ในระหว่างที่กำลังเกิดประเด็นร้อน เกี่ยวกับภาพยนตร์ซีรี่ส์ต่างประเทศเรื่องหนึ่ง ที่พูดเรื่องเพศในวัยรุ่น ได้กลายเป็นประเด็นที่จุดชนวนให้สังคมไทยกำลังถกเถียงกันอย่างหนักถึงความเหมาะสม
โดยฝ่ายหนึ่งมองว่าการพูดเรื่อง “เพศ” ในกลุ่มเด็กและเยาวชนคือการชี้นำ และยังไม่ใช่วัยที่เหมาะสมจะรับรู้ ขณะที่อีกฝ่ายก็มองว่าเรื่องเพศควรเปิดกว้างเพื่อส่งเสริมความรู้เรื่องเพศอย่างถูกต้อง
ไม่ว่าข้อสรุปควรจะเป็นอย่างไร แต่สำหรับในวันที่ 28-30 มกราคม 2562 นี้ ประเทศไทยกำลังจะมีการจัดประชุมเรื่องสุขภาวะทางเพศครั้งที่ 3 ณ โรงแรมเซ็นทรา บาย เซ็นทารา ศูนย์ราชการและคอนเวนชั่นเซ็นเตอร์ โดยมีหน่วยงานที่ร่วมจัดได้แก่ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงแรงงาน กระทรวงมหาดไทย คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี กองทุนประชากรแห่งสหประชาชาติ (UNFPA) ยูนิเซฟประเทศไทย มูลนิธิแพธทูเฮลท์ (P2H) และมูลนิธิสร้างความเข้าใจเรื่องสุขภาพผู้หญิง นอกจากนั้น ยังมีภาคีและอีกหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่ร่วมสนับสนุนการจัดประชุมในหลายๆ ด้าน
หากจะย้อนกล่าวถึงเส้นทางความเป็นมาของการจัดประชุมระดับชาติเรื่องสุขภาวะทางเพศ ต้องเริ่มจากสถานการณ์ปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยรุ่นของประเทศไทยในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา สะท้อนให้เห็นว่าในช่วงปี 2551-2555 เรามีสถิติแม่วัยรุ่นเพิ่มขึ้นสูงมากอย่างต่อเนื่อง ปัญหานี้กำลังเป็นหนึ่งในอุปสรรคที่กางกั้นอนาคตอันสดใสของเด็กไทยอย่างหนักหน่วง
โดยเฉพาะในปี 2555 เรามีวัยรุ่นที่เป็นแม่ตั้งแต่อายุยังไม่ถึง 20 ปีสูงถึงวันละ 350 คนหรือ 130,000 คนต่อปี จากประเด็นปัญหาดังกล่าว ทำให้ตั้งแต่ปี 2555 เป็นต้นมา สสส.ร่วมกับหลายหน่วยงานได้เริ่มทำงานทั้งด้านการประมวลความรู้ การบูรณาการทำงานร่วมระหว่างต่างหน่วยงาน และร่วมมือกันสนับสนุนการพัฒนาโมเดลการทำงานเรื่องท้องวัยรุ่นในระดับจังหวัดขึ้น ใน 20 จังหวัด
ผลลัพธ์ที่ได้จากความร่วมมือครั้งนั้น คือช่วยให้สามารถรวบรวมบทเรียน และชุดความรู้จากการทำงาน เพื่อนำมาใช้ขับเคลื่อนระดับนโยบายต่อไป
ต่อมาในเดือนกันยายน ปี 2557 สสส. ร่วมกับหน่วยงานหลักและภาคี ในการจัดประชุมระดับชาติเรื่องสุขภาวะทางเพศ ครั้งแรกขึ้น โดยชูประเด็น “การตั้งครรภ์ในวัยรุ่น” เพื่อกระตุกให้ทุกฝ่ายในสังคมได้รู้จักและตระหนักถึงความสำคัญของปัญหานี้ร่วมกันอย่างลึกซึ้งมากขึ้น ผลจากการจัดประชุมครั้งแรกนี้ ส่งผลให้เกิดความตื่นตัวอย่างมากในสังคมและทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง เป็นเงื่อนไขและโอกาส ที่ช่วยให้ สสส. และกระทรวงสาธารณสุข ร่วมกับหลายหน่วยงานและภาคีที่เกี่ยวข้อง สามารถขับเคลื่อนผลักดัน พ.ร.บ.การป้องกันและแก้ไขปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยรุ่น ซึ่ง สนช. ได้ให้การสนับสนุนและผ่านเป็นกฎหมาย มีผลบังคับใช้ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม ปี 2559
ส่วนในปี 2560 ปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยรุ่นได้รับการต่อยอดประเด็นอีกครั้ง ในการประชุมสุขภาวะทางเพศระดับชาติครั้งที่ 2 ภายใต้แนวคิด “เซ็กส์เปิดในวัยรุ่น: เปิดพื้นที่เพิ่มความฉลาดรู้เรื่องเพศ” เพราะสิ่งสำคัญในการทำงานป้องกันและแก้ไขปัญหาท้องวัยรุ่นได้อย่างยั่งยืน คือการที่ผู้ใหญ่ต้องเข้าใจธรรมชาติของวัยรุ่น และต้องเปิดพื้นที่ให้วัยรุ่นได้เรียนรู้เรื่องเพศเพื่อช่วยให้วัยรุ่นปลอดภัยจากทั้งเรื่องท้องไม่พร้อมและปัญหาอื่นๆ ที่ตามมา เพราะการห้ามวัยรุ่นมีเพศสัมพันธ์ไม่มีทางเป็นไปได้ แต่จะทำอย่างไรให้วัยรุ่นได้เรียนรู้และมีพฤติกรรมทางเพศที่เหมาะสมและปลอดภัย ซึ่งในช่วงการประชุมครั้งที่ 2 นี้เป็นช่วงที่มีการประกาศยุทธศาสตร์ชาติ 10 ปี ตาม พ.ร.บ. การป้องกันและแก้ไขปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยรุ่นพอดี จึงมีการนำเป้าหมายลดการตั้งครรภ์ในวัยรุ่น ลง 50% ภายในปี 2569 มาสื่อสารให้สังคมรับรู้อย่างกว้างขวาง เพื่อร่วมกันผลักดันให้บรรลุเป้าหมาย
สำหรับในปีนี้ วาระเด่นของการประชุมระดับชาติ ได้ให้ความสำคัญกับปัญหาการตั้งครรภ์ของวัยรุ่น โดยครั้งนี้จะเป็นโอกาสสำคัญที่รวบรวมเอา นักวิชาการ ผู้เชี่ยวชาญ ผู้ปฏิบัติงาน รวมถึงเยาวชนที่ทำงานด้านสุขภาวะทางเพศ มาร่วมแชร์ความรู้ ประสบการณ์และหลายเรื่องราว ที่หลายคนไม่เคยรู้มาก่อนว่าเคยเกิดขึ้นจริงในประเทศไทย ซึ่งมาในหัวข้อหลักเรื่อง “การตั้งครรภ์ในวัยรุ่น: จากยุทธศาสตร์ สู่การปฏิบัติที่ยั่งยืน”
ทพ.ศิริเกียรติ เหลียงกอบกิจ ผู้อำนวยการสำนักสนับสนุนการควบคุมปัจจัยเสี่ยงทางสุขภาพ สสส. กล่าวว่า สำหรับการประชุมสุขภาวะทางเพศระดับชาติ ครั้งที่ 3 ในปี 2562 นี้ สสส. ร่วมกับหน่วยงานหลักและภาคีเครือข่าย ได้กำหนดหัวข้อหลักของการประชุมคือ “การตั้งครรภ์ในวัยรุ่น : จากยุทธศาสตร์ สู่การปฏิบัติที่ยั่งยืน” เพราะหลังจากพระราชบัญญัติการป้องกันและแก้ไขปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยรุ่น มีผลบังคับใช้ตั้งแต่ พ.ศ. 2559 และมียุทธศาสตร์ 10 ปี เพื่อลดการคลอดในวัยรุ่นลงครึ่งหนึ่งภายในปี 2569 แล้ว ขณะนี้ 5 กระทรวงหลักได้เตรียมออกกฎกระทรวงเพื่อให้หน่วยปฏิบัติทุกระดับเข้าใจบทบาทภารกิจของตนตาม พ.ร.บ. โดยมีสาระสำคัญในการดูแลสนับสนุนให้วัยรุ่นสามารถเข้าถึงมีสิทธิต่างๆ โดยเฉพาะการเรียนรู้เรื่องเพศวิถีศึกษา การได้รับบริการคุมกำเนิดและอนามัยการเจริญพันธุ์ การต้องได้เรียนต่อเนื่องแม้จะตั้งครรภ์ รวมถึงการได้รับสวัสดิการสังคมอย่างเสมอภาค ไม่ถูกเลือกปฏิบัติ
“สสส. มีความยินดีที่หลังจาก พ.ร.บ.ดังกล่าวได้รับการประกาศใช้มาเป็นเวลากว่า 3 ปี ก็มีแนวโน้มว่าสถานการณ์หญิงคลอดบุตรในช่วงอายุ 10-19 ปี กำลังค่อยๆ ลดลง จาก 5 ปีที่แล้ว ที่มีวัยรุ่นต้องเป็นแม่วันละกว่า 350 คน ในปี 2560 ลดลงมาอยู่ที่วันละ 250 คน ทั้งหมดนี้เป็นผลจากการที่หน่วยงานต่างๆ นำนโยบายมาพัฒนาสู่การปฏิบัติจริง โดย สสส. ร่วมกับภาคีเครือข่ายทั้งภาครัฐ องค์กรพัฒนาเอกชน องค์กรระหว่างประเทศ นักวิชาการและภาคประชาสังคม ได้สนับสนุนการขับเคลื่อนเชิงยุทธศาสตร์และลงลึกถึงระดับพื้นที่ และในเดือนนี้ก็ถึงเวลาแล้วที่ทุกหน่วยงาน ทุกภาคส่วนในสังคม จะได้นำข้อมูล ความรู้ บทเรียน และประสบการณ์ จากการทำงานในช่วงที่ผ่านมา มาร่วมแลกเปลี่ยนและนำเสนอให้สังคมได้เรียนรู้ร่วมกัน จึงเกิดเป็นการประชุมระดับชาติสุขภาวะเพศ ครั้งที่ 3 ในแนวคิด การตั้งครรภ์ในวัยรุ่น: จากยุทธศาสตร์ สู่การปฏิบัติที่ยั่งยืน” ทพ.ศิริเกียรติ กล่าว
สำหรับร่มใหญ่ของการประชุมในปีนี้ ประกอบไปด้วย 3 ประเด็น ได้แก่ 1.การขับเคลื่อนยุทธศาสตร์สู่การปฏิบัติที่ยั่งยืน 2.เพศวิถีและสุขภาวะทางเพศของวัยรุ่น และ 3.นวัตกรรมและความรู้ใหม่ๆในการดำเนินงาน โดยมีการประชุมรวม (Plenary) จำนวน 4 ห้อง ควบคู่ไปกับการนำเสนอหัวข้อสำคัญ (Symposium) อีกมากกว่า 40 หัวข้อ
ผอ.สำนักสนับสนุนการควบคุมปัจจัยเสี่ยงทางสุขภาพ สสส. กล่าวแนะนำว่า หนึ่งในการอภิปรายย่อยที่น่าสนใจของการประชุมครั้งนี้ คือการสื่อสารนโยบายเด็กท้องต้องได้เรียน ใน Symposium 1.5 ซึ่งในครั้งนี้ได้เชิญตัวแทนสถานศึกษามาร่วมแลกเปลี่ยนถึงวิธีการจัดระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนที่ตั้งครรภ์ให้ได้รับรูปแบบการศึกษาที่เหมาะสมและต่อเนื่อง โดยเชื่อมั่นว่าประสบการณ์เหล่านี้จะเป็นประโยชน์อย่างมากต่อสถานศึกษาแห่งอื่นๆ ทั่วประเทศ ให้ได้กลับไปทบทวนถึงวิธีการที่เหมาะสมกับสภาพบริบทภายในสถานศึกษา
อีกหนึ่งห้องที่น่าสนใจไม่ควรพลาดคือ Symposium 3.5 การทำงานกับพ่อแม่ใน 3 settings: โรงเรียน ชุมชน และสถานประกอบการ “การสื่อสารเชิงบวกในบ้าน ป้องกันปัญหาได้ทุกเรื่อง” สำหรับห้องนี้มีที่มาจากความเชื่อมั่นที่ว่า ถ้าเด็กหรือวัยรุ่นในบ้านมีคนเข้าใจ รับฟัง เป็นห่วง สามารถพึ่งพิงได้เมื่อกำลังเผชิญกับปัญหา นี่ถือเป็นจุดเริ่มต้นของการลดปัญหาต่างๆ โดยเฉพาะเรื่องเพศ แต่การจะเข้าถึงพ่อกับแม่ได้อย่างไร คือโจทย์สำคัญของเรื่องนี้ ซึ่งในห้องนี้ผู้เข้าร่วมจะได้รับฟังประสบการณ์ทำงานร่วมกับผู้ปกครอง เริ่มจากการทำงานร่วมกับพ่อแม่ของสถานศึกษา การทำงานร่วมกับพ่อแม่ที่อยู่ในชุมชนเมือง และชนบท รวมทั้งพ่อแม่ที่เป็นพนักงานอยู่ในสถานประกอบการ
รวมถึงพลาดไม่ได้ กับช่วงพิธีเปิดในวันที่ 28 มกราคม 2562 เวลา 10.00-12.00 น. กับการปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ “ประเทศไทยกับการขับเคลื่อนเรื่องการตั้งครรภ์ในวัยรุ่น” โดย พลเอกปัฐมพงศ์ ประถมภัฏ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และร่วมรับชมการแสดงพลังเยาวชน โดยแกนนำเยาวชนหลายภูมิภาค ตลอดจนเพลิดเพลินไปกับกิจกรรมสุดสร้างสรรค์ที่ “ลานเรียนรู้ ปฏิบัติการชุมชนสู่สุขภาวะทางเพศ” ผู้สนใจเข้าร่วมการประชุมสามารถสมัครได้ทาง goo.gl/oronKx
สอบถาม โทร. 097-0454410 หรือ อีเมล์ [email protected]
ข่าวที่เกี่ยวข้อง