่อยอดเป็นใช้บัตรประชาชนใบเดียวรักษาได้ทุกที่

ตอนแรกพรรคเพื่อไทยใช้คำว่า ’30 บาท พลัส’ แต่มีเสียงท้วงว่า 30 บาท พลัส เป็นนโยบายหาเสียงของพรรคไทยสร้างไทย ของคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ จึงต้องหาชื่อใหม่

นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รมว.สาธารณสุข จะใช้ ‘30 บาท อัพเกรด’ แต่หมอ เลี้ยบ-นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี เลขานุการคณะกรรมการพัฒนาระบบสุขภาพแห่งชาติ จะใช้ ’30 บาท โปร’

 

 

 

ในที่สุด ทั้งสองฝ่ายได้ข้อสรุปว่าให้ชื่อ ‘30 บาท รักษาทุกที่’ และเลือกคิกออฟที่ลานสาเกตนคร หน้าหอโหวด 101 ต.ในเมือง อ.เมืองร้อยเอ็ด จ.ร้อยเอ็ด 

แม้วมนต์เสื่อม
20 ปีที่แล้ว ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้มาเปิดตัวโครงการแก้ไขปัญหาหนี้สินและความยากจน หรือที่เรียกว่า อาจสามารถโมเดล ที่ อ.อาจสามารถ จ.ร้อยเอ็ด

นับจากนั้นมา ร้อยเอ็ดจึงได้ชื่อว่า เป็นที่มั่นของเพื่อไทย และคนเสื้อแดง แต่การเลือกตั้งปีที่แล้ว เพื่อไทยเพลี่ยงพล้ำ ไม่ชนะยกจังหวัด

ทั้งที่ปลายปี 2565 มีการเลือกตั้งนายก อบจ.ร้อยเอ็ด เศกสิทธิ์ ไวนิยมพงศ์ ในนามเพื่อไทย ชนะเลือกตั้งด้วยคะแนนเสียงท่วมท้น ทิ้งห่างอันดับสองนับแสนคะแนน 

ผลเลือกตั้ง สส.ร้อยเอ็ด หนที่แล้ว ถือว่าหักปากกาเซียน จาก สส.ทั้งหมด 8 คน พรรคเพื่อไทย ได้มาแค่ 5 คนคือ ฉลาด ขามช่วง, นรากร นาเมืองรักษ์ ลูกชาย นิรันดร์ นาเมืองรักษ์, จิราพร สินธุไพร, กิตติ สมทรัพย์ และชญาภา สินธุไพร น้องสาวจิราพร สินธุไพร

ส่วน สส.เพื่อไทยหน้าเก่าสอบตก 2 คน ทั้ง ศักดา คงเพชร และนิรมิต สุจารี พร้อมกับหน้าใหม่อย่าง สถาพร ว่องสัธนพงษ์ ก็พ่ายแพ้

 

บ้านใหญ่จุรีมาศ-พลซื่อ
มีข้อน่าสังเกตว่า พรรคก้าวไกล ที่ลงแรงสร้างฐานสีส้มในร้อยเอ็ดไว้เยอะกลับไม่สามารถเบียดแทรกเข้ามาได้แม้แต่เขตเดียว ขณะเดียวกัน ผู้สมัคร สส.ก้าวไกล กลับไปตัดคะแนนผู้สมัคร สส.เพื่อไทย

เมื่อส้มตัดแดง ก็เปิดทางให้บ้านใหญ่ร้อยเอ็ดอย่าง เสี่ยแกละ-อนุรักษ์ จุรีมาศ และเอกภาพ พลซื่อ ได้รับชัยชนะใน 2 เขต

เสี่ยแกละ อนุรักษ์ จุรีมาศ ในสีเสื้อพรรคชาติไทยพัฒนา ชนะเพื่อไทยที่เขต 1 อ.เมืองร้อยเอ็ด ก็เป็นไปตามความคาดหมาย 

ส่วนเอกภาพ พลซื่อ ติดโทษแบน 10 ปี เนื่องจากใบแดงนายก อบจ.ร้อยเอ็ด ได้ส่งภรรยา รัชนี พลซื่อ สังกัดพรรคพลังประชารัฐ ลงสมัคร สส.เขต 3 ปรากฏว่า รัชนีเอาชนะนิรมิต สุจารี อดีต สส.หลายสมัยไปได้

ที่สำคัญ เสี่ยแกละ อนุรักษ์ จุรีมาศ และเอกภาพ พลซื่อ เป็นพันธมิตรการเมือง ตั้งแต่สมัยเอกภาพเล่นการเมืองท้องถิ่น

สำหรับร้อยเอ็ด เขต 7 ชัชวาล แพทยาไทย ดาวรุ่งพรรคไทยสร้างไทย พลิกเอาชนะศักดา คงเพชร อดีต สส.ร้อยเอ็ด 8 สมัย ด้วยคะแนนทิ้งห่างเท่าตัว

ภาพรวมของสนามเลือกตั้งร้อยเอ็ด สะท้อนความตกต่ำของเพื่อไทย รวมไปถึงทักษิณและอุ๊งอิ๊ง 

ตำนานแก้จน อาจสามารถโมเดล กำลังถูกแทนที่ด้วยอาจสามารถน้ำประปาดื่มได้ของคณะก้าวหน้า และธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ

นับวันมนต์ขลังเสื้อแดงจะเสื่อมถอย คนชั้น 14 ก็รู้ดี จึงต้องมาปั่น 30 บาทรักษาทุกที่ ตอกย้ำแบรนด์เดิมที่เมืองร้อยเอ็ด