Lifestyle

สสส.เชิดชู “ครูดีไม่มีอบายมุข” ครูต้นแบบสังคมคุณภาพยุค 4.0

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ความเปลี่ยนแปลงของโลกยุคปัจจุบันที่ได้เปลี่ยนสภาพสังคมทั่วโลกไปอย่างสิ้นเชิง จึงปฏิเสธไม่ได้ว่าบทบาทของ “ครู” ยุคใหม่ อาจต้องเดินไปไกลกว่าแค่การผู้สอนหรือประสิทธิ์ประสาทวิชาความรู้แต่เพียงอย่างเดียว

เพราะต้องยองรับว่าทุกวันนี้เด็กๆ ใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่ในโรงเรียนไม่น้อยกว่าที่บ้าน “โรงเรียน” จึงกลายเป็นที่พึ่งพิงสำคัญ และยังจะช่วยสร้างภูมิคุ้มกัน ภัยร้ายที่เป็นต้นเหตุทำลายอนาคตและสุขภาพ อาทิ เหล้า บุหรี่ ที่กำลังเข้าถึงเยาวชนอายุน้อยลงไปเรื่อยๆ

ครูยุคใหม่จึงต้องแบกรับภาระอันยิ่งใหญ่ กับการทำหน้าที่ดูแลบุคคลสำคัญของชาติ บ่มเพาะกล่อมเกลาลูกหลานให้เป็นบุคลากรคุณภาพ เพื่อเป็นพลังขับเคลื่อนประเทศในอนาคตให้เติบโตอย่างมีคุณภาพ

ที่สำคัญเมื่อสังคมเชื่อว่า “ครู” ยังควรเป็นแบบอย่างที่ดี เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้กับสมาชิกคนอื่นๆ ในสังคมด้วย

โครงการ ครูดีไม่มี อบายมุข และโรงเรียนดีไม่มีอบายมุข จึงเป็นอีกโครงการดีๆ ที่เกิดจากความตระหนักดังกล่าว ซึ่งสำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า (สคล.) และสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) กระทรวงศึกษาธิการ และภาคีเครือข่าย โรงเรียนคำพ่อสอน เครือข่ายครูดีไม่มีอบายมุข ได้คัดเลือกบุคลากรการศึกษาที่มีคุณสมบัติ ปลอดเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ทุกชนิด บุหรี่ และการพนัน  อีกทั้งทำหน้าที่ ช่วยเหลือนักเรียน ชุมชน ให้มีสิ่งแวดล้อม ที่ปลอดอบายมุขขึ้นต่อเนื่องมาเป็นรุ่นที่ 8 แล้ว

โดยในปีนี้ยังคงจัดให้มีพิธีมอบโล่ประกาศเกียรติคุณครูดีไม่มีอบายมุข รุ่นที่ 8 โรงเรียนดีไม่มีอบายมุข รุ่นที่ 3 เนื่องในวันครูแห่งชาติ พุทธศักราช 2562  โดยได้รับเกียรติจาก นพ.ธีระเกียรติ  เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ  เป็นประธานในพิธีมอบโล่ประกาศเกียรติคุณ ครูดีไม่มี อบายมุข (รุ่นที่ 8)  และโรงเรียนดีไม่มีอบายมุข (รุ่นที่ 3) ประจำปี พุทธศักราช 2562  สำหรับปีนี้ มีผู้เข้าร่วมการรับโล่ประกาศเกียรติคุณจำนวน  356 คน เป็นประเภทครูดีไม่มีอบายมุข (รุ่นที่ 8) จำนวน 319 คน ได้แก่ (1.)ระดับบุคลากรเขตพื้นที่การศึกษา จำนวน 21 คน  (2) ระดับผู้บริหารสถานศึกษา จำนวน 83 คน (3) ระดับครูผู้สอน จำนวน 215 คน  และโล่ประกาศเกียรติคุณโรงเรียนดีไม่มีอบายมุข(รุ่นที่ 3) จำนวน 37 โรงเรียน

นพ.คำนวณ อึ้งชูศักดิ์ คณะกรรมการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวว่า ปัจจุบันเราพบปัญหาเยาวชนที่เป็นนักสูบ นักดื่มหน้าใหม่ ที่อายุน้อยลงเรื่อยๆ ซึ่งต้องอาศัยการทำงานของคุณครูเป็นผู้ดูแลในบ้านหลังที่ 2 เนื่องจากปัญหาเหล้า บุหรี่ เป็นปัญหาระดับชาติ ที่ต้องร่วมมือกัน แก้ไขอย่างจริงจัง  เพราะเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และบุหรี่  เป็นประตูนำเยาวชนไปสู่สิ่งเสพติดที่ร้ายแรงขึ้น  ซึ่งมีผลงานวิจัยรองรับ อย่างชัดเจน มิเช่นนั้นประเทศเรา จะสูญเสีย ทรัพยากรมนุษย์ ซึ่งเป็น ทรัพยากรที่มีค่าของประเทศไปกับน้ำเมา  นอกจากนั้นครูมีบทบาทสำคัญ ที่ทำให้ชุมชนรอบโรงเรียนปลอดภัยจากน้ำเมามากขึ้น เช่น ให้นักเรียนชวนพ่อแม่เลิกเหล้า ซึ่งงานวิจัยชี้ว่าได้ผลดีที่สุด

“หากกระทรวงศึกษาธิการ สามารถบูรณาการการป้องกันแก้ไขปัญหาเหล้า บุหรี่ การพนัน เข้าในหลักสูตรการศึกษาชาติ เพื่อสร้างความตระหนักรู้แก่นักเรียน เหมือนการให้วัคซีนอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ระดับชั้นอนุบาล ประถมศึกษา มัธยมศึกษา จนเกิดการเห็นคุณค่าและภาคภูมิใจในตนเอง รวมทั้ง การสร้างครูดีไม่มีอบายมุข  ให้เป็นแบบอย่างแก่นักเรียนควบคู่ไปด้วย นับว่าเป็นปัจจัยบวก นำไปสู่ความสำเร็จในการป้องกันแก้ไขปัญหาเหล้า บุหรี่ การพนัน ต่อชาติบ้านเมืองได้เป็นอย่างดี”

ดร.จีรวรรณ  คุ้มพร้อม(สำลีพันธ์) โรงเรียนเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี ประธานครูดีไม่มีอบายมุข (รุ่นที่ 8) กล่าวว่า คงไม่มีใครปฏิเสฐว่าอบายมุข ไม่ว่าจะเป็นเหล้า บุหรี่ เข้าถึงเยาวชนอายุน้อยลงไปเรื่อยๆ หลังจากการประชุมปฏิบัติการระดับชาติ “การจัด การศึกษา เพื่อป้องกันแก้ไขปัญหาเหล้า บุหรี่ ด้วยคำพ่อสอน” ครั้งที่ ๓ เครือข่ายครูดีไม่มีออบายมุข และโรงเรียนดีไม่มีอบายมุข ๔ ภาค ได้มีการร่วมกันตั้งปณิธาน และร่วมกันหารือวิธีการแก้ไขปัญหา เพื่อเป็นข้อเสนอให้เกิดการจัดการศึกษา เพื่อป้องกันแก้ไขปัญหาเหล้า บุหรี่ อบายมุขให้ประเทศ ต่อท่านรัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการ ดังนี้  (1) กำหนดให้การปลอดเหล้า บุหรี่ อบายมุข เป็นคุณสมบัติสำหรับผู้เป็นครู (2) ผู้นำระดับสูง เป็นตัวอย่างและแบบอย่างที่ดีให้ครู และนักเรียนทั้งประเทศ (3) สนับสนุนโครงการครูดีไม่มีอบายมุขอย่างต่อเนื่องจริงจังและยั่งยืน เพื่อให้ครูดีไม่มีอบายมุข มีจำนวนมากขึ้น (4) พัฒนาหลักสูตรในการป้องกันแก้ไขปัญหาเหล้าบุหรี่ อบายมุข โดยวางรากฐานต่อเนื่อง ตั้งแต่ระดับอนุบาล  ประถมศึกษา มัธยมศึกษา อุดมศึกษา (5)กำหนดให้เป็นเกณฑ์ ในการประเมินครูผู้ช่วย/ประเมินเลื่อนเงินเดือน และวิทยฐานะเป็นต้น

ขณะที่ เสียงจากหนึ่งครูผู้ได้รับรางวัล ชดาษา จันพรมทอง โรงเรียนบ้านนาม่วง สพป.สงขลา 3 ครูดีไม่มีอบายมุขรุ่นที่ 7  เปิดเผยว่า  ได้พยายามเขียนส่งเพื่อสมัครเข้ารับการคัดเลือกครูดีไม่มีอบายมุขและโรงเรียนดีไม่มีอบายมุข มาหลายรอบ จนได้รับคัดเลือกเป็นครูดีฯ รุ่นที่ 7 และในปีนี้ได้รับเลือกเป็นโรงเรียนดีฯ(รุ่น 3) สำหรับการเป็นครูดีฯ ซึ่งได้น้อมนำกระแสพระราชดำรัส พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช  มาใช้ปฏิบัติเป็นแก่นสำคัญ “ให้ครูรักเด็ก..ให้เด็กรักครู” นำมาให้เป็นกิจกรรมสู่ภาคปฏิบัติ ที่สามารถแก้ปัญหาพฤติกรรมคนในสังคม คือการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ สูบบุหรี่ และอบายมุขอื่นๆได้ โดยทำอย่างต่อเนื่อง

“นับเป็นสิ่งที่ประทับใจอย่างมาก หลังจากได้นำการให้ความรัก ความปรารถนาดี การสวมกอดเด็กนักเรียน หรือ แม้จะเป็นคำพูดต่างๆในเชิงบวก ทำให้เกิดความไว้วางใจ เด็กนักเรียนเขาจะยินดีที่จะบอกกล่าวเล่าเรื่องราวการกระทำในสิ่งต่างๆที่เขาได้ประพฤติ บางสิ่งที่ต้องการคำปรึกษา คำแนะนำ หรือบางเรื่องที่ต้องการคำชื่นชมเหล่านั้น จากเด็กที่แก่นมาก ดื้อมากๆ พวกเขาเปลี่ยนพฤติกรรมจนคุณครูบางคน หรือแม้ผู้ปกครองมีความแปลกใจ ทำให้คิดว่า นั่นคือการเป็นครูที่แท้จริง” ครูดีฯกล่าวทั้งน้ำตาด้วยความปิติ

ด้าน วราภรณ์ คำปา โรงเรียนบ้านลวงเหนือ สพป.เชียงใหม่ ผู้แทนคณะทำงานเครือข่ายโรงเรียนคำพ่อสอน เปิดเผยถึงกิจกรรมครั้งนี้ว่า เข้าร่วมเป็นคณะทำงานตั้งแต่ ปี 2555 และได้รับโล่ครูดีไม่มีอบายมุขตั้งแต่ รุ่นที่ 4 การเข้าร่วมเป็นครูดีไม่มีอบายมุขจะมีเกณฐ์การคัดเลือก คือจะต้องทำงานรณรงค์ จากการเรียนการสอนมาไม่น้อยกว่า 2 ปี จึงจะสามารถเขียนเรื่องส่งมาเพื่อรับการพิจารณาคัดเลือกได้  สำหรับงานที่ทำเริ่มจากให้ตนเองเป็นแบบอย่าง รณรงค์ในห้องเรียนของตนเองซึ่งเป็นครูประจำชั้น มาจนถึงนักเรียนทั้งโรงเรียน ตลอดจนครูและนโยบายของทางโรงเรียน ก็จะไม่มีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในงานเลี้ยงในโรงเรียน แม้แต่ชุมชนรอบข้างจะมีป้ายรณรงค์รอบโรงเรียน  ซึ่งทางอำเภอประกาศเป็นมีมาตรการควบคุบโดยจะไม่มีการขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในรอบรั้วโรงเรียนในระยะ 30 เมตร และในปีนี้ทางโรงเรียนบ้านลวงเหนือก็ได้มารับรางวัลโรงเรียนดีไม่มีอบายมุขเป็นรุ่นที่ 3 นี้ด้วย

นอกจากการมอบโล่เกียรติยศแห่งความภาคภูมิใน เหล่าครูจากเครือข่ายทั้งหมดที่มายังต่างร่วมตั้งปณิธาน พร้อมประกาศเจตนารมณ์ ครูดีไม่มีออบายมุข /โรงเรียนดีไม่มีอบายมุข โดยน้อมนำกระแสพระราชดำรัสพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช “ให้ครูรักเด็ก..ให้เด็กรักครู” ใช้เป็นหลักในการขับเคลื่อนการทำงาน เน้นข้อเสนอ..ให้เกิดการจัดการศึกษา เพื่อป้องกันแก้ไขปัญหาเหล้า บุหรี่ อบายมุขให้ประเทศโดยพร้อมเพรียงกันทั้ง 4 ภาค ทั้งจะนำข้อเสนอให้เกิดการจัดการศึกษา เพื่อป้องกันแก้ไขปัญหาเหล้า บุหรี่ อบายมุขให้ประเทศ  เพื่อเป็นข้อเสนอต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ