คอลัมนิสต์

ระบอบพี่ใหญ่ "ประวิตร" ควบสองพรรค เขย่าฐาน 2 ป.

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

นับถอยหลังยุบสภา "ประวิตร" สร้างปรากฏการณ์พรรคอำพราง น้องรักคุมพรรคใหม่ ดันสันติเป็นแม่บ้านพรรคเก่า เขย่าฐานประยุทธ์-อนุพงษ์ วัดฝีมือกันที่เลือกตั้งครั้งหน้า คอลัมน์ท่องยุทธภพ โดยขุนน้ำหมึก

ไม่ใช่กบฏ 19 มกรา “ประวิตร” ย่อมรู้อยู่แก่ใจดี การขับ 21 ส.ส.ออกจากพรรคพลังประชารัฐ เป็นวิธีการแก้ปัญหาสไตล์พี่ใหญ่หรือบิ๊กบราเธอร์

 

จากอดีตถึงปัจจุบัน “ประวิตร” อุ้มน้องรักสองคน ฝ่าสมรภูมิการเมืองมาตั้งแต่ปี 2552 จนถึง พ.ศ.นี้ น่าจะถึงจุดเปลี่ยนความสัมพันธ์พี่น้อง 3 ป.

 

การเมืองแบบอุปถัมภ์ “ประวิตร” มีความช่ำชองมากกว่าน้องประยุทธ์ จึงมากด้วยเพื่อนมิตรและบริวาร จึงเบ่งบารมีเหนือพรรคพลังประชารัฐ และพรรคเศรษฐกิจไทย

 

อันเนื่องจากจดหมายของ สมศักดิ์ พันธ์เกษม ส.ส.นครราชสีมา ซึ่งมีชื่อเป็น 1 ใน 21 ส.ส. ที่ให้ออกจากสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ ที่ยื่นหนังสือถึง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค เรื่องขอให้ทบทวนมติพรรคพลังประชารัฐ ให้สมาชิกออกจากการเป็นสมาชิกพรรค ปรากฏว่า เนื้อหาของจดหมายดังกล่าว สะท้อนภาพนิติกรรมอำพราง

สมศักดิ์ พันธ์เกษม พยายามจะบอกว่า เหมือนทุกอย่างมีการเซ็ตไว้แล้ว กรณีพรรคเศรษฐกิจไทย ที่มีชื่อ พล.อ.วิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา หัวหน้าพรรค ,อภิชัย เตชะอุบล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ จะเป็นเลขาชิการพรรค 

 

เนื่องจากตัวละครหลักของพรรคเศรษฐกิจไทย อย่าง พล.อ.วิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา น้องรักบิ๊กป้อม และ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ก็น้องแท้ๆของหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ

 

ดังนั้น กรณีพลังประชารัฐ ขับ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า และ 20 ส.ส. จึงไม่ใช่กบฏ 19 มกรา เพราะโดยเนื้อหาแล้ว มีความต่างจากกรณีกบฏ 11 มกรา ของพรรคประชาธิปัตย์ในอดีต

 

ตอนนี้เท่ากับ มีพรรคพลังป้อม 2 สาขา โดยสาขาแรก บิ๊กป้อมดูแลเอง และน่าจะวางตัวให้สันติ พร้อมพัฒน์ เป็นแม่บ้านพรรค ส่วนสาขา 2 พล.อ.วิชญ์ สวมหัวโขนประมุขพรรค แต่ตัวจริงเสียงจริงคือธรรมนัส

‘พลังป้อมสาขา 2’

การก่อเกิดของพรรคเศรษฐกิจไทย “ประวิตร” ได้รับรู้มาแต่แรก ตั้งแต่สมัยพี่น้อง 3 ป.ยังเอกภาพ ที่มีการเตรียมการให้เป็นพรรคสำรอง ที่มีปลัดฉิ่งนำทัพ แต่ภายหลังเกิดเหตุปลดธรรมนัสก็ถูกวางให้เป็นพรรคสำรองของผู้กองเมืองพะเยา

 

ฉะนั้น ตัวจริงเสียงจริงของพรรคเศรษฐกิจไทย ก็คือ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า โดยมี ป.ป๊อด น้องรักของบิ๊กป้อมรับกองหนุน ส่วนบิ๊กน้อย พล.อ.วิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา ก็เป็นเสมือนแม่บ้านพรรค

 

จริงๆแล้ว พล.อ.ประวิตร คงอยากประคองสถานการณ์ความขัดแย้งภายในพรรคพลังประชารัฐ ไปให้ถึงการเลือกตั้งครั้งใหม่ แต่ความระแวงแคลงใจในขั้วประยุทธ์ ที่เตรียมก่อการตั้งพรรคใหม่ โดยอาศัยมวลชน กปปส.เป็นฐาน ทำให้ ร.อ.ธรรมนัส รอต่อไปไม่ได้

 

ความพ่ายแพ้ในศึกเลือกตั้งซ่อมชุมพรและสงขลา กลายเป็นฟางเส้นสุดท้ายที่ทำให้บิ๊กป้อมตัดสินใจให้ผู้กองธรรมนัสพาพลพรรคไปสังกัดพรรคสำรอง สร้างแรงกดดันมาที่ พล.อ.ประยุทธ์

 

‘พลังป้อมสาขา 1’

สำหรับพรรคพลังประชารัฐ “ประวิตร” ก็ยังจะดูแลต่อไป เหมือนแยกเป็นทีมเอ และทีมบี โดยคาดหมายว่า สันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง และรองหัวหน้าพรรค จะได้รับความไว้วางใจจาก ส.ส.ส่วนใหญ่ในพรรคให้เป็นเลขาธิการพรรคคนใหม่

 

ปี 2563 สันติ พร้อมพัฒน์ ยกอาคารรัชดาวัน ONE ตรงข้ามศาลอาญา ให้เป็นที่ทำการพรรคพลังประชารัฐแห่งใหม่ หลังมีปฏิบัติการขับ 4 กุมารออกจากพรรค ตอนนั้น ก็มีข่าวว่า สันติ จะเป็นเลขาธิการพรรค แต่ปรากฏว่า บิ๊กป้อมเลือกอนุชา นาคาศัย เป็นเลขาธิการพรรคระยะหนึ่ง ก่อนจะเปลี่ยนมาเป็น ร.อ.ธรรมนัส

 

เสี่ยสันติไม่ใช่คนเมืองมะขามหวานโดยกำเนิด เริ่มเข้ามาทำธุรกิจพัฒนาที่ดินในหลายอำเภอของ จ.เพชรบรูณ์ บุคลิกพูดน้อย แต่ทำเยอะแบบเสี่ยสันติ จึงทำให้เขาหลอมรวมตระกูลการเมืองในเพชรบูรณ์ มาอยู่ใต้ร่มธงผืนเดียวกัน

 

ล่าสุด สุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน และกรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐให้สัมภาษณ์เรื่องตำแหน่งเลขาธิการพรรค บอกว่า ตนเองยังไม่พร้อม และเชียร์สันติ พร้อมพัฒน์ ที่มีความเหมาะสมมากกว่า

 

อีกด้านหนึ่ง สันติกับกลุ่มสามมิตร ของสมศักดิ์ เทพสุทิน ก็ยังพูดคุยกันได้ บิ๊กป้อมก็น่าจะเลือกสันติ เป็นเลขาธิการพรรคขัดตาทัพไปก่อน จนกว่าจะมีการยุบสภาและเลือกตั้งใหม่

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ