คอลัมนิสต์

แจงยิบเบื้องหลัง คนสนิท "สมเด็จพระวันรัต" โดน 4 ข้อหาหนัก ยักยอกเงินโกง 2 วัด

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

เชื่อมีคนพัวพันอีก หลังเปิดที่มาเบื้องลึก คนสนิท "สมเด็จพระวันรัต" ยักยอกเงินวัดบวรนิเวศวิหาร และวัดในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ขณะที่เจ้าของเงินบริจาคแห่ตรวจสอบเงินอีกหลายโครงการ

นับเป็นอีกเรื่องร้อนในวงการสงฆ์ หลังมีการจับกุมคนสนิทของ "สมเด็จพระวันรัต" อดีตเจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศวิหาร ในข้อหายักยอกทรัพย์จำนวนมากถึง 200 ล้านบาท ซึ่งเป็นสมบัติของวัดบวรนิเวศวิหาร 

 

ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ได้เปิดเผยข้อมูลเบื้องลึกเบื้องหลังว่า

เมื่อประมาณปลายเดือน พ.ย. 2564 นาย น. นามสมมุติ ซึ่งเป็นคนใกล้ชิด ฝ่ายฆราวาสของ "สมเด็จพระวันรัต" ได้ใช้อุบายหลอกลวงให้สมเด็จพระวันรัต ลงลายมือชื่อในใบถอนเงิน

จากนั้น นาย น. ได้นําใบถอนเงินฉบับดังกล่าว มาเขียนจํานวนเงินตามที่ตนเองต้องการ แล้วนําไปแสดงต่อพนักงานธนาคารกสิกรไทย แห่งหนึ่ง เพื่อถอนเงินออกจากบัญชีเงินฝากของ "วัดวชิรธรรมาราม"

ต่อมาประมาณต้นเดือนมกราคม 2565 นาย น. ยังคงใช้อุบายหลอกลวงให้ "สมเด็จพระวันรัต" ลงลายมือชื่อในใบถอนเงินแล้ว นํามาเขียนจํานวนเงินตามที่ตนเองต้องการ อีกเช่นเคย แต่ในครั้งนี้ นาย น. ได้มอบหมายให้ผู้ใกล้ชิดของ "สมเด็จพระวันรัต" อีกคนหนึ่งเป็นผู้นําใบถอนเงินฉบับดังกล่าว

จากนั้นไปแสดงต่อพนักงานธนาคารกสิกรไทย เพื่อถอนเงินออกจากบัญชีเงินฝากของวัดวชิรธรรมาราม แล้วให้ผู้ที่ได้รับมอบหมายทําธุรกรรมซื้อแคชเชียร์เช็ค ของธนาคารกสิกรไทย สั่งจ่ายให้แก่ นาย น. จากนั้น นาย น. ได้นําแคชเชียร์เช็คไปฝากเข้าบัญชีเงินฝากของตนเอง 


ทาง "วัดวชิรธรรมาราม"ได้ตรวจพบการทุจริตของนาย น. จึงได้มาร้องทุกข์กล่าวโทษต่อ พนักงานสอบสวน บก.ป. เพื่อให้ดําเนินคดีกับ นาย น. ตามกฎหมายจนกว่าคดีจะถึงที่สุด ในวันที่ 22 มีนาคม 2565

แจงยิบเบื้องหลัง คนสนิท \"สมเด็จพระวันรัต\" โดน 4 ข้อหาหนัก ยักยอกเงินโกง 2 วัด

หลังจากที่เจ้าอาวาสวัดวชิรธรรมาราม ได้มาร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน กองบังคับการกองปราบปราม เพื่อให้ดําเนินคดีกับ นาย น. ตามกฎหมายแล้ว ทางวัดบวรนิเวศวิหาร เชื่อว่า นาย น. น่าจะทุจริต เอาเงินหรือทรัพย์สินอื่นใดของวัดบวรนิเวศวิหารไปด้วย

จากนั้น  รักษาการเจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศวิหาร จึงมีคําสั่งให้ตรวจสอบทรัพย์สินของ "สมเด็จพระวันรัต" อดีตเจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศวิหารด้วย

 

โดยจากการตรวจสอบ พบว่า "สมเด็จพระวันรัต" ได้เปิดบัญชีเงินฝากส่วนตัว และบัญชีที่เกี่ยวข้องกับวัดบวรนิเวศวิหาร ไว้กับธนาคารกสิกรไทย จํานวนหลายบัญชี  ซึ่งเมื่อประมาณปลายเดือนตุลาคม 2564 นาย น. ได้นําสมุดบัญชีเงินฝากจํานวนหลายเล่ม และบัตรประจําตัวประชาชนของสมเด็จพระวันรัต พร้อมโทรศัพท์มือถือของนาย น. มามอบให้บุคคลใกล้ชิดของสมเด็จพระวันรัตอีกคนหนึ่ง แล้วสั่งการให้บุคคลใกล้ชิดดังกล่าว นําไปติดต่อกับพนักงานธนาคาร เพื่อเปลี่ยนแปลงข้อมูลเครื่องโทรศัพท์ที่ใช้ในการทําธุรกรรมผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์

แจงยิบเบื้องหลัง คนสนิท \"สมเด็จพระวันรัต\" โดน 4 ข้อหาหนัก ยักยอกเงินโกง 2 วัด

 

หลังจากนั้น นาย น.ได้ใช้โทรศัพท์มือถือของตนเอง ทําธุรกรรมโอนเงินจากบัญชีเงินฝากของสมเด็จพระวันรัต และบัญชีอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับวัดบวรนิเวศวิหาร มายังบัญชีเงินฝากของตนเอง เป็นเหตุให้วัดวชิรธรรมาราม ได้รับความเสียหายเป็นเงินจํานวน 80 ล้านบาทเศษ และวัดบวรนิเวศวิหาร ได้รับความเสียหายเป็นเงินจํานวน 100 ล้านบาทเศษ รวมความเสียหายของทั้งสองวัด เป็นเงินจํานวนทั้งสิ้น 190 ล้านบาทเศษ

การกระทํา ของ นาย น. จึงเป็นความผิดฐาน 4 ข้อหาหนัก ประกอบด้วย ฉ้อโกง, ลักทรัพย์, ปลอมเอกสารสิทธิและใช้เอกสารสิทธิปลอม และ ฟอกเงิน โดยวัดบวรนิเวศวิหาร ได้มาร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวนเพื่อให้ดําเนินคดีกับ นาย น. ในวันที่ 1 เมษายน 2565 โดยเมื่อวันที่ 23 มีนาคม 2565 พนักงานสอบสวนได้ดําเนินการออกหมายจับ นาย น. และสามารถ จับกุมตัวนํามาดําเนินคดีตามกฎหมายได้แล้ว

และจากการตรวจค้นบ้านพักของ นาย น. พบทรัพย์สิน เป็นจํานวนมาก อาทิ รถยนต์หรู ยี่ห้อเบนลี่ ยี่ห้อปอร์เช่ ยี่ห้อวอลโว่ ยี่ห้อบีเอ็มดับเบิลยู ยี่ห้อเล็กซัส , เงินสด , เงินฝากในบัญชี , อสังหาริมทรัพย์ , กระเป๋าแบรนเนม , พระเครื่องทองคํา

ขอบคุณภาพ วัดบวรนิเวศวิหาร

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ