คอลัมนิสต์

พลัง อสม. มดงานด่านหน้า สู้โควิด แม้แต่ WHO ยังอดชื่นชมไม่ได้

พลัง อสม. มดงานด่านหน้า สู้โควิด แม้แต่ WHO ยังอดชื่นชมไม่ได้

13 เม.ย. 2563

อสม. อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน มดงาน หน้าด่านสำคัญสู้โควิด อีกหนึ่งความสำเร็จในการคัดกรอง เฝ้าระวัง ระดับพื้นที่ส่งผลให้ ยอดผู้ติดเชื้อ ลดลง

หลังจากที่สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด19 ได้ลุกลามไปทั่วโลก ล่าสุดวันนี้(13 เม.ย.2563) มีตัวเลขผู้ป่วยติดเชื้อแล้วกว่า 1,853,505 ราย เสียชีวิตแล้ว 114,247 คน รักษาหายกลับบ้าน 423,728 คน ส่วนประเทศที่มีอัตราผู้ป่วยติดเชื้อ ผู้เสียชีวิต สูงเป็นอันดับ 1 ของโลก คือ สหรัฐอเมริกา ที่ไม่น่าเชื้อว่า ยอดผู้ติดเชื้อ ผู้เสียชีวิต ในรอบ 1 เดือนที่ผ่านมาจะมียอดสูงมาก และสูงมาขึ้นเรื่อยๆ

พลัง อสม. มดงานด่านหน้า สู้โควิด แม้แต่ WHO ยังอดชื่นชมไม่ได้

เมื่อมองมาที่ประเทศไทย อยู่อันดับที่ 48 ของโลก ซึ่งวันนี้มีผู้ติดเชื้อใหม่ 28 ราย  ยอดสะสม 2,579 ราย ผู้เสียชีวิตเพิ่ม 2 ราย ยอดรวม 40 ราย ยอดรักษาหายแล้ว 1,288 ราย  ถ้าเอายอดผู้ติดเชื้อ หักกับผู้เสียชีวิตและที่รักษาหายแล้ว ก็จะเหลือผู้ติดเชื้อของทั้งประเทศเพียง 1,251 คน เท่านั้นเอง

พลัง อสม. มดงานด่านหน้า สู้โควิด แม้แต่ WHO ยังอดชื่นชมไม่ได้

ซึ่งนี่ถือว่า เป็นทิศทางที่ดีเยี่ยม สำหรับมาตรการต่างๆ ของรัฐบาลที่ออกมาบังคับใช้ ตั้งแต่ล็อกดาวน์ ปิดพื้นที่ ที่ชุมชนแออัด คนพลุกพล่าน  รวมถึงการประกาศเคอร์ฟิว ปิดสนามบิน  ส่วนการคัดกรองในระดับพื้นที่ก็เข้มข้น อาทิ ตั้งด่านเข้มข้นระดับ ภูมิภาค จังหวัด อำเภอ ตำบล

ก็ต้องยอมรับว่า ผลสำเร็จส่วนสำคัญยิ่ง ก็คือการด่านสกัดที่ผนวกกำลังเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วน ระดับ จังหวัด อำเภอ ตำบล หมู่บ้าน มีความสำคัญยิ่ง  โดยเฉพาะมดงานที่สำคัญในการตรวจคัดกรองระดับหมู่บ้าน อย่าง อสม. หรือ อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน  ซึ่งทุกคนก็ล้วนยกนิ้ว ซูฮก ในความเสียสละ และทุ่มเทกับการทำหน้าที่สำคัญนี้

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวชื่นชมและขอบคุณ อสม. คือด่านหน้าของพวกเรา จากใจคนไทย 70 ล้านคน

พลัง อสม. มดงานด่านหน้า สู้โควิด แม้แต่ WHO ยังอดชื่นชมไม่ได้

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข  ได้กล่าวชื่นชม อสม.ว่า ประเทศไทย ควบคุมโรคได้ดีกว่าหลายประเทศเพราะเรามี อสม. ในทุกจังหวัด อสม.เป็นหน้าด่าน ทำงานหนัก หาข่าวผู้มีความเสี่ยงเฝ้าระวัง ติดตาม กักตัวบุคคล ให้ความรู้ประชาชนว่าจะป้องกันการติดเชื้ออย่างไร ขณะนี้การควบคุมโรค ในจังหวัดต่างๆ เป็นไปได้ด้วยดี เพราะ อสม.เป็นรากฐานอันแข็งแกร่งของระบบสาธารณสุขไทย

พลัง อสม. มดงานด่านหน้า สู้โควิด แม้แต่ WHO ยังอดชื่นชมไม่ได้

พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ก็ได้กล่าวขอบคุณและให้กำลังใจ ผู้ว่าราชการจังหวัด รองผู้ว่าฯ ปลัดจังหวัด นายอำเภอ ปลัดอำเภอ สมาชิกอาสารักษาดินแดน และโดยเฉพาะอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ในการสู้ศึกโควิด-19 ในครั้งนี้

พลัง อสม. มดงานด่านหน้า สู้โควิด แม้แต่ WHO ยังอดชื่นชมไม่ได้

นี่คือเสียงของผู้บริหารประเทศ ที่ได้ออกมาแสคงความชื่นชมและขอบคุณเท่านั้น แม้แต่องค์การอนามัยโลก หรือ WHO ได้ออกมาแสดงความชื่นชมการรับมือการภาวะวิกฤต โควิด-19 นี้ว่า

“พลัง อสม. !!! รายงานของ WHO ประเทศไทย ว่าจากการที่ประเทศไทยมีรายงานผู้ติดเชื้อลดลง ส่วนหนึ่งมาจาก อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน ของไทยจำนวน 1,040,000 คน ของไทยที่ลงพื้นที่เยี่ยมบ้าน ให้ความรู้เรื่องสาธารณสุข การใช้ยา และการเฝ้าระวังการระบาดโควิด-19 รวมถึงทำรายงานถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

นี่คืออีกหนึ่งพลังแฝงที่เมืองไทยมี แต่ประเทศอื่นไม่มี การรับมือการระบาดโควิด 19 แบบไทยๆที่ทรงพลัง และมีประสิทธิภาพมากที่สุด!!!…”

พลัง อสม. มดงานด่านหน้า สู้โควิด แม้แต่ WHO ยังอดชื่นชมไม่ได้

สำหรับ อสม.นั้น หลายคนอาจคิดว่าเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ หรือ ชาวบ้านธรรมดา แต่ที่จริงแล้ว อสม.หรือ อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน นั้นคือ บุคคลที่ได้รับการคัดเลือกจากชาวบ้านในแต่ละกลุ่มบ้านและได้รับการอบรมตามหลักสูตรที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด โดยมีบทบาทหน้าที่สำคัญในฐานะผู้นำการเปลี่ยนแปลงด้านพฤติกรรมสุขภาพอนามัย (Change agents) การสื่อข่าวสารสาธารณสุข การแนะนำเผยแพร่ความรู้ การวางแผน และประสานกิจกรรมพัฒนาสาธารณสุข ตลอดจนให้บริการสาธารณสุขด้านต่าง ๆ เช่น การส่งเสริมสุขภาพ การเฝ้าระวังและป้องกันโรค การช่วยเหลือและรักษาพยาบาลขั้นต้น โดยใช้ยาและเวชภัณฑ์ตามขอบเขตที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด การส่งต่อผู้ป่วยไปรับบริการการฟื้นฟูสภาพ และการคุ้มครองผู้บริโภคด้านสุขภาพ

พลัง อสม. มดงานด่านหน้า สู้โควิด แม้แต่ WHO ยังอดชื่นชมไม่ได้

สำหรับการรับผิดชอบดูแลครัวเรือนในหมู่บ้าน/ชุมชน กำหนดจำนวน อสม.ในหมู่บ้าน/ ชุมชน โดยเฉลี่ย 1 คน รับผิดชอบ 10-15 หลังคาเรือน 

โดย อสม. ต้องมีอายุ 18 ปี บริบูรณ์ สมัครใจและเสียสละเพื่อช่วยเหลืองานด้านสาธารณสุข มีความประพฤติดีอยู่ในกรอบศีลธรรม มีสุขภาพที่ดีทั้งกายและใจ และมีพฤติกรรมทางด้านสุขภาพที่เป็นแบบอย่าง โดยมีค่าตอบแทน ที่ เพิ่งมีการเสนอปรับค่าตอบแทนในอัตรา 2,500 บาท /เดือน สำหรับ อสม.ประจำหมู่บ้าน  ส่วนอสม.ประจำตำบล อำเภอ จังหวัด ระดับชาติ ก็จะได้ค่าตอบแทนที่สูงขึ้นอีก

พลัง อสม. มดงานด่านหน้า สู้โควิด แม้แต่ WHO ยังอดชื่นชมไม่ได้

ฉะนั้นแล้ว คนที่จะมาทำหน้าที่นี้ก็ สำคัญที่สุดคือต้องมีจิตสาธารณะ เสียสละ และอดทน อาสาเข้ามา ทำหน้าที่ ช่วยเหลือบริการประชาชน ด้วยใจบริสุทธิ์เพราะถ้าจะพูดค่าตอบแทนแล้วนั้น สิ่งที่ได้รับมันเพียงน้อยนิดมาก กับความเสียสละทุ่มเท เราจึงพูดได้เต็มปากเลยว่า บุคคลที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จในขั้นต้นนี้ ส่วนหนึ่งก็คือ อสม. ด้วยเช่นกัน