ที่ผ่านมา MG3 ถือเป็นรถรุ่นกะทัดรัดที่มีเสน่ห์โดดเด่นในด้านดีไซน์และสีสันโดนใจสะกดสายตา จนทำให้หลายคนตกหลุมรัก และสามารถก้าวมาเป็นรถขวัญใจฮิปสเตอร์รุ่นใหม่ นับตั้งแต่วันแรกของการเปิดตัวในตลาดได้จนถึงปัจจุบัน
หากแต่วันนี้ การกลับมาพร้อมรูปลักษณ์ใหม่ ที่โฉบเฉี่ยวยิ่งกว่าเดิม จนใครหลายคนอาจเกิดอาการ “Love at First Sight” ได้ไม่ยาก เพราะ MG3 ใหม่รุ่นล่าสุดนี้กำลังจะเพิ่มดีกรีความสนุกและเร้าใจให้กับผู้ขับขี่มากยิ่งขึ้น
โดยนอกจากจะมาในลุคสีสันสุดฮิปที่เห็นแล้วยังกระตุกหัวใจให้เต้นระรัวเช่นเดิม ภายใต้นิยาม ‘WE ARE FUN’ มองโลกให้สนุกทุกเส้นทางทางค่ายเอ็มจี ยังตั้งใจที่จะปั้นให้ MG3ใหม่ คันนี้สามารถตอบโจทย์ทุกอารมณ์การขับขี่ โดยการผสานความโดดเด่นทั้งด้านสมรรถนะ การควบคุม การออกแบบและความสะดวกสบายเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว ในสไตล์ ‘บริท ไดนามิค’ (BRIT DYNAMIC)ที่ทางค่ายเอ็มจีใช้เป็นแนวคิดการพัฒนาต่อยอดรถรุ่นนี้ จนมีความเปลี่ยนแปลงที่อาจทำให้หลายคนประทับใจยิ่งขึ้น
ทีนี้มาลองดูกันว่าอะไรเป็นเหตุผลดีๆ ที่จะทำให้เจ้า MG3 ใหม่ตัวนี้ยิ่ง “สนุกและเร้าใจ” ได้บ้าง
- สนุกด้วยระบบสั่งการอัจฉริยะ i-SMART
หากถามว่าอะไรคือเหตุผลที่การขับขี่ MG3 แล้ว ทุกอย่างดูเป็นเรื่องง่ายและสนุกทุกเวลาได้ นั่นเพราะการมีระบบสั่งการอัจฉริยะ i-SMART (THE INTELLIGENT SYSTEM FOR SMART LIFE)ที่ตอบสนองไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ในยุคนี้ โดยการนำเทคโนโลยี IoT(Internet of Things) เข้ามาใช้ช่วยให้คุณกับรถสื่อสารกันได้เสมอ
โดยเทคโนโลยีอัจฉริยะนี้สามารถเรียนรู้จากคำสั่งและการใช้งานของคุณเอง ผ่านการตรวจสอบข้อมูลจากรถและการใช้งาน และยังมาพร้อมกับการอัพเดทฟังก์ชันใหม่บนแผนที่นำทางที่รองรับแอพลิเคชัน Wongnai และ Agoda คุณจึงไม่พลาดร้านอาหารเด็ดๆ หรือแม้แต่ที่พักฮิปๆ บนแผนที่นำทางส่วนตัวและยังพร้อมให้ความบันเทิงแบบเต็มอารมณ์กับเสียงเพลงจากศิลปินค่ายต่างๆ ผ่านระบบออนไลน์ live stream บนระบบคลาวด์ได้มากกว่า 1 ล้านเพลง เรียกว่าตอบโจทย์คนชอบกิน-เที่ยวครบจบในที่เดียว
สำหรับ i-SMART รองรับการแสดงผลผ่านหน้าจอสีระบบสัมผัสขนาด 8 นิ้ว (เฉพาะรุ่น X และ V)และยังรองรับการเชื่อมต่อไร้สายผ่านบลูทูธพร้อมพอร์ต USB ที่สำคัญเจ้าเทคโนโลยีอัจฉริยะนี้สามารถรวบรวมข้อมูลสำคัญและแจ้งต่อผู้ขับได้ตลอดเวลาผ่านสมาร์ทโฟน เช่น ระดับน้ำมันเชื้อเพลิง สภาพการทำงานของแบตเตอรี่ ถุงลมนิรภัย และสถานะประตู พร้อมช่วยบอกตำแหน่งรถยนต์และแจ้งเตือนการสตาร์ทเครื่องยนต์ที่ผิดปกติซึ่งอาจเกิดจากการโจรกรรม ช่วยเพิ่มความปลอดภัยได้อีกระดับ และ i-Call ระบบโทรออก-รับสายในกรณีฉุกเฉิน แน่นอนว่าสิ่งเหล่านี้จะทำให้การใช้ชีวิตของคุณสนุกและสะดวกสบายยิ่งขึ้น
2.เร้าใจด้วยการออกแบบที่ตอบสนองไลฟ์สไตล์อย่างเหนือกว่า
คงจำกันได้ว่าในด้านรูปลักษณ์ภายนอกของ MG3 ไม่เป็นสองรองใคร แต่สำหรับ MG3 ใหม่นี้ยัง ได้รับแรงบันดาลใจในการออกแบบจากสุดยอดคอนเซปต์คาร์ขุมพลังไฟฟ้า MG-Emotion โดยนำมาผสมผสานเข้ากับไลฟ์สไตล์ความต้องการของคนยุคใหม่ ก่อนถ่ายทอดออกมาเป็นยานยนต์ที่มีคาแร็คเตอร์สนุกง่ายต่อการเข้าถึง และโดดเด่นไม่ซ้ำใครยิ่งกว่าเดิม
ไม่ว่าจะเป็นกระจังหน้าดีไซน์ใหม่ ผสานกับไฟหน้าแบบโปรเจคเตอร์ (Projector Headlamp) และเติมเต็มความจัดจ้านด้วยสีสันสไตล์ฮิปเตอร์ บริท ดูโอ้ คัลเลอร์ สไตลิ่ง (Brit Duo Colour Styling) มาพร้อมกับมุมมองที่เปิดกว้างเสมือน Display เท่ๆ กับหลังคาแบบ ซันรูฟ (Sunroof)ซึ่งสามารถเปิด-ปิดง่ายๆ ด้วยระบบไฟฟ้า เสริมบุคลิกความทันสมัยนำสายตาด้วยไฟท้ายแบบแอลอีดี ไลท์ไกด์ (LED Light Guide) ส่วนด้านข้างเน้นเส้นสายที่ปราดเปรียวพาดยาวจากด้านหน้าจนถึงซุ้มล้อหลัง ซึ่งลงตัวกับล้อแม็กดีไซน์ใหม่ แบบ Bi-Colourขนาด 16 นิ้ว ที่ช่วยดึงดูดสายตาในทุกมุมมอง
3. ความเร้าใจที่มาพร้อมความอเนกประสงค์ที่ลงตัว
เพื่อตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ ค่ายเอ็มจีจึงให้ความสำคัญกับทุกรายละเอียดของการออกแบบภายในห้องโดยสารของ MG3 ใหม่ที่เน้นการตกแต่งด้วยดีไซน์พรีเมียม และสะท้อนความสปอร์ตผ่านความเท่มีสไตล์ภายใต้เส้นสายและสีสันของเบาะโดยสารลายโมเดิร์นกราฟิก ให้นั่งสบายกับที่นั่งแถวหน้าซึ่งสามารถตอบรับกับสรีระได้หลากหลาย ฝั่งคนขับที่ปรับได้ 6 ทิศทางและฝั่งผู้โดยสารด้านหน้าปรับ 4 ทิศทาง ส่วนเบาะแถวหลังสามารถปรับพับแยกส่วนในการเก็บสัมภาระแบบ 60:40 รองรับความอเนกประสงค์ได้อย่างลงตัว
ส่วนพวงมาลัยหุ้มหนังมาพร้อมสวิตช์มัลติฟังก์ชัน สามารถควบคุมเครื่องเสียงและปุ่มรับ-วางสายโทรศัพท์อย่างง่ายดายเพียงปลายนิ้วสัมผัส ให้ทุกการเดินทางไกลสะดวกมากยิ่งขึ้นด้วยระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ Cruise Control (เฉพาะรุ่น V) นอกจากนี้ผู้ขับยังรับรู้สถานะของรถแบบเรียลไทม์ ด้วยหน้าจอแสดงผลอัจฉริยะ Multi-Function Display
4. สัมผัสสมรรถนะใหม่ที่ “เร้าใจ”มากยิ่งขึ้น
ขุมพลังของ MG3 ใหม่เป็นบล็อกเบนซิน DOHC 4 สูบ 16 วาล์ว 1,498 ซีซี VTi-TECH จ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงด้วยหัวฉีดมัลติพอยท์ให้กำลังสูงสุด 112 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที พร้อมแรงบิดสูงสุด 150 นิวตัน-เมตรที่ 4,500 รอบ/นาที ผสานระบบส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 4 จังหวะ พร้อม Manual Mode ที่ปรับปรุงใหม่ตอบสนองการขับขี่ได้สนุกมากยิ่งขึ้นสามารถรองรับน้ำมันเชื้อเพลิงได้สูงสุดถึง E85
ให้การควบคุมรถไปในทิศทางที่ต้องการได้สนุกยิ่งขึ้นด้วยระบบพวงมาลัยแบบพาวเวอร์ไฮดรอลิก อีกทั้งยังมีรัศมีวงเลี้ยวแคบสุดเพียง 5.425 เมตร ที่ให้คุณพร้อมฝ่าสภาพจราจรอันแสนแออัดในเมืองอย่างคล่องตัว
ที่สำคัญยังคงประสิทธิภาพอันโดดเด่นด้วยระบบช่วงล่าง EUROPEAN TUNING SUSPENSIONด้านหน้ามาในรูปแบบของแมคเฟอร์สันสตรัท พร้อมเหล็กกันโคลง ส่วนด้านหลังเป็นทอร์ชันบีม สามารถตอบโจทย์และคอนโทรลรถอย่างมั่นใจในทุกระดับความเร็วไม่ว่าทางตรงหรือทางโค้ง ในขณะที่ระบบเบรกด้านหน้ามาในรูปแบบดิสก์เบรกพร้อมช่องระบายความร้อน ส่วนด้านหลังเป็นดรัมเบรก
5. เร้าใจด้วยความปลอดภัยกว่าเดิม
แม้ว่า MG3 ใหม่ เป็นรถแฮทแบ็คขนาดกะทัดรัด แต่ในด้านความปลอดภัยทางเอ็มจีก็กล้าการันตีว่าได้ให้ความใส่ใจอย่างจัดเต็มไม่น้อยหน้ากับรถรุ่นพี่อื่นๆ ในค่าย
ซึ่งด้วยโครงสร้างตัวถังนิรภัย USD-Ultimate Stiffness Design พร้อมถุงลมนิรภัยคู่หน้า ให้ความมั่นใจและความปลอดภัยแบบเต็มขั้นครบครันยิ่งกว่าเมื่อเทียบกับรถในระดับเดียวกัน ด้วยระบบความปลอดภัยแบบ SYNCHRONIZE PROTECTION SYSTEM รวม 8 ฟังก์ชั่น ที่ทำงานผสานกัน ทั้ง ABS-ANTI-LOCK BRAKING SYSTEM ระบบป้องกันล้อล็อกขณะเบรกฉุกเฉิน, EBA-ELECTRONIC BRAKE ASSIST ระบบช่วยเสริมแรงเบรกด้วยอิเล็กทรอนิกส์, EBD-ELECTRONIC BRAKE FORCE DISTRIBUTION ระบบช่วยกระจายแรงเบรก, SCS-STABILITY CONTROL SYSTEM ระบบควบคุมการทรงตัว, CBC-CURVE BRAKE CONTROL ระบบควบคุมการเบรกขณะเข้าโค้ง, TCS-TRACTION CONTROL SYSTEM ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี ควบคุมการลื่นไถล, HAS-HILL START ASSIST SYSTEM) ระบบช่วยการออกตัวบนทางลาดชันและ MSR-MOTOR CONTROL SLIDE RETAINER ระบบป้องกันการลื่นไถล เมื่อเกียร์ลดต่ำอย่างฉับพลัน
นอกจากนี้ยังครบครันด้วยระบบความปลอดภัยมาตรฐาน ไม่ว่าจะเป็น FOLLOW ME HOME LIGHTไฟส่องสว่างนำทางหลังจากดับเครื่องยนต์, ระบบล็อกประตูอัตโนมัติ (Speed Sensing Door Lock), จุดยึดเบาะที่นั่งเด็ก ISOFIX, เข็มขัดนิรภัยคู่หน้าแบบ 3 จุด 2 ตำแหน่ง, เข็ดขัดนิรภัยแถวหลังแบบ 3 จุด 3 ตำแหน่ง, กล้องมองหลัง (เฉพาะรุ่น X และ V), สัญญาณเตือนระยะถอยหลัง (ยกเว้น รุ่น C), ระบบกุญแจนิรภัย Immobilizer และชุดซ่อมยางฉุกเฉิน
MG3 ใหม่มี 5 สี ให้เลือกได้แก่ เหลือง-ทิวดอร์ เยลโล่ (Tudor Yellow), แดง-รูบี เรด (Ruby Red), ฟ้า-มารีนา บลู (Marina Blue), ขาว-อาร์กติกไวท์ (Arctic White) และดำ-แบล็คไนท์ (Black Knight) โดยทำตลาด 4 รุ่น คือ รุ่นC ราคา 519,000 บาท, รุ่น D ราคา 549,000 บาท, รุ่น X Sunroof ราคา 589,000 บาท และรุ่นV Sunroof ราคา 629,000 บาท
สำหรับลูกค้าที่ซื้อรถยนต์ MG3 ใหม่ จะได้รับแพ็คเกจใช้งานระบบอัจฉริยะ i-SMART ฟรี เป็นระยะเวลา 5 ปี และอุ่นใจกับการบริการแพสชั่น เซอร์วิส (Passion Service) ภายใต้การรับประกันคุณภาพนาน 4 ปี หรือ 120,000 กิโลเมตร พร้อมบริการช่วยเหลือฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมง (Roadside Assistance) และการให้คำแนะนำผ่านศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์ 1267 (MG Call Centre 1267) รวมไปถึงบริการเช็คระยะนอกสถานที่ (Mobile Services) ผู้ที่สนใจสามารถสัมผัส MG3 ใหม่ ได้ที่ผู้แทนจำหน่าย เอ็มจี ทั่วประเทศ หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://www.mgcars.com
ข่าวที่เกี่ยวข้อง