Lifestyle

สวิตเซอร์แลนด์ ระบบการศึกษาที่สะท้อนมาจากรากฐานวิจัยและนวัตกรรม

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

อานิสงห์การขยายตัวและเติบโตของธุรกิจท่องเที่ยวและโรงแรมในช่วง 2-3 ปีมานี้  พร้อมกับเทรนด์ธุรกิจโรงแรมขนาดเล็กหรือบูติคโฮเทลกำลังเป็นที่นิยมแพร่หลาย ยังส่งผลให้แนวโน้มความต้องการที่จะศึกษาต่อในสาขาธุรกิจบริการและการโรงแรมเป็นอีกหนึ่งสาขาที่กำลังได้รับความสนใจมากขึ้น

หากเอ่ยถึงประเทศแม่แบบด้านการโรงแรมที่มีชื่อเสียงโดดเด่นในด้านหลักสูตรธุรกิจบริการระดับโลก ย่อมต้องมี “สวิตเซอร์แลนด์” เป็นอีกหนึ่งจุดหมายของนักเรียนต่างชาติจากทั่วโลกให้ความสนใจเข้าศึกษาต่อมากที่สุด รวมทั้งจากประเทศไทย ซึ่งเกิดจากการที่สวิตเซอร์แลนด์ได้ชื่อว่ามีระบบการเรียนการสอนทางด้านการโรงแรมที่ได้รับมาตรฐานที่ดีเยี่ยม

สวิตเซอร์แลนด์ ระบบการศึกษาที่สะท้อนมาจากรากฐานวิจัยและนวัตกรรม

จากคำบอกเล่าของ เอกธนา ฝ่ายซ้ายคราม กรรมการผู้จัดการ บริษัทเอกธนา เอ็ดยูเคชั่น เซอร์วิสเซส จำกัด สถาบันจัดหาและส่งเสริมการศึกษาชั้นนำในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ยืนยันว่า ปัจจุบันมีนักเรียนไทยกำลังนิยมเดินทางไปศึกษาต่อที่สวิตเซอร์แลนด์เพิ่มมากขึ้น และไม่เพียงแต่เฉพาะสาขาด้านการโรงแรมแรมเท่านั้นที่ให้ความสนใจ แต่ยังมีนักเรียนไทยที่เดินทางไปศึกษาต่อที่สวิตเซอร์แลนด์ หลากหลายสาขาวิชาและหลากหลายระดับชั้น ทั้งยังมีตั้งแต่ระดับมัธยม (Boarding School) ไปจนถึงระดับปริญญาตรีและปริญญาโท

“ปัจจุบันธุรกิจการท่องเที่ยวและการโรงแรม ถือเป็นอีกหนึ่งภาคอุตสาหกรรมสำคัญของประเทศไทย ที่สามารถทำรายได้หลักให้กับประเทศ ยอมรับว่าทุกวันนี้มีผู้ปกครองไทยสนใจส่งบุตรหลานไปเรียนเพิ่มขึ้นมากในแต่ละปี ซึ่งเป็นกระแสปากต่อปาก ส่วนหนึ่งเพราะธุรกิจโรงแรมกำลังมาแรงในไทยมีทั้งโรงแรมขนาดเล็กและขนาดใหญ่เกิดใหม่มากกว่าเดิม รวมถึงธุรกิจที่ต่อเนื่องด้านการท่องเที่ยวต่างๆ พ่อแม่จึงอยากให้ลูกศึกษาต่อด้านนี้  ซึ่งสวิตเซอร์แลนด์ยังมีหลักสูตร Entrepreneur สำหรับผู้ประกอบการ และยังมีคณะนวัตกรรม สาขาสตาร์ทอัพ ซึ่งเป็นสาขาวิชาที่กำลังเป็นที่ต้องการของตลาดมากขึ้น”

สวิตเซอร์แลนด์ ระบบการศึกษาที่สะท้อนมาจากรากฐานวิจัยและนวัตกรรม

เอกธนาเสริมว่าความโดดเด่นของระบบการศึกษาในสวิตเซอร์แลนด์ เกิดจากการวางเป้าหมายที่จะผลิตบุคลากรคุณภาพเพื่อตอบโจทย์โลกการทำงานจริง จึงให้ความสำคัญกับการพัฒนาหลักสูตรที่ทำให้นักเรียนได้ประสบการณ์ภาคปฏิบัติจริง

โดยสถาบันการศึกษามักมีความร่วมมือกับองค์กรธุรกิจในการพัฒนาหลักสูตร และสร้างสถานฝึกอบรมผู้ประกอบการ ร่วมกันพัฒนาจุดแข็งด้านการศึกษาให้พร้อมกับโลกการทำงานยุคปัจจุบันและอนาคต

“ที่นี่เขามีแนวคิดว่า เขาไม่ได้สร้างนักศึกษาให้เป็นนักศึกษา แต่สร้างบุคลากรให้กับธุรกิจ จึงต้องพร้อมทำงานได้ นักศึกษาระดับปริญญาตรีในสาขาการโรงแรม จะต้องผ่านการฝึกงานอย่างน้อยสองครั้ง โดยครั้งละไม่ต่ำกว่า 6 เดือน ดังนั้น บริษัทหรือองค์กรที่รับเด็กไปจึงจะไม่ถามเลยว่า คุณพร้อมที่จะทำงานไหม เพราะเด็กผ่านประสบการณ์มาแล้วตั้งแต่ตอนเรียน นักเรียนที่นี่จะมีบริษัทระดับเวิลด์คลาสส์บินไปเลือกและรับเข้าทำงานตั้งแต่ก่อนเรียนจบ เพราะทุกบริษัททั่วโลกรู้ว่านักเรียนจะได้เรียนรู้การเป็นเจ้าของกิจการตั้งแต่ยังไม่ได้จบ นี่คือจุดเด่น”

เอกธนาเอ่ยต่อว่า สวิตเซอร์แลนด์ยังเป็นประเทศที่มีนวัตกรรมติดต่อมาหลายสิบปี ซึ่งถือเป็นรากฐานสำคัญในการสร้างระบบการเรียนการสอนที่มีคุณภาพ

การที่สวิตเซอร์แลนด์เป็นประเทศนวัตกรรมที่ดีที่สุดของโลกมายาวนาน และเป็นทั้งฮับด้านไฟแนนเชียล เป็นประเทศที่มีคนที่ได้รับรางวัลโนเบลเยอะมากที่สุดอันดับสองของโลก ที่นี่จึงมีหลักสูตรหลากหลายให้เลือกเรียน ไม่นับถึงความหลากหลายและเปิดกว้างทางวัฒนธรรมมากกว่าประเทศอื่นใดในโลก

สวิตเซอร์แลนด์ ระบบการศึกษาที่สะท้อนมาจากรากฐานวิจัยและนวัตกรรม

“ด้วยระบบการศึกษามาจากพื้นฐานที่ดีของเขา เขาลงทุนทำรีเสิร์ชกับทุกเรื่องไม่เว้นแม้แต่เรื่องการศึกษา ทำให้สวิตเซอร์แลนด์เป็นประเทศที่รู้ว่าเขาควรจะไปในทิศทางไหนในอนาคต กับคนรุ่นใหม่ หลักสูตรเหล่านี้เขาพัฒนามานานแล้ว โดยไม่ต้องรอ 4.0 เมื่อจบปุ๊บคุณก็สามารถไปอยู่ส่วนไหนของโลกก็ได้

อย่างในหลักสูตรด้าน Hospitality ของเขา วันนี้ไม่ได้จำกัดแค่เรื่องการโรงแรมแล้ว แต่เขามองว่าคือ experience business ส่วนเด็กนักเรียนระดับไฮสกูล เขาก็ทุ่มเทความพร้อมให้กับเด็กมาก สังเกตได้จากครูในสวิตเซอร์แลนด์เงินเดือนค่อนข้างสูง เพราะเขาต้องการดึงครูเก่งๆ มาสอนเด็กของเขา”

สวิตเซอร์แลนด์ ระบบการศึกษาที่สะท้อนมาจากรากฐานวิจัยและนวัตกรรม

ส่วนอีกเหตุผลที่ชาวต่างชาติจากหลายประเทศทั่วโลกนิยมส่งลูกหลานไปเรียนที่สวิตเซอร์แลนด์ เพราะเป็นประเทศที่มีความปลอดภัย โดยมีการสำรวจมาแล้วว่าเป็นปลอดภัยมากที่สุดในยุโรปและมีเมืองที่น่าอยู่ที่สุดของโลกหลายเมือง ไม่ว่าจะเป็น ซูริค เจนีวา บาเซิล เป็นต้น

นอกจากนี้ ความได้เปรียบของการเป็นประเทศศูนย์กลางของยุโรป ซึ่งมีอาณาเขตติดต่อกับหลายประเทศ ทำให้ซึมซับความหลากหลายทางวัฒนธรรมและภาษา รวมถึงการมีหลักสูตรหลากหลายที่สามารถเลือกได้ ซึ่งเป็นการเปิดโอกาสสำหรับผู้ที่ต้องการศึกษาต่อในระดับมหาวิทยาลัยในหลายประเทศ

สวิตเซอร์แลนด์ ระบบการศึกษาที่สะท้อนมาจากรากฐานวิจัยและนวัตกรรม

 “บางโรงเรียนหรือวิทยาลัยมีนักเรียนมาจากทั่วโลกนับร้อยสัญชาติ ซึ่งประสบการณ์แบบนี้หายากมากในประเทศอื่นๆ แม้แต่ประเทศดังๆ ข้อดีสำหรับนักเรียน คือเราไม่รู้สึกแปลกประหลาด และเราจะได้สัมผัสกับสำเนียงภาษาที่แตกต่างกัน ซึ่งจะเป็นรากฐานที่ดีสำหรับคนที่จะต้องทำงานหรือมีอาชีพที่ต้องพบเจอกับผู้คนระดับนานาชาติ”

สวิตเซอร์แลนด์ ระบบการศึกษาที่สะท้อนมาจากรากฐานวิจัยและนวัตกรรม

หนึ่งในผู้ที่เคยสัมผัสประสบการณ์ตรงของระบบการเรียนการสอนของสวิตเซอร์แลนด์มาแล้ว คุณโศรยา บุนนาค Director โรงแรมตะวันนา บางกอก อดีตศิษย์เก่ากลียง (Glion) เผยว่าครอบครัวเธอเรียนจบจากสวิตเซอร์แลนด์มาแล้วถึงสามรุ่น ถือเป็นสิ่งที่ช่วยการันตีคุณภาพการศึกษาของสวิตเซอร์แลนด์ได้เป็นอย่างดี

“เนื่องจากที่บ้านทำธุรกิจโรงแรม ก็เลยสนใจที่นี่ เพราะคุณแม่ก็เรียนจบจากสวิส  ญาติๆ ก็จบกันมาจากสวิสเซอร์แลนด์ เราจึงตัดสินใจเลือกเรียนที่นี่ พอไปเรียนแล้ว ถามว่าเป็นไปตามที่คาดหวังไหม ต้องเรียกว่า Over expect เลยดีกว่า เพราะต้องบอกก่อนว่า ก่อนที่เราจะเลือกไปเรียนที่สวิส เราก็ดูของที่ประเทศอื่นไว้ด้วย แต่ด้วยพอมาดูหลักสูตรแล้ว ที่นี่ตรงกับสิ่งที่เราต้องการ”

ประสบการณ์ที่ทำให้คุณโศรยาได้รับคือประสบการณ์ความรู้ทั้งในห้องเรียนและนอกห้องเรียนมาใช้กับการทำงานจนถึงทุกวันนี้

สวิตเซอร์แลนด์ ระบบการศึกษาที่สะท้อนมาจากรากฐานวิจัยและนวัตกรรม

“ตอนไปเรียน เราไม่เคยห่างจากครอบครัว และไม่เคยอยู่โรงเรียนประจำเลย ตอนไปสวิตเซอร์แลนด์เราต้องหัดอยู่คนเดียว เราเป็นคนไทยคนเดียวที่นั่น แต่การได้อยู่กับเพื่อนหลากหลายเชื้อชาติ ทำให้เรามีมุมมองการใช้ชีวิตใหม่ๆ รู้จักปรับตัว ถือเป็นประสบการณ์ที่ดีมาก”

ความประทับใจในระบบการศึกษา ทำให้คุณโศรยายังส่งลูกสาวไปศึกษาต่อในระดับมัธยมศึกษาที่สวิตเซอร์แลนด์ด้วย

“ตอนที่เขาพูดว่าอยากไปเรียนเมืองนอก เราก็ไม่แน่ใจว่าเขาจะอยู่ไหวไหม เพราะเขาเป็นลูกสาวคนเดียว เราก็ค่อนข้างเป็นห่วง เลยบอกเขาแม่ให้ไปได้ แต่ต้องเป็นสวิตเซอร์แลนด์เท่านั้นนะ เพราะที่อื่นแม่ไม่ค่อยไว้ใจ เขาก็บอกแน่นอน เพราะเขาเห็นว่าที่บ้านทุกคนจบจากสวิตเซอร์แลนด์หมด เขาอยากไป

ซึ่งในเรื่องระบบการศึกษาเรามั่นใจอยู่แล้ว ในเรื่องความปลอดภัยยิ่งเป็นสิ่งสำคัญ หลังจากเรียนจบไฮสคูลที่นั่น ลูกสาวก็กลับมาสอบเข้าคณะแพทย์ที่เมืองไทยได้ ทุกวันนี้ ความสำเร็จของลูกสาวกลายเป็นต้นแบบที่ดีของเด็กรุ่นเดียวกัน เราก็ดีใจว่าเขาทำได้”

เธอเอ่ยทิ้งท้ายว่า หากในครอบครัวมีรุ่นต่อไป หรือกับเพื่อนคนอื่นๆ ก็ยังแนะนำให้ไปเรียนที่สวิตเซอร์แลนด์แน่นอน

“เพราะเราเคยผ่านมาแล้ว รู้ว่าที่นี่ดียังไง”

สวิตเซอร์แลนด์ ระบบการศึกษาที่สะท้อนมาจากรากฐานวิจัยและนวัตกรรม

อีกหนึ่งคนรุ่นใหม่ แชมป์ ศักดิ์ทิพ ปันยารชุน ผู้บริหารหนุ่ม KRAS Group ที่ถ่ายทอดประสบการณ์การใช้ชีวิต ในขณะเป็นนักศึกษาปริญญาโทที่สวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งเขาบอกว่า “เป็นประสบการณ์ดีๆ ที่หาไม่ได้จากที่อื่น”  

ก่อนหน้านั้นคุณแชมป์เคยศึกษาระดับไฮสคูล จนถึงระดับปริญญาตรีที่ประเทศอังกฤษ และตัดสินใจเรียนต่อปริญญาโทที่สวิตเซอร์แลนด์

“ตอนผมจบปริญญาตรีบริหารธุรกิจที่อังกฤษ ยังไม่ได้มีแพลนอะไร คิดว่าอาจกลับมาทำงานที่เมืองไทยหรือไม่ก็เรียนต่อ MBA หรือการตลาด ตอนนั้นยังไม่มีความคิดว่าจะไปเรียนต่อที่สวิตเซอร์แลนด์ เพราะผมมองว่าแตกต่างจากอังกฤษสิ้นเชิง ทั้ง city life และสภาพแวดล้อมทุกอย่าง” คุณแชมป์เริ่มเล่า

“เผอิญผมน้องชายหลังเรียนจบไฮสคูลอังกฤษ แต่เขาชอบด้านอาหารและการโรงแรมจึงไปเรียนต่อที่สวิตเซอร์แลนด์ ก็เลยรู้สึกว่าอยากจะลองเปลี่ยนดู ตอนนั้นเลยขอคุณพ่อสมัครมหาวิทยาลัยทั้งในอังกฤษและสวิตเซอร์แลนด์พร้อมกัน ซึ่งที่อังกฤษผมได้ตอบรับทั้งจากมหาวิทยาลัย UCL และมหาวิทยาลัยอิมพีเรียล (Imperial College London) แต่พอดีน้องชายบอกว่า ถ้ามาเรียนสวิตเซอร์แลนด์ ยูสกีได้เกือบทั้งปีเลยนะ”

สวิตเซอร์แลนด์ ระบบการศึกษาที่สะท้อนมาจากรากฐานวิจัยและนวัตกรรม

ผลจากชักชวนของน้องชายประโยคดังกล่าว ประกอบกับความเชื่อมั่นในมาตรฐานของหลักสูตรที่มีชื่อเสียงระดับโลก ทำให้คุณแชมป์เลือกที่ศึกษาต่อระดับปริญญาโท MBA ด้าน International Hospital and Service Industries Management ที่ Glion Institute of High Education ในสวิตเซอร์แลนด์

“ตอนที่ผมมาปรึกษาพี่อ้วน เอกธนา คำถามแรกที่ผมถาม คือ ผมจะอยู่ได้ไหมครับ เพราะผมอยู่อังกฤษมาแปดเก้าปี ลอนดอนมีอาหารอร่อยให้กินหมดทุกอย่าง ผมมีเพื่อนมีสังคมที่ลอนดอน แต่ถ้าสวิตเซอ์แลนด์ชีวิตคงต้องเปลี่ยนหน้ามือเป็นหลังมือเลยไหม แถมยังเสียดายที่อังกฤษ เพราะตรงกับสาขาที่เราอยากเรียน แต่มีอีกความคิดหนึ่งเกิดขึ้นว่า ถ้าเป็นสวิตเซอร์แลนด์เราน่าจะทำอะไรเยอะขึ้นได้ประสบการณ์ใหม่ๆ ที่แตกต่าง”

คุณแชมป์เล่าต่อว่า หลังจากวันแรกที่ไปถึงแคมปัส ก็ยิ่งย้ำถึงความรู้สึกไม่มั่นใจกับบรรยากาศ

“ตอนไปถึงแคมปัสที่บลู (Bulle) รู้สึกเลยว่ามันเงียบมาก เป็นเมืองเล็กๆ เราเริ่มหวั่นใจแล้วว่าจะอยู่ได้ไหม แต่เย็นวันนั้นน้องชายพาผมไปดูอีกแคมปัสอีกที่ ที่มองเทรอซ์ พอเราได้ขึ้นไปถึงเห็นวิวทะเลสาบเจนีวา เจอน้ำสีฟ้าใส สวยมาก ถึงได้รู้ว่า ที่นี่คือสวรรค์ชัดๆ เป็นความรู้สึกที่เราไม่เคยเจอมาก่อนจากที่อื่น

ผมอยู่อังกฤษมาเก้าปี เชื่อไหมว่าผมไม่เคยไปเที่ยวที่ไหน นอกจากแคมปัส โรงเรียน และลอนดอน แต่ที่สวิตเซอร์แลนด์ผมได้ท่องเที่ยวหลายๆ เมือง หลายประเทศ เพราะสวิตเซอร์แลนด์เขาเป็น Central of Europe สมมติว่า วันนี้คุณอยากไปกินมื้อกลางวันที่มิวนิคก็ขับรถไปได้ หรืออยากไปช็อปปิ้ง ดูรองเท้าที่มิลานก็แค่สามชั่วโมง หรือจะนั่งเรือข้ามฟากไปกินข้าวที่ฝรั่งเศสก็ยังได้”

ส่วนด้านความปลอดภัย คุณแชมป์ยอมรับว่าสวิตเซอร์แลนด์มีความปลอดภัยสูงจริง

“ในสวิตเซอร์แลนด์ ไม่ว่าผมจะไปหาเพื่อนกลับดึกแค่ไหน เราก็รู้สึกว่าการนั่งรถไฟในสวิตเซอร์แลนด์ปลอดภัย”

สวิตเซอร์แลนด์ ระบบการศึกษาที่สะท้อนมาจากรากฐานวิจัยและนวัตกรรม

สวิตเซอร์แลนด์ยังเป็นอีกหนึ่งจุดหมายของผู้ที่ต้องการอนาคตที่ดีด้านการศึกษา ร่วมเปิดประสบการณ์ในโลกใหม่ๆ ของการศึกษา รับฟังประสบการณ์จริงจากศิษย์เก่าสวิตเซอร์แลนด์ตัวจริง และมาร่วมถอดรหัส “Swiss Made” ทำไมถึงเป็นการันตีที่ทั่วโลกให้การยอมรับ ในงาน STUDY SWISS FAIR 2019 ขึ้นในวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2562 นี้  ณ สถานทูตสวิตเซอร์แลนด์

รายละเอียดเพิ่มเติม โทร. 02 333 3000 กด 1

หรือลงทะเบียนเข้าร่วมงานได้ที่ www.bangkokbiznews.com/seminar/swiss

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ