คอลัมนิสต์

ชูลุงตู่เลือก "สรัลรัศมิ์ เจนจาคะ" เกมป้อมดิ้นหนีปมพรรคแตก

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

กระแสพรรคแตกสะเทือน "สรัลรัศมิ์ เจนจาคะ" พล.อ.ประวิตร พลิกเกมโค้งสุดท้าย ย้ำสัมพันธ์ 3 ป.Forever ชูรักลุงตู่เลือกเบอร์ 7 หวังกระชากเรตติ้ง คอลัมน์ท่องยุทธภพ โดยขุนน้ำหมึก

เลือกตั้งซ่อมหลักสี่ ไม่เพียงแต่ชี้ชะตา “สรัลรัศมิ์ เจนจาคะ” กับสามี สิระ หากแต่รวมถึงอนาคตพรรคพลังประชารัฐ ในสนามเมืองหลวง

 

พ่ายศึกปักษ์ใต้แถมพรรคแตก “สรัลรัศมิ์ เจนจาคะ” รับเคราะห์เรตติ้งพรรคร่วง พล.อ.ประวิตร พลิกเกมโค้งสุดท้ายชูรักลุงตู่ เลือกเบอร์ 7

 

พรรคขาดเอกภาพ ปราศรัยใหญ่ไม่ได้ผล “สรัลรัศมิ์ เจนจาคะ” ต้องอาศัยกลยุทธ์เครือข่ายของสิระ หากเจาะฐานเสียงรากหญ้าหลักสี่ได้เข้าเป้าก็มีโอกาสชนะ

 

สัปดาห์สุดท้ายของการเลือกตั้งซ่อม ส.ส.กทม.เขต 9 สิระ เจนจาคะ คงเซ็งในอารมณ์ เพราะดันเกิดปัญหาพรรคแตก 21 ส.ส.แยกทางไปตั้งพรรคใหม่ ส่งผลให้คะแนนนิยมของ สรัลรัศมิ์ เจนจาคะ ร่วงตามเรตติ้งพรรค

 

แม้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ จะลงมาเดินหาเสียงช่วยสรัลรัศม์ แต่ก็คงไม่ช่วยให้กระแสความนิยมของพรรคในพื้นที่หลักสี่กระเตื้องขึ้นมา

มีข้อสังเกตอยู่ 2-3 ประการ จากการเคลื่อนไหวของ พล.อ.ประวิตร และพรรคพลังประชารัฐ ประการแรก พัชรินทร์ ซำศิริพงษ์ ส.ส.กทม. และโฆษกพรรคพลังประชารัฐ ออกมาแถลงย้ำว่า พรรคพร้อมชู พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรค

 

สำทับด้วยโค้ดคำพูดประโยคนี้ “ขอยืนยันความสัมพันธ์ของ 3 ป. Forever ว่า ยังคงแน่นเหนียว เป็นหนึ่งเดียวในทุกๆสถานการณ์”

 

ประการที่สอง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่ขับเคลื่อนการบริหารจัดการน้ำที่ จ.สิงห์บุรี ถือโอกาสช่วงที่ปราศรัยกับประชาชน ได้ย้ำว่า “ใครว่าผมไปทะเลาะกับนายกฯ ผมไม่ทะเลาะกับใครหรอก เพราะฉะนั้นผู้สื่อข่าวฟังไว้ด้วยนะครับ ไม่ใช่ถามผมทุกวันเลยว่า ไปว่าผมทะเลาะกับท่านนายกฯ ผมไม่ทะเลาะกับใครหรอกครับ”


วันเดียวกัน พล.อ.ประวิตร ยังให้สัมภาษณ์นักข่าวส่วนกลางยืนยันเรื่อง 21 ส.ส.ที่แยกตัวไปตั้งพรรคใหม่นั้น จบแล้ว และยังอยู่ฝั่งรัฐบาล

 

ท่าทีของ พล.อ.ประวิตร และพรรคพลังประชารัฐ สวนทางบทวิเคราะห์ของกูรูการเมืองที่รัฐนาวาประยุทธ์ไปไม่รอดแล้ว พลังประชารัฐก็ถึงกาลอวสาน เพราะเกิดเหตุกบฏ 19 มกรา

‘ชูลุงตู่อีกครั้ง’

หาเสียงช่วงแรกๆ “สรัลรัศมิ์ เจนจาคะ” ชูคำขวัญเลือกตั้งครั้งเดียว ได้ผู้แทน 2 คนคือ ตัวเธอที่จะไปทำงานในสภาฯ และสิระ ทำงานพื้นที่

 

สิระ เจนจาคะ รู้ดีว่า เลือกตั้งซ่อมเที่ยวนี้ต่างจากเลือกตั้งทั่วไป 2562 สถานการณ์ในพรรคพลังประชารัฐเปลี่ยนไป ความขัดแย้งระหว่างนายกฯประยุทธ์ กับผู้กองธรรมนัส ส่งผลต่อการหาเสียงพอสมควร

มาดามหลี ยังเดินเคาะประตูบ้านในโค้งสุดท้าย

มิหนำซ้ำ ผลเลือกตั้งซ่อมที่ชุมพรและสงขลา พลังประชารัฐพ่ายทั้งสองเขต กำลังจะกลายเป็นโดมิโน่ลามมาถึงเขตหลักสี่

 

สาเหตุหนึ่งของความปราชัยที่ภาคใต้คือ พลังประชารัฐไม่ได้ชูลุงตู่ กลับไปเชียร์ลุงป้อมและผู้กองธรรมนัส และพลาดท่าบนเวทีปราศรัย ถูกพรรคประชาธิปัตย์หยิบฉวยวาทะธรรมนัสไปขยี้จนกลายเป็นกระแสไม่เอาพลังประชารัฐ

 

ย้อนไปเลือกตั้ง 24 มี.ค.2562 กระแสความสงบจบที่ลุงตู่ช่วยให้สิระพลิกเอาชนะแชมป์เก่า สุรชาติ เทียนทอง ชนิดต้องลุ้นนับคะแนนข้ามคืน สิระได้ 34,907 คะแนน เฉือนชนะสุรชาติที่ได้ 32,115 คะแนน

 

ดังนั้น ทีมหาเสียงของ สรัลรัศมิ์ เจนจาคะ จึงหันมาชูลุงตู่อีกครั้ง แม้ครั้งนี้ กระแสลุงตู่จะไม่แรงเท่าปี 2562 แต่ก็ดีกว่าชูลุงป้อม ที่เป็นจุดอ่อนของพรรค

 

‘ถูกรุมกินโต๊ะ’

มิเพียงคู่แข่งเพื่อไทย-ก้าวไกล “สรัลรัศมิ์ เจนจาคะ” ยังต้องฝ่ายเดียวกันตัดแต้ม นั่นคือ พรรคกล้า และพรรคไทยภักดี

 

ในอดีต สิระเคยร่วมขบวนการ กปปส. และเป็นหนึ่งในศิษย์เอกของอดีตพุทธอิสระ แห่งวัดอ้อน้อย จ.นครปฐม หลังจากเป็น ส.ส. สิระก็ห่างเหินจากวัดอ้อน้อยไป แถมตอนหลังมีความขัดแย้งกับ นพ.เหรียญทอง แน่นหนา

 

การที่พรรคไทยภักดี ส่งนักธุรกิจหนุ่ม พันธุ์เทพ ฉัตรนะรัชต์ ลงสนามเลือกตั้งซ่อมหลักสี่หลายคนก็มองว่า ฐานเสียง กปปส.ในเขตนี้ที่เคยเลือกสิระ คงเปลี่ยนไป

 

อีกด้านหนึ่ง พรรค ปชป. สมัยที่แล้ว ส่ง พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ได้ 16,255 คะแนน แต่ ปชป.กลับเลือกที่จะไม่ส่งผู้สมัคร ส.ส.ในเลือกตั้งซ่อมที่เขตหลักสี่ จึงคาดหมายว่า คะแนนผู้การแต้ม คงไหลไปที่พรรคกล้า เนื่องจาก อรรถวิชช์ สุวรรณภักดี ก็คืออดีต ส.ส.พรรค ปชป.

 

เหนืออื่นใด สกลธี ภัททิยกุล รองผู้ว่าฯ กทม. ที่ลาออกจากพลังประชารัฐ พร้อมส่งเสียงเชียร์คือเพื่อนรักชื่อ อรรถวิชญ์ ทำให้หัวคะแนนของสกลธี ที่เคยช่วยสิระ ก็หันกลับไปช่วยพรรคกล้า

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ