คอลัมนิสต์

ปิดฉากก้าวหน้า ‘ธนาธร’ ส่งต่อก้าวไกล ‘ชัยธวัช’ ตั้งเป้าล้มบ้านใหญ่

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

คณะก้าวหน้าลาโรง ธนาธร ล้มบ้านใหญ่ไม่สำเร็จ ส่งต่อ ชัยธวัช ปักธงท้องถิ่นก้าวไกล เพาะเป้าสร้างแกน มุ่งเอาชนะระบอบอุปถัมภ์

ปรับขบวนใหม่ ธนาธร คณะก้าวหน้าลาโรง ชัยธวัช ปักธงท้องถิ่นก้าวไกล มุ่งสู่ยุทธศาสตร์เอาชนะบ้านใหญ่ 


3 ปี คณะก้าวหน้า ล้ม อบจ.บ้านใหญ่ไม่สำเร็จ อาศัยกระแส ไม่มีฐานเสียง สู้อิทธิพลระบบอุปถัมภ์ท้องถิ่นไม่ได้   


ก่อนหน้านี้ มีกระแสข่าวว่า พรรคก้าวไกลจะลุยสนามการเมืองท้องถิ่นแทนคณะก้าวหน้า เพื่อสร้างฐานรองรับการเลือกตั้งระดับชาติ 
 

เดิมทีคณะก้าวหน้า เกิดขึ้นเพื่อรองรับ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ และปิยบุตร แสงกนกกุล ได้ทำงานการเมืองท้องถิ่น หลังถูกตัดสิทธิทางการเมือง 10 ปี


เมื่อวันที่ 2 ต.ค. 2566 ชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการคมชัดลึก ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ ได้ยืนยันความชัดเจนเรื่องพรรคก้าวไกลกับการเมืองท้องถิ่น


“สำหรับการเลือกตั้งการเมืองท้องถิ่น จะลุยในนามพรรคก้าวไกล ไม่ใช้ในนามคณะก้าวหน้าแล้ว”


เนื่องจากพรรคก้าวไกล ยุคหัวหน้าต๋อม กำลังเร่งปรับโครงสร้างพรรคระดับอำเภอ และจังหวัด หาสมาชิกพรรคให้ได้ 1 แสนคน โดยตั้งเป้าให้สมาชิกพรรคมีส่วนร่วม ในการสรรหาหรือพัฒนาทีมเพื่อลงเลือกตั้งท้องถิ่นด้วย


“คราวนี้ส่งในนามพรรค ถ้าโครงสร้างพื้นฐานพร้อม เพราะว่าเรื่องนี้ ไม่ใช่แค่เรื่องส่งลงเลือกตั้งอย่างเดียว แต่เป็นการผลักดันนโยบายกระจายอำนาจในทางปฏิบัติ” หัวหน้าต๋อม กล่าว

ล้มบ้านใหญ่ไม่ได้
วันที่ 21 มี.ค. 2563 ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ, ปิยบุตร แสงกนกกุล และพรรณิการ์ วานิช ได้แถลงเปิดตัวคณะก้าวหน้า เพื่อทำงานการเมืองท้องถิ่น


อดีตแกนนำพรรคอนาคตใหม่ทั้ง 3 คนนี้ อยู่ระหว่างการถูกเพิกถอนสิทธิทางการเมืองเป็นเวลา 10 ปี ตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ

 

ธนาธร ลุยสนามเลือกท้องถิ่น 3 ปี ได้เวลาส่งต่อให้ก้าวไกล


สมรภูมิแรกของคณะก้าวหน้าคือ การเลือกตั้งนายก อบจ. และสมาชิกสภา อบจ. เมื่อ 20 ธ.ค. 2563 ทั้งธนาธร ปิยบุตร และช่อ พรรณิการ์ แกนนำคณะก้าวหน้า จัดทีมผู้สมัครนายก อบจ.ลงสนาม 42 จังหวัด และตั้งความหวังจะมีนายก อบจ.สีส้ม อย่างน้อย 10 จังหวัด


ผลปรากฏว่า ทีม อบจ.ก้าวหน้าพ่ายแพ้ราบคาบทั้ง 42 จังหวัด สร้างความเจ็บปวดให้แก่ธนาธร และปิยบุตร พอสมควร


ปลายเดือน มี.ค. 2564 ในสมรภูมิท้องถิ่นระดับเทศบาล คณะก้าวหน้า ส่งผู้สมัครนายกเทศมนตรีนคร 11 แห่ง, นายกเทศมนตรีเมือง 25 แห่ง และนายกเทศมนตรีตำบล 69 แห่ง


คราวนี้ คณะก้าวหน้าได้รับชัยชนะระดับนายกเทศมนตรีตำบล ประมาณ 12 แห่ง


ส่วนสนามเทศบาลนคร เป็นเขตเมืองใหญ่ มีฐานเสียงคนชั้นกลาง คนรุ่นใหม่ แต่คณะก้าวหน้าพ่ายหมด


สมรภูมิท้องถิ่นสุดท้ายคือ นายก อบต. คณะก้าวหน้า ส่งผู้สมัครนายก อบต. 210 ทีมทั่วประเทศ ช่วงปลายปี 2564 


ผลลัพธ์คล้ายสนามเทศบาล ได้รับชัยชนะเป็นหย่อมๆ คือ ทีม อบต. คณะก้าวหน้า ได้รับเลือกเป็นนายก อบต. 38 แห่ง

 

ก้าวไกลเต็มรูปแบบ
วันที่พ่ายแพ้ในสนามเลือกตั้งนายก อบจ. ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ได้เปิดแถลงข่าวโดยเอ่ยคำขอโทษที่ทีม อบจ.ก้าวหน้า ไม่สามารถเข้าไปดำรงตำแหน่งนายก อบจ. แม้แต่ 1 จังหวัด


ผลการเลือกตั้งนายก อบจ.ทั่วประเทศ เมื่อปี 2563 ยังเป็นชัยชนะของซุ้มบ้านใหญ่ และตัวแทนพรรคการเมืองขั้วรัฐบาลประยุทธ์


อย่างเช่นตระกูลคุณปลื้ม จ.ชลบุรี, ตระกูลสะสมทรัพย์ จ.นครปฐม, ตระกูลนาคาศัย จ.ชัยนาท, ตระกูลนิติกาญจนา จ.ราชบุรี, ตระกูลอังกินันทน์ จ.เพชรบุรี, ตระกูลอัศวเหม จ.สมุทรปราการ ฯลฯ


สำหรับการเลือกตั้งท้องถิ่นที่จะมีขึ้นในครั้งต่อไป ตามแนวทางของพรรคก้าวไกล ภายในการนำของชัยธวัช ตุลาธน จะเร่งขยายฐานสมาชิกพรรคไปสู่ระดับอำเภอ 


เมื่อมีฐานที่มั่นสีส้มระดับอำเภอ ก็จะพัฒนาเป็นทีมท้องถิ่น และกรุยทางสู่การเลือกตั้ง อบจ., เทศบาล และ อบต. ได้อย่างมีประสิทธิผล


ความพ่ายแพ้ของคณะก้าวหน้า คือการที่ไม่มีฐานเสียงที่ชัดเจนในท้องถิ่น อาศัยกระแสอย่างเดียว จึงพ่ายหัวคะแนนจัดตั้งของนักการเมืองบ้านใหญ่


การเลือกตั้งนายก อบจ.สมัยหน้า ถ้าพรรคก้าวไกลเดินหน้าเต็มรูปแบบ เชื่อว่าจะยึดเก้าอี้นายก อบจ.ในโซนภาคตะวันออก และจังหวัดปริมณฑลกรุงเทพฯได้ เพราะมีฐานสมาชิกพรรคที่เข้มแข็ง


    
 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ