คอลัมนิสต์

'เอกพร รักความสุข'เสนอจุดเปลี่ยนประเทศเปลี่ยนนายกฯ

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

โดย...  สมัชชา หุ่นสาระ



          พรรคการเมืองที่จะลงสนาม 350 เขต แย่งเก้าอี้ส.ส.และมีผลกับหนึ่งร้อยห้าสิบ ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ (ในเขตที่แพ้นำแต้มไปคำนวณ) ต่างทยอยเปิดนโยบายที่จะใช้ลงสู้ศึกกับทุกขั้วผ่านการหย่อนบัตร

 

 

          “พรรคพลเมืองไทย” ที่เปลี่ยนชื่อจาก "พลังพลเมืองไทย” รวมทั้งเปลี่ยนกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ที่นำโดย "เอกพร รักความสุข” อดีตส.ส.สกลนครและอดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคมนั้น มีมุมมองการเมืองวันนี้ในฐานะตัวแทนพรรคเล็กและน้องใหม่ ที่มีบุคลากรดีกรีอดีตรัฐมนตรีหลายคนอยู่ในสภาที่ปรึกษาพรรคร่วมช่วยงานจะลุยสนามเลือกตั้ง


          หัวหน้าพรรคพลเมืองไทยให้สัมภาษณ์ว่า “ผมรับหน้าที่หัวหน้าพรรคเพราะอุบัติเหตุ (เดิมเป็นเลขาธิการพรรคพลังพลเมืองไทย) เมื่อเปลี่ยนชื่อพรรคและผู้บริหารพรรคแล้ว ผมได้หารือกับแกนนำพรรคและสมาชิกพรรคในการทำงานตามอุดมการณ์ที่ตกผลึกกันแล้ว กติกาเลือกตั้งครั้งนี้ย้อนไปสมัยผมลง ส.ส.ครั้งแรกเมื่อราวกว่าสามสิบปีที่แล้ว ตอนนั้นผมย้ายจากส.จ.ลงสมัครส.ส.สกลนคร ชาวบ้านตอนนั้นเลือกคน ไม่ได้เลือกพรรค แม้การเมืองช่วงหลังชาวบ้านจะเลือกพรรคด้วย ผมมองว่าพรรคที่ยังยึดติดแนวคิดในการเลือกตั้งครั้งที่แล้ว ผมมองว่าคำนวณผิดนะ”

 

 

\'เอกพร รักความสุข\'เสนอจุดเปลี่ยนประเทศเปลี่ยนนายกฯ

 


          กติกาวันนี้เปลี่ยนไปคือ 1.กติกาเลือกนายกฯ จากบัญชีที่แต่ละพรรคเสนอได้สามรายชื่อ 2.กติกาบัตรเลือกตั้งใบเดียวเลือกทั้งคนและพรรค ที่มีความหมาย ทุกคะแนนมีค่า ตอนนี้ทราบว่าผู้สมัครบางพรรคอยากให้ระบบเขตแพ้ เพื่อนำแต้มรวมกับปาร์ตี้ลิสต์ บางเขตหวังให้ตัวเองชนะเลย ตรงนี้เกิดการต่อรองราคาว่าพรรคนั้นๆ จะช่วยผู้สมัครเท่าใด หากไม่พอใจจะย้ายพรรค ผมเจอเรื่องนี้มากับตัว และบอกไปว่าพรรคไม่มีแนวทางแบบนี้ หากไม่ประสงค์จะร่วมงานก็จากกันด้วยดี 




          3.กติกาการตรวจสอบนโยบายพรรคที่กกต.ต้องตรวจสอบความเป็นไปได้และการใช้งบประมาณ ตรงนี้หากผู้สมัครบางคนไปหาเสียงและอธิบายอะไรที่เกินไป อาจโดนใบส้ม รวมทั้งบางพรรคที่เพิ่งจัดตั้งระดมทุนและใช้นโยบายรัฐบาลหาเสียง แบบนี้มันเหมาะสมหรือไม่ เพราะไม่เสมอภาค ทุกคนรู้ว่ารัฐบาลนี้มีที่มาแบบใด พรรคใหม่บางพรรคเกิดจากอะไร แล้วใช้นโยบายที่ตัวเองไม่ใช่รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งไปหาเสียงแบบนี้ทำได้ไหม


          เอกพร ระบุว่า “ขอย้ำว่ากติกาที่คสช.และรัฐบาลกำหนด พรรคพร้อมปฏิบัตินะ เราวางสิบนโยบายไว้หาเสียง หนึ่งในนโยบายที่จะทำคือปฏิรูปนโยบายภาครัฐที่หวังสร้างชาวบ้านแข็งแรง ตอนนี้นโบายรัฐที่วางไว้นั้นกลับทำให้ภาคราชการเข้มแข็ง มันสวนทางกับกระแสโลก พรรคคิดปรับระบบเศรษฐกิจใหม่ เพื่อลดความเหลื่อมล้ำให้ได้ โดยจะปรับโครงสร้างเศรษฐกิจไทยไม่ให้ปลาใหญ่กินปลาเล็กอีกต่อไป เราจะเสนอให้ปรับแก้กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจ เราเห็นปัญหาของทุนใหญ่ที่กัดกินระบบเศรษฐกิจไทยอยู่ โดย 5 ปีที่ผ่านมา ทุนใหญ่ครอบงำรัฐบาลอยู่ ทำให้คนจนต้องเสียเงินให้ทุนใหญ่ทุกรูปแบบ”

 

 

 

\'เอกพร รักความสุข\'เสนอจุดเปลี่ยนประเทศเปลี่ยนนายกฯ

 


          เอกพร กล่าวต่อว่า เราเสนอให้ทบทวนให้ร้านสะดวกซื้อทั่วประเทศจ้างงานคนพิการและคนสูงอายุได้หรือไม่ เพื่อช่วยลดภาระของรัฐ ซึ่งพวกเขาต้องไปหาแนวทาง รวมทั้งควรปิดหนึ่งวันในหนึ่งสัปดาห์เพื่อให้หาบเร่ขายได้ เพราะหาบเร่นั้น กทม.บอกว่าต้องงดขายหนึ่งวันในหนึ่งสัปดาห์ มันจะได้เป็นธรรม


          พรรคจะเสนอให้ตั้งกระทรวงอาหารเพื่อขายสินค้าทางการเกษตรเพิ่มมากขึ้น ประเทศเจริญแล้วทุกพื้นที่เขาแปรรูปอาหาร ซึ่งอาหารของคนไทยหากเรารณรงค์การแปรรูป ไทยจะมีอาหารเป็นอาวุธ จะเห็นว่าประเทศออสเตรเลียสามารถส่งออกอาหารลำดับต้นๆ ของโลก ทั้งที่ไม่มีทรัพยากรมากมาย หรืออาหารญี่ปุ่นที่ราคาแพง เกษตรกรอยู่ได้ ตอนนี้ยูเนสโกก็ขึ้นมรกดโลกให้ทับทิมกรอบของไทยแล้ว หากประเทศหันมาวางตำแหน่งทางอาหารให้ดีกว่าเดิม เราสามารถขายอาหารได้ปริมาณมากกว่าเดิม และจะเป็นลำดับต้นๆ ของโลก เนื่องจากเรามีทรัพยากรมากกว่าประเทศอื่น


          “นโยบายอาหารเป็นนโยบายหลักของพรรคพลเมืองไทย เราจะปรับระบบอาหาร จากเดิมกระจายอยู่ในกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงอุตสาหกรรม โดยเฉพาะกระทรวงศึกษาธิการ ที่เราอาจจะปรับให้มีวิทยาลัยอาหาร สอนการทำอาหาร เราจะจัดระบบโครงสร้างใหม่หมด เพราะมองแล้วว่ากระทรวงอาหารคืออาวุธที่จะใช้ต่อรองให้ประเทศไทยทัดเทียมกับนานาชาติ”


          สำหรับนโยบายด้านการเมือง เอกพร กล่าวว่า เราจะไม่หาเสียงด้วยการแบ่งฝั่ง (เผด็จการและประชาธิปไตย) เนื่องจากเราตั้งพรรคขึ้นมาเพื่อขจัดความขัดแย้ง เราจะไม่นำพาให้ประชาชนต้องเจอกีฬาสีอีก เราหวังใช้สวิตเซอร์แลนด์โมเดล (ประเทศเป็นกลาง ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด) กับการเมืองไทยในคราวนี้ คนเสื้อแดงหลายจังหวัดมาลงสมัครกับพรรคเรานะ เพราะเหตุรุนแรงหลายปีคนอีสานเบื่อแล้วกับสิ่งแบบนี้


          “ส่วนผู้สมัครส.ส. พรรคเปิดโอกาสให้ทุกสามารถเข้ามาเป็นสมาชิกพรรคได้ เราต้องการคนรุ่นใหม่ โดยจะส่งผู้ลงสมัครส.ส.ในนามพรรคประมาณ 250 คน พื้นที่กทม.เราบอกสังคมแล้วว่าเราส่งผู้สมัครส.ส.หญิงทั้งสามสิบเขตและกำลังพิจารณาผู้หญิงที่ประกอบอาชีพกลางคืนมาลงสมัคร เพราะกทม.วันนี้คือเมืองกลางคืน ผู้หญิงที่มาร่วมงานกับพรรคเราจะสะท้อนข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นและจะได้วางแนวทางแก้ไขรวมทั้งจะเสนอชื่อคนจนในการสมัครส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ลำดับที่ 74-150 คนจากทั่วประเทศเพื่อให้พวกเขาเป็นตัวแทนสะท้อนปัญหาให้สังคมรับรู้”


          เอกพร บอกด้วยว่า “เราคือพรรคยี่สิบบาทที่ไม่สู้กับพรรคแบงก์พัน เราสู้ตามแนวทางของเรา พรรคนี้คือพรรคครอบครัวที่ทุกคนมีส่วนเป็นเจ้าของ เราไม่มีทุนเยอะ เรามีทุนเพียงให้ผู้สมัครนำไปยื่นใบสมัคร อุปกรณ์หาเสียงบ้างที่มีคนสนับสนุน และมีระบบข้อมูลทางไอทีที่วิเคราะห์แต่ละพื้นที่ไว้แล้ว ซึ่งหากพรรคได้ส.ส.เขต 10 ที่นั่ง ถือว่าประสบความสำเร็จแล้ว และบวกกับส.ส.บัญชีรายชื่อ มั่นใจว่าผู้สมัครของพรรคในเขตที่แพ้การเลือกตั้งจะได้คะแนนเกิน 5,000 คะแนนทุกเขต รวม 250 เขต จะได้ 1,250,000 คะแนน นำมาคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ จะได้ประมาณ 15 ที่นั่ง รวมทั้งหมด 25 ที่นั่ง"


          “เอกพร” กล่าวทิ้งท้ายว่า พรรคพลเมืองไทยจะมีจุดขายคือเปลี่ยนนายกรัฐมนตรี วันนี้ยังไม่ขอพูดชื่อนายกรัฐมนตรีในโควตาของพรรค เพราะเกรงว่าสถานการณ์ทางการเมืองจะเปลี่ยนอีก พรรคจะบอกสังคมว่าพอกันทีได้หรือไม่กับนายกฯ คนปัจจุบันที่ทำงานมาในช่วงหลายปีที่ผ่านมา แต่พรรคจะกล้าเปลี่ยนนายกฯ คนปัจจุบันนี้จากผลการเลือกตั้ง พรรคได้ทาบทามบุคคลที่จะเสนอชื่อเป็นนายกฯ ของพรรคไว้สี่คนที่มีประสบการณ์ระดับศาตราจารย์ อดีตส.ส.ที่มีบทบาทสูง รวมทั้งอดีตรองนายกฯ ด้วย และรอความเคลื่อนไหวในเรื่องนี้ที่พรรคจะแจ้งต่อสังคมต่อไป


          “ต้องปฏิรูปนโยบายภาครัฐที่หวังสร้างให้ชาวบ้านแข็งแรง ตอนนี้นโบายรัฐที่วางไว้นั้นกลับทำให้ภาคราชการเข้มแข็ง มันสวนทางกับกระแสโลกพรรคคิดปรับระบบเศรษฐกิจใหม่ เพื่อลดความเหลื่อมล้ำให้ได้ โดยจะปรับโครงสร้างเศรษฐกิจไทย ไม่ให้ปลาใหญ่กินปลาเล็กอีกต่อไป”


          “พรรคจะบอกสังคมว่าพอกันทีได้หรือไม่กับนายกฯ คนปัจจุบันที่ทำงานมาในช่วงหลายปีที่ผ่านมา แต่พรรคจะกล้าเปลี่ยนนายกฯ คนปัจจุบันนี้จากผลการเลือกตั้ง”

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ