Lifestyle

ภาครัฐ-เอกชน หนุน สศอ.พัฒนา “บิ๊กดาต้า” เพื่อยกระดับอุตสาหกรรมไทย

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

....

จากผลสำเร็จในการจัดงานประชุมวิชาการ สศอ. (OIE Forum) ประจำปี 2560 เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ซึ่งมีผู้ประกอบการ นักลงทุนทั้งภาคการผลิตและบริการ ภาครัฐ ภาคเอกชน สมาคมการค้าระหว่างประเทศ สมาคมบริษัทหลักทรัพย์ สถาบันการเงิน ตลอดจนสถาบันการศึกษาและภาคประชาชน เข้าร่วมงานจำนวนกว่า 2,000 คน ทำให้เกิดการบูรณาการแนวคิดและข้อเสนอแนะที่เป็นประโยชน์ต่อการกำหนดนโยบายในการพัฒนาอุตสาหกรรม โดยเฉพาะเรื่อง ฐานข้อมูลขนาดใหญ่ หรือบิ๊กดาต้า (Big Data) ที่หลายฝ่ายในที่ประชุมเห็นตรงกันว่ามีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการยกระดับอุตสาหกรรมของไทยเพื่อรองรับการเข้าสู่อุตสาหกรรม 4.0เพราะเป็นเทคโนโลยีที่เอื้อต่อการสร้างเครือข่ายที่ทำให้ทุกภาคส่วนเข้าถึงข้อมูลที่มีคุณภาพ และสามารถนำมาใช้ประโยชน์ในการพัฒนาอุตสาหกรรมได้อย่างเป็นรูปธรรมทั้งระบบ

นายศิริรุจ จุลกะรัตน์ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) กระทรวงอุตสาหกรรมกล่าวว่า สศอ. ในฐานะที่เป็นหน่วยงานหลักในการจัดทำนโยบายการพัฒนาอุตสาหกรรม ตลอดจนคาดการณ์แนวโน้มและแจ้งเตือนภัยด้านเศรษฐกิจอุตสาหกรรมของประเทศ ได้ให้ความสำคัญต่อการเร่งพัฒนาระบบ “Big Data for Foresight” ซึ่งถือเป็นนโยบายสำคัญของกระทรวงอุตสาหกรรมและรัฐบาลเพื่อใช้เป็นเครื่องมือในการวิเคราะห์ภาพอุตสาหกรรมแห่งอนาคต (Industrial Foresight) และเสริมศักยภาพการทำงานให้สามารถรองรับและติดตามข้อมูลการเปลี่ยนแปลงทั้งในประเทศและต่างประเทศได้ เช่น การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภค,  การเปลี่ยนแปลงสภาพทางกายภาพต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น อุปกรณ์ เครื่องจักร ของใช้ในครัวเรือน สินค้าอุปโภคบริโภค รวมถึงการเปลี่ยนแปลงระบบการบริการ  เป็นต้น 

ทั้งนี้ สศอ. ได้มีการจัดทำแผน และดำเนินการพัฒนาระบบ Big Data for Foresight แล้วทั้ง 3 ด้าน ประกอบด้วย

1. การสร้างทีมบุคลากร (Data Science Team) ด้วยการเร่งผลิตนักวิทยาศาสตร์ข้อมูล (Data Scientist) ด้วยการจัดหาผู้เชี่ยวชาญภายนอกมาเป็นหัวหน้าทีม พร้อมพัฒนาบุคลากรภายใน สศอ. ด้วยการฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการและฝึกปฏิบัติจริงในการทำงานร่วมกับผู้เชี่ยวชาญภายนอกและในระยะยาว อยู่ระหว่างการเสนอขอทุนจาก สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.)  เพื่อศึกษาต่อทางด้านนี้โดยตรง สำหรับนักวิเคราะห์ (Business Analyst) ซึ่งเป็นกลุ่มแรกในการตั้งโจทย์การพัฒนาอุตสาหกรรม ที่ สศอ.มีอยู่แล้ว ก็จะให้ความสำคัญในการเร่งพัฒนาการ Foresight อุตสาหกรรมและการใช้งานระบบบิ๊กดาต้าให้มากยิ่งขึ้น

2. การบริหารจัดการข้อมูล ในกรณีที่มีข้อมูลอยู่แล้วในแต่ละหน่วยงาน สศอ. จะหารือและจะทำ MOU ร่วมกัน ในการนำข้อมูลมาใช้ ซึ่งในช่วงที่ผ่านมาได้มีการทำ MOU ร่วมกับ การไฟฟ้านครหลวง และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคแล้ว เพื่อนำข้อมูลการใช้ไฟฟ้ามาร่วมวิเคราะห์ถึงภาวะทางเศรษฐกิจ และประสิทธิภาพการใช้ไฟฟ้า รวมถึงการประเมินความต้องการใช้ไฟฟ้า สำหรับใช้ในการจัดทำแผนพัฒนาระบบไฟฟ้าเพื่อรองรับกับความต้องการ และจะขยายเครือข่ายความร่วมมือในการเชื่อมโยงข้อมูลกับหน่วยงานอื่น เพื่อพัฒนาระบบบิ๊กดาต้าต่อไป

นอกจากนี้ จะมีการเพิ่มเติมการจัดทำข้อมูลใหม่ๆ ในการใช้ระบบบิ๊กดาต้า เช่น  การจัดทำระบบข้อมูล GIS เพื่อพิจารณาความเหมาะสมของการพัฒนาอุตสาหกรรมในเชิงพื้นที่ เช่น ที่ตั้งโรงงาน วัตถุดิบ/เครือข่ายการผลิต ระบบสาธารณูปโภค ระบบคมนาคมขนส่ง และสถาบันการศึกษา รวมถึงการจัดทำระบบเชื่อมโยงเครือข่ายภาคการผลิตตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ ปลายน้ำ, การจัดทำดัชนีวัดความสามารถในการแข่งขันด้านเศรษฐกิจอุตสาหกรรม เพื่อชี้วัดจุดแข็ง/จุดอ่อนของอุตสาหกรรม 
3. สถาปัตยกรรมระบบซอฟต์แวร์ อยู่ในระหว่างการพิจารณาระบบ Software สำหรับใช้ในการบริหารจัดการข้อมูล จำนวนมหาศาลและการวิเคราะห์ข้อมูลให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ด้วยการสร้างแบบจำลอง Data Model ให้เหมาะสมกับประเภทข้อมูล และสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามสถานการณ์โลก พร้อมนำองค์ความรู้ด้านปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence : AI) และการเรียนรู้จากเครื่อง(Machine Learning) มาใช้ประกอบการวิเคราะห์ และการพยากรณ์สถานการณ์ทั้งภายในและภายนอกประเทศให้ได้อย่างถูกต้องและรวดเร็ว

“สศอ. กำลังเร่งดำเนินการตามแผนงานที่กำหนด ในการพัฒนาระบบ Big Data for Foresight เพื่อให้สามารถใช้งานได้อย่างเป็นรูปธรรมซึ่งจะก่อให้เกิดการพัฒนาภาคอุตสาหกรรมทำให้ผู้ประกอบการมีความสามารถในการแข่งขัน และมีนวัตกรรมใหม่ ๆ ทั้งนี้ การทำงานจำเป็นต้องร่วมมือกันทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และนักวิชาการ ซึ่งมีสำคัญในการกำหนดทิศทางของการพัฒนาอุตสาหกรรมของประเทศไปพร้อมกับการใช้เครื่องมือหรือโมเดลต่าง ๆ ในการพยากรณ์และสร้างภาพอุตสาหกรรมอนาคต ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่เราต้องเรียนรู้ร่วมกัน เพื่อนำไปสู่การกำหนดยุทธศาสตร์การพัฒนาอุตสาหกรรมที่จะสร้างความเข้มแข็งให้กับประเทศไทยต่อไป” นายศิริรุจ กล่าวในตอนท้าย
 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ