มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ ใหม่ “ครอสโอเวอร์ครองใจคนรุ่นใหม่”

ตั้งแต่มีกระแสข่าวว่า มิตซูบิชิ มอเตอร์ส จะเปิดตัวรถยนต์ครอสโอเวอร์  “มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ ใหม่” ก็ก่อให้เกิดปรากฏการณ์ใหม่ในอุตสาหกรรม ยานยนต์ไทย มีการติดตามข่าวสารรายละเอียดกันอย่างคึกคัก และกลายเป็น “ทอล์ค ออฟ เดอะ ทาวน์” ในวงกว้าง

กระแสยิ่งแรงต่อเนื่อง เมื่อมิตซูบิชิ จัดกิจกรรมทดสอบ มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ ใหม่ กับสื่อมวลชนก่อนเปิดตัวอย่างเป็นทางการ ในเส้นทางที่หลากหลายกว่า 3,000 กม. เริ่มต้นที่จังหวัดเชียงราย ผ่านจังหวัดในภาคเหนือ ภาคอีสาน ภาคกลาง ไปจนถึงภาคใต้ที่จังหวัด สุราษฎร์ธานี โดยในแต่ละเส้นทาง และจุดแวะพักต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นโชว์รูมของดีลเลอร์ในท้องถิ่น ร้านอาหาร ร้านกาแฟ ปรากฏว่ามีผู้ที่สนใจเข้ามาดูรถ และสอบถามรายละเอียดกันอย่างเนืองแน่น 

ขณะที่เสียงจากสื่อมวลชนที่ร่วมเดินทางไกลข้ามหลายจังหวัดเพื่อทดสอบ ต่างก็มีแนวคิดไปแนวทางเดียวกัน คือ ความประทับใจที่ได้จาก มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ ใหม่ ที่สามารถฝ่าฟันเส้นทางต่างๆ ที่หลากหลาย ถึงที่หมายอย่างปลอดภัยและประทับใจ เพราะเส้นทางที่ใช้ถือว่ามีความท้าทายสมรรถนะด้านต่างๆ  เช่น ทางขึ้นลงเขาที่คดโค้ง เหมือนตั้งใจจะหาคำตอบจากเครื่องยนต์ ช่วงล่าง การยึดเกาะถนน ซึ่ง มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ ใหม่ ตอบสนองการใช้งานเส้นทางเหล่านี้ได้ดี เพิ่มความสนุกสนาน ในการเดินทางมากขึ้น 

ถนนมีทั้งทางหลวงระหว่างจังหวัด และทางเล็กๆ แบบ 2 เลนสวนทาง ท้าทายกำลังของเครื่องยนต์ในการเร่งแซงได้ อย่างปลอดภัย และยังมีบางช่วงที่เป็นเส้นทางนอกถนน ขรุขระ เป็นหลุมเป็นบ่อ น้ำขัง แต่ไม่เป็นอุปสรรคสำหรับ มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ ใหม่ แต่อย่างใด ต้องยกความดีความชอบให้กับความแข็งแกร่งของระบบช่วงล่าง และการออกแบบให้รถมีระยะสูงใต้ท้องรถ 205 มม.มากกว่าใครในตลาดเดียวกัน แม้ใต้ท้องรถจะสูง แต่วิศวกรผู้พัฒนารถ ก็ไม่ลืมที่จะออกแบบให้มีจุดศูนย์ถ่วงที่ต่ำ ช่วยให้รถทรงตัวดี ลดการโคลงของตัวถัง ทำให้นั่งได้สบาย และควบคุมได้ง่าย และทันทีที่มิตซูบิชิ ประกาศเปิดตัว “มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ ใหม่” อย่างเป็นทางการในงาน “บิ๊ก มอเตอร์ เซล 2018” ก็ได้รับการตอบรับจากผู้ชมในทันที และเพียงไม่กี่วัน
ของงาน สามารถสร้างยอดจองได้มากกว่า 700 คัน ขณะที่ยอดจองทั่วประเทศเฉพาะเดือนสิงหาคมทำได้ ถึง 3,000 คัน และ ถึงวันนี้ก็ยังมียอดจองที่หลั่งไหลเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งไม่ใช่เรื่อง น่าแปลกใจ เพราะไม่เพียงแต่เมืองไทยเท่านั้น แต่ในหลายๆ ประเทศที่ทำตลาด ไม่ว่าจะเป็น อินโดนีเซีย หรือ ฟิลิปปินส์ ต่างก็ได้รับการตอบรับอย่างล้นหลามด้วยกันทั้งสิ้น  

ทั้งนี้ มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ ใหม่ มาพร้อมกับเครื่องยนต์เบนซิน MIVEC DOHC 16 วาล์ว ความจุ 1.5 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 105 แรงม้าที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 141 นิวตันเมตรที่ 4,000 รอบ/นาที ซึ่งรองรับการขับขี่ในทุกรูปแบบ และทุกเส้นทางไม่ว่าจะเป็นทางราบ หรือเส้นทางที่ต้องอาศัยกำลังในการ
ปีนไต่ก็ตาม

เครื่องยนต์รุ่นนี้ยังได้รับการพัฒนาให้มีอัตราสิ้นเปลืองที่ดีขึ้น ลดเสียงรบกวนและแรงสั่นสะเทือน ซึ่งเป็นอีกหนึ่งในความพึงพอใจของผู้ใช้งานจากความเงียบและนุ่มนวลในการเดินทาง นอกจากเรื่องของสมรรถนะแล้ว สิ่งที่ทำให้ มิตซูบิชิ เอ็กแพนเดอร์ใหม่ ประสบความสำเร็จอย่างสูง อีกสิ่งหนึ่งก็คือ ประโยชน์ใช้สอยของรถคันกะทัดรัดคันนี้ รวมถึงความสะดวกสบายของห้องโดยสารที่กว้างขวาง ซึ่งเป็นสิ่งที่ตรงใจกลุ่มผู้บริโภค เพราะเป็นรถที่สามารถตอบสนองความต้องการใช้งาน การใช้ประโยชน์ได้หลากหลาย โดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ ที่เริ่มต้นสร้างครอบครัวและต้องการรถครอสโอเวอร์ที่ใช้งานได้เอนกประสงค์ และสร้างความพึงพอใจให้กับผู้โดยสารทุกคนในรถ ไม่เฉพาะผู้ขับขี่เท่านั้น ในระดับราคาที่เข้าถึงได้ง่าย 

มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ ใหม่ มี 2 รุ่น ให้เลือก ประกอบด้วย                

1.รุ่น GLS-LTD ราคา 779,000 บาท

2.รุ่น GT ราคา 849,000 บาท  

ขณะที่ มร.โมริคาซุ ชกกิ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า เอ็กซ์แพนเดอร์ ใหม่ ไม่เพียงแต่เป็นการบุกเซ็กเมนท์ใหม่ ในประเทศไทยเท่านั้น แต่ยังเป็นการขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์ และการเน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นของ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ที่ต้องการผลักดันและสร้างแรงบันดาลใจให้แก่ลูกค้า  ด้าน มร. ซึเนฮิโระ คุนิโมโตะ กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ สายงานการออกแบบผลิตภัณฑ์มิตซูบิชิ มอเตอร์ส คอร์ปอเรชัน ประเทศญี่ปุ่น กล่าวว่า  เอ็กซ์แพนเดอร์ ใหม่ มีแนวคิดในการพัฒนาเช่นเดียวกับรถทุกคันของ มิตซูบิชิ คือ การเริ่มต้นที่การฟังเสียงจากลูกค้า ซึ่งทำให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่ตรงกับความต้องการ และในส่วนของ มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ ใหม่ ก็เป็นรถที่จะช่วยสร้างสปิริตแห่งการผจญภัย เชิญชวนให้เจ้าของรถได้ออกไปค้นหาและเปิดประสบการณ์ใหม่

ทั้งนี้การออกแบบ มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ ใหม่ ยึดแนวคิด Advanced Dynamic Shield ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ด้านการออกแบบของ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส โดยด้านหน้าตัวรถมีลักษณะคล้ายโล่ เป็นสัญลักษณ์ที่แสดงถึงการปกป้องคุ้มครองทุกคน ทั้งผู้ขับขี่และผู้โดยสาร รวมถึงบุคคลภายนอกรถอีกด้วย เป็นการผสานทั้งการปกป้องความปลอดภัยและสมรรถนะเหนือระดับเอาไว้ด้วยกัน

นอกจากสมรรถนะ ความสะดวกสบายแล้ว มิตซูบิชิ เอ็กแพนเดอร์ ใหม่ ยังมาพร้อมกับอุปกรณ์มาตรฐานต่างๆ ที่ครบครัน เช่นรุ่น จีที ซึ่งเป็นรุ่นสูงสุดนั้น มีทั้งไฟตัดหมอกหน้า มือจับประตูและคิ้วขอบกระจกโครเมียม แผงกันกระแทกด้านหน้าและด้านหลัง คิ้วด้านข้างสีเงิน ทำให้มีรูปลักษณ์ภายนอกที่สะท้อนจิตวิญญาณแห่งการผจญภัยและความโฉบเฉี่ยวล้ำสมัย

ภายในห้องโดยสาร นอกจากความกว้างขวางที่ทำให้ ผู้โดยสารรู้สึกปลอดโปร่งจากพื้นที่ช่วงขาและไหล่ที่กว้างขวาง และยังมีประโยชน์ใช้สอยเต็มที่ด้วยเบาะนั่งหุ้มหนัง 3 แถว รองรับได้สูงสุด 7 ที่นั่ง ส่วนผู้ที่ต้องการขนสัมภาระ ก็สบายใจได้กับพื้นที่บรรทุกที่กว้างขวาง และหากไม่พอ หรือว่าจำเป็นจะต้องบรรทุกสิ่งของที่มีขนาดใหญ่ ก็สามารถพับเบาะนั่ง 2 แถวหลังได้ และ
ที่สำคัญคือพับได้แบบแบนเรียบ ทำให้ใช้ประโยชน์จากพื้นที่ได้เต็มที่ และง่ายต่อการขนขึ้นขนลง ไม่ติดขัด ในรุ่นท็อป ยังติดตั้งหน้าจอแสดงผลข้อมูลเอนกประสงค์แบบสามมิติ TFT ขนาด 4.2 นิ้ว มองเห็นได้ชัดเจนในทุกสภาพแสง พร้อมจอภาพระบบสัมผัสขนาด 6.2 นิ้ว พวงมาลัยและหัวเกียร์หุ้มหนัง ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติหรือ ครูส คอนโทรล ควบคุมได้ง่ายด้วยปุ่มซึ่งติดตั้งบนพวงมาลัย ทำให้ไม่ต้องละมือจากการควบคุมรถแต่อย่างใด ด้วยจุดเด่นที่ครอบคลุมในทุกๆ ด้าน ทำให้ มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ ใหม่ จึงเป็นครอสโอเวอร์ แนวคิดใหม่ที่รวมความโดดเด่นของ รถซีดาน และ เอสยูวี เข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว 

นอกจาก มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ ใหม่ ที่เป็นดาวเด่น ในงาน บิ๊ก มอเตอร์เซล 2018 แล้ว มิตซูบิชิยังประสบความสำเร็จอย่างสูงกับรถอีกรุ่น คือ รถ เอนกประสงค์ พีพีวี “ปาเจโร่ สปอร์ต” ที่คว้ารางวัล “บิ๊ก เบสท์ คาร์ ออฟ เดอะ เยียร์ 2017–2018” มาครอง โดยได้รับรางวัลดีเด่นยอดเยี่ยมประเภทรถเอนกประสงค์ พีพีวี เป็นปีที่ 3 ติดต่อกัน จากการที่คณะกรรมการตัดสินพิจารณาถึงคุณสมบัติที่เหนือชั้น สมรรถนะทันใจ การขับขี่ดี และอุปกรณ์ภายในหรูหราครบครันกว่ารถในพิกัดเดียวกัน  รวมถึงการประสบความสำเร็จจากยอดจำหน่ายตั้งแต่เดือนมกราคม – ธันวาคม 2560 ที่ทำได้ทั้งสิ้น 14,454 คัน

รางวัล บิ๊ก เบสท์ คาร์ และ รางวัล บิ๊กไบค์ ออฟ เดอะ เยียร์ ถือเป็นรางวัลแห่งปี ที่มอบให้กับรถยนต์และรถจักรยานยนต์ที่มีความยอดเยี่ยม จากการพิจารณาคัดเลือกของกองบรรณาธิการ นิตยสารยานยนต์ในเครือ ยานยนต์สแควร์ กรุ๊ป ผู้จัดงาน บิ๊ก มอเตอร์ เซล โดยก่อนหน้านี้ในปี 2559 มิตซูบิชิ ปาเจโร่ สปอร์ต ประสบความสำเร็จคว้ารางวัลดีเด่นยอดเยี่ยมประเภทรถเอนกประสงค์พีพีวีที่มีรูปลักษณ์โดดเด่น เพียบพร้อมด้วยอุปกรณ์เพื่อความปลอดภัยครบครัน และปีที่ผ่านมา ปาเจโร่ สปอร์ต ก็คว้ารางวัลดีเด่นยอดเยี่ยมประเภทรถเอนกประสงค์ พีพีวี 7 ที่นั่งที่มีระบบช่วยเหลือหลากหลายคุ้มค่าอีกด้วย “ปาเจโร่ สปอร์ต” จึงเป็นรถเอนกประสงค์อีกหนึ่งรุ่นที่เพียบพร้อมสามารถตอบสนองทุกความต้องการและยังคุ้มค่าต่อการเป็นเจ้าของอย่างยิ่ง