กกต.หลบพายุ ‘ประวิตร’ โผล่สลับขั้ว หลัง ‘พิธา’ ไม่ผ่านด่าน สว.

ยี่ห้อก้าวข้ามความขัดแย้ง ประวิตร กลับมาติดโผผู้นำกู้วิกฤต หลัง กกต.หลบพายุ เมื่อพิธา ฝ่าป้อมปราการ 250 สว.ไม่สำเร็จ แจ้งเกิดรัฐบาลสลับขั้ว

ด้อมส้มปลุกนิติสงครามชน สว.ปีกขวา อีกฝ่ายแฉปั้นนิตินิยาย หวังสร้างความปั่นป่วน สถานการณ์ข้างหน้า มีแนวโน้มเผชิญหน้าแตกหัก

 

เมื่อ กกต.หลบพายุ ยกคำร้องเรื่องหุ้นไอทีวีของ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ และเรื่องยุบพรรคก้าวไกล พร้อมกับเตรียมรับรอง สส. เพื่อเปิดประชุมสภาฯ ช่วงต้นเดือน ก.ค. 2566 เลือกประธานสภาฯ และโหวตเลือกนายกฯ 

 

หากมองตามไทม์ไลน์ข้างต้น ทุกอย่างดูจะเข้าทางพรรคก้าวไกล เนื่องจากประเด็น กกต.จะลงมือไต่สวนเรื่องหุ้นไอทีวีของพิธานั้น ยังต้องใช้เวลาอีกนาน แต่เส้นทางสู่นายก รัฐมนตรีคงไม่ราบรื่นขนาดนั้น

เมื่อปราการด่านสุดท้ายคือ 250 สว. หลายฝ่ายประเมินว่า พิธา จะได้เสียงสนับสนุนไม่ถึง 376 เสียง เพราะ สว.ส่วนใหญ่คงเลือกงดออกเสียง และฝั่งก้าวไกล เพิ่งได้เสียง สว.เพียง 16 เสียงที่แสดงเจตจำนงจะโหวตหนุนพิธา
 

ก่อนหน้าจะถึงการเลือกนายกฯ ก็จะมีการเลือกประธานสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งจนถึงวันนี้ พรรคเพื่อไทย และพรรคก้าวไกล ยังหาข้อยุติไม่ได้ว่า ตำแหน่งนี้ควรจะเป็นของพรรคไหน 

มีรายงานข่าวว่า พรรคเพื่อไทยต้องการตำแหน่งประธานสภาฯ เพราะถ้า พิธา ไม่ผ่านด่าน สว. ต้องมีการโหวตเลือกนายกฯใหม่อีกครั้ง และการที่มีประธานสภาฯ เป็นคนเพื่อไทยย่อมมีแต้มต่อทางการเมือง

ล่าสุด ไพศาล พืชมงคล เจ้าสำนักธรรมนิติ ได้โพสต์เฟซบุ๊ก Paisal Puechmongkol ว่าด้วยการเมืองเรื่องปรองดองว่า “ลุงป้อมเปิดใจ ขอให้เชื่อใจสักครั้งว่า การเมืองไปไกลแล้ว ประชาชนตื่นตัว ฝ่ายอำนาจนิยมตามไม่ทัน ขอให้เชื่อมั่นว่าด้วยประสบการณ์และความจริงใจ ลุงป้อมจะสามารถนำพาประเทศก้าวข้ามความขัดแย้ง และเดินหน้าประเทศไทยได้..”

ถัดจากนั้น ไพศาล ได้โพสต์อีกสเตตัสว่าด้วยสูตรรัฐบาลข้ามขั้ว ที่ไม่มีทั้งพรรคก้าวไกล และพรรครวมไทยสร้างชาติ ซึ่งสูตรที่ว่านี้ ก็เป็นสิ่งที่มีการพูดถึงฉากทัศน์การเมือง หลังพิธาทะลวงด่าน สว.ไม่สำเร็จ

 

 

ยี่ห้อปรองดอง
แม้กองเชียร์สายนักวิชาการจะหนุน พิธา เป็นนายกฯ แต่ประเมินเสียง สว.แล้ว ดูว่าการจัดตั้งรัฐบาล 312 เสียง ส่อเค้าถึงทางตันมากกว่า

 

อย่างที่รู้กันในหมู่แวดวง สว. หน้าตักของพิธา ยังขาดอีกอย่างน้อย 64 เสียง เพื่อรวมแต้มให้ได้ 376 คะแนน กึ่งหนึ่งของที่ประชุมร่วมรัฐสภา 

นักวิเคราะห์นอกสภาอย่าง จตุพร พรหมพันธุ์ อ่านเกมล่วงหน้ามาหลายสัปดาห์แล้วว่า พรรคเพื่อไทยเร่งฮุบประธานสภาฯไว้ และจ้องหาโอกาสย้ายขั้วไปฝั่ง 188 เสียง(ขั้วรัฐบาลเดิม) เพื่อดึง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ มาเป็นนายกฯ แลกเสียง สว. โหวตผ่าน 376 เสียง 

ชั่วโมงนี้ ลุงป้อมกลายเป็นตัวละครที่ซ่อนอยู่ในเงามืด รอเปิดตัวเมื่อเกมโหวตนายกฯในสภาถึงทางตัน แต่ไม่มีใครคาดเดาได้ว่า เมื่อลุงป้อมโผล่ออกมา บ้านเมืองจะวุ่นวายมากน้อยแค่ไหน

 

 

ไม่มีป้อม-ไม่มีเรา
ทักษิณ ชินวัตร ปฏิเสธเรื่องดีลลับระหว่างพรรคเพื่อไทย กับพรรคพลังประชารัฐ มาโดยตลอด แต่ผู้คนไม่ค่อยเชื่อ เนื่องจากมีคนใกล้ชิด พล.อ.ประวิตร มีสายสัมพันธ์อันดีกับบ้านจันทร์ส่องหล้า

แหล่งข่าวเปิดเผยว่า คุณหญิงจันทร์ส่องหล้า ไม่ได้ติดต่อกับลุงป้อม นับแต่เกิดการเปลี่ยนทางการเมือง ปี 2557 แม้แต่ ป.ป๊อด น้องชายลุงป้อมก็แค่คนรู้จักกัน ไม่ได้สนิทสนมอะไร

กรณีทักษิณจะกลับไทยนั้น น่าจะเป็นเรื่องเฉพาะตัวของนายห้างดูไบ ขนาดคุณหญิงจันทร์ส่องหล้า ยังต้องส่งสัญญาณผ่านสื่อว่า ไม่อยากให้อดีตสามีกลับไทยในช่วงนี้

นายห้างดูไบมีดีลกลับบ้าน อาจเป็นเรื่องที่ลุงบ้านป่ารอยต่อฯ ไม่รู้จริงๆ ก็ได้ ส่วนเรื่องรัฐบาลข้ามขั้ว น่าจะเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นหลัง สว.คว่ำพิธาสำเร็จ